รวบหัวโจกขาโจ๋ ดูหนัง 4KINGS แล้วอินจัด ยกพวกไล่ทำร้ายเด็กเทคนิคนอกโรง
รวบหัวโจกยกพวกทำร้ายนักเรียนเทคนิค ดูหนัง 4 Kings แล้วอินจัด ตำรวจจัดกำลังเฝ้าโรงหนัง วอนยกเลิกโปรโมชั่นใส่เสื้อช็อปมาดูแล้วลดราคา
(15 ธ.ค.64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีกลุ่มวัยรุ่นหลายสิบคน ซึ่งแต่งตัวคล้ายกับนักเรียน นักศึกษาสายอาชีวะยกพวกวิ่งไล่ทำร้ายร่างกายกันบริเวณลาดจอดรถจักรยานยนต์ประตูทางเข้า-ออกฝั่งโรงหนังของห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีกาฬสินธุ์ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยชาวบ้านได้ถ่ายคลิปวิดีโอไว้ แล้วนำมาโพสต์ในเฟซบุ๊ก พร้อมข้อความ “เบิ่งหนัง กะหยังตีกันเนาะ อินเกินจริง”
ล่าสุดที่บริเวณหน้าสภ.เมืองกาฬสินธุ์ พ.ต.อ.โกวิท เจริญวัฒนศักดิ์ รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.พัทฐกร ศาสนะสุพินธ์ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พ.ต.ท.สุเทพ ภูกันหา รองผกก.(สอบสวน)สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พ.ต.ท.เทวฤทธิ์ บูรณรักษ์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พ.ต.ท.สีหนาท จันทร์เหลือง สว.สส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.เมืองกาฬสินธุ์กันแถลงผลการติดตามและจับกุมตัว นายเลอวิทย์ หรือ นะโม อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่มหรือหัวโจกที่พาพวกไล่ทำร้ายร่างกายนักเรียนวิทยาลัยเทคนิค ทำให้นักเรียนชายอายุ 16 ปี ได้รับบาดเจ็บ
พ.ต.อ.โกวิท เจริญวัฒนศักดิ์ รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 18.30 น.วันที่ 10 ธันวาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองกาฬสินธุ์ได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มวัยรุ่นทะเลาะวิวาทกันบริเวณลานจอดรถจยย.ประตูทางเข้าฝั่งโรงหนังห้างบิ๊กซีกาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบไม่พบกลุ่มวัยรุ่น เนื่องจากได้แยกย้ายกันไปแล้ว จึงสอบถามรปภ.ทราบว่าได้มีกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 30 คน ทะเลาะวิวาทวิ่งไล่จะทำร้ายกัน ต่อมามีนักเรียนชายอายุ 16 ปี วิทยาลัยเทคนิคกาฬสินธุ์ ซึ่งได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะ และด้านหลังพร้อมเพื่อนซึ่งเป็นพยานที่ถูกวิ่งไล่อีก 9 คน เข้ามาลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ซึ่งยืนยันว่าจำหน้าและรูปพรรณหัวหน้ากลุ่มวัยรุ่นที่วิ่งไล่ทำร้ายได้ โดยจะมีรอยสักที่บริเวณคิ้วและคอด้านซ้าย กระทั่งชุดสืบสวนสภ.เมืองกาฬสินธุ์สืบทราบว่ากลุ่มที่มาก่อเหตุคือกลุ่มของนายเลอวิทย์ เจ้าหน้าที่จึงติดตามตัวมาได้ขณะกำลังไปบวชหน้าไฟให้กับญาติที่ อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์
พ.ต.อ.โกวิท กล่าวต่อว่า สำหรับนายเลอวิทย์ ไม่ได้เป็นนักเรียน หรือนักศึกษาแต่อย่างใด ซึ่งพฤติกรรมวันเกิดเหตุกลุ่มของนายเลอวิทย์ประมาณ 20 คน ส่วนใหญ่ไม่ได้เรียน แต่พยายามแต่งตัวให้คล้ายกับนักเรียนสายอาชีวะเสื้อสีขาว กางเกงสแล็ค คลุมทับด้วยเสื้อแขนยาวมาดูหนังเรื่อง 4KINGS เนื่องจากหวังว่าจะได้ส่วนลด 20 บาท เพราะหากใส่เสื้อช็อปประจำสถาบันมาดูจะได้ส่วนลด ซึ่งเมื่อดูหนังจบ กลุ่มของนายเลอวิทย์ ได้ตะโกนใส่มาทางนักเรียนเทคนิคว่า “อินโว้ย” จากนั้นก็ลงมือวิ่งไล่ทำร้ายกลุ่มนักเรียนเทคนิค และมีชาวบ้านถ่ายคลิปไว้ได้
พ.ต.อ.โกวิท กล่าวอีกว่า ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติพบว่านายเลอวิทย์ ยังเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร, ยิงปืนโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมชนอีกด้วย หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงใส่ชาวบ้าน ที่บ้านหนองกุง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2564 ซึ่งคดีนี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต อย่างไรก็ตามอยากฝากไปถึงกลุ่มวัยรุ่น น้องๆนักเรียน นักศึกษาที่ดูหนังเรื่อง 4 คิงส์ ทราบว่าผู้สร้างนั้นจุดประสงค์ต้องการให้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจ ซึ่งดูแล้วจะต้องใช้สติ นำเอาสิ่งดีๆ ที่เป็นบทเรียนที่ถูกต้องมาเป็นแบบอย่าง อย่างนำเอาสิ่งที่ไม่ดีบางฉากในเรื่องมาเลียนแบบหรือเป็นแบบอย่าง
ด้าน พ.ต.อ.พัทฐกร ศาสนะสุพินธ์ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า เบื้องต้นนอกจากพนักงานสอบสวนจะแจ้งข้อหากับนายเลอวิทย์ตามหมายจับเก่าแล้ว ซึ่งการก่อเหตุไล่ทำร้ายนั้น หลังจากรวบรวมพยานหลักฐานจะได้แจ้งข้อหาเพิ่ม ทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ ส่วนวัยรุ่นที่อยู่ในกลุ่มของนายเลอวิทย์ที่เหลือนั้น อยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามตัวว่ามีใครบ้างที่ร่วมก่อเหตุ และมีส่วนเกี่ยวหรือไม่ เพราะเบื้องต้นผู้เสียหายจำได้แต่นายเลอวิทย์
พ.ต.อ.พัทฐกร กล่าวอีกว่า ส่วนมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยนั้น ขณะนี้ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าสังเกตการณ์ดูแลเข้มงวดทางเข้า-ออก และบริเวณโรงหนังของห้างทุกวัน และเข้มงวดทุกรอบฉาย ทราบว่าในช่วงนี้จะฉายวันละ 7 รอบ และอีกประมาณ 3-4 จะลดรอบฉายเหลือวันละ 1 รอบ คาดว่าอีกประมาณ 1-2 สัปดาห์ ก็จะออกจากโรง ทั้งนี้อยากฝากไปยังผู้ดูแลหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับหนังเรื่องนี้ในช่วงที่กำลังฉายควรยกเลิกการให้นักเรียน นักศึกษาสวมเสื้อช็อปมาดูแล้วมีส่วนลด 20 บาท ให้สวมชุดธรรมดามาดูก็พอแล้ว เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นการแบ่งแยกสถาบันการศึกษาและอาจจะเกิดความขัดแย้งของสถาบันการศึกษาได้ ซึ่งทางที่ดีต้องยกเลิกกรณีนี้
ขณะที่ด้าน นางทองใบ อายุ 64 ปี ยายนายเลอวิทย์ กล่าวว่า ปกติหลานชายจะมีนิสัยอ่อนน้อม พูดจาไพเราะ แต่หากกินยาเข้าไป จะมีนิสัยเปลี่ยนไป ออกจะก้าวร้าวไปบ้างตามประสาวัยรุ่น นอกจากนี้ค่อนข้างจะมีอาการทางสมอง ในบางครั้ง อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมของหลานชายที่เกิดขึ้นครั้งล่าสุด ต้องขอแสดงความเสียใจต่อสังคมและวัยรุ่นที่ได้รับบาดเจ็บด้วย ทั้งนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย