เจ้าของร้านอาหารเชียงใหม่โวยแอปดัง ประกาศชื่อแจกทอง สุดท้ายได้ร่มสนาม
คุณแมว (นามสมมติ) เจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ เผยเมื่อวันพุธ (15 ธ.ค.) กับ sanook.com ว่าร้านของตนมีชื่อเป็นผู้โชคดีได้รับทองคำจากแอปพลิเคชันรับส่งพัสดุและอาหารชื่อดัง แต่กลับส่งร่มสนามมาแทน ทั้งที่ตนเสียภาษีแล้วและทำตามกติกาต่างๆ แล้ว
เจ้าของร้านอาหารแห่งนี้เล่าว่า แอปพลิเคชันดังกล่าวเปิดให้ผู้ค้าเข้าร่วมขายสินค้าผ่านแอปพลิเคชัน โดยมีโปรโมชันว่า ถ้าหากเข้าร่วมระหว่างวันที่ 6-8 พ.ย. จะมีสิทธิ์ร่วมลุ้นรางวัล โดยมีทองคำครึ่งสลึง เป็นรางวัลใหญ่สุด ตนจึงนำร้านเข้าร่วมโครงการ และเมื่อวันที่ 25 พ.ย. ก็มีการประกาศชื่อร้านค้าที่ได้รับรางวัลผ่านแอปพลิเคชันดังในเครือธุรกิจเดียวกัน ซึ่งก็มีชื่อร้านอาหารของตนได้รับทองคำเป็นรางวัล โดยมีเงื่อนไขว่าจะเรียกเก็บค่าภาษีเป็นมูลค่า 5% ของของรางวัล ซึ่งก็คือประมาณ 200 บาท
เหตุที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นเมื่อช่วงที่ผ่านมาของวันพุธ (15 ธ.ค.) มีพัสดุที่ส่งแอปพลิเคชันนี้มาถึงตน แต่เมื่อเปิดเมื่อออกมากลับไม่ใช่ทองคำอย่างที่ตนคาดหวัง แต่เป็นร่มสนาม ซึ่งเป็นรางวัลรองลงมา
ต่อมา ตนจึงโทรศัพท์ไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่ปรากฏบนพัสดุ แต่ปลายทางตอบว่าเป็นเพียงบริการดูแลพัสดุเท่านั้น และแนะนำให้ติดต่อผ่านศูนย์ช่วยเหลือและฝ่ายบริการลูกค้า แบบสนทนาสด (ไลฟ์แชต) ของแอปพลิเคชันดังกล่าว ซึ่งไลฟ์แชตนี้บอกให้ตนถ่ายรูปหน้าจอหลักฐานว่าได้ของรางวัลและขอให้ถ่ายรูปของรางวัลที่ได้รับ และต้องติดต่อกลับไปเองภายใน 2-3 วัน
จุดนี้ทำให้ตนฉุกคิดว่าที่ผ่านมาถูกมิจฉาชีพหลอกลวงหรือไม่ จึงกลับไปดูรายชื่อของร้านอื่นที่ได้รับทองคำเป็นรางวัลและทักอินบ็อกซ์ในเฟซบุ๊กไปสอบถาม พบว่าร้านอาหารร้านหนึ่งใน จ.นนทบุรี ได้รับถุงพลาสติกจำนวนหลักร้อยใบสำหรับใส่อาหารเป็นรางวัล ซึ่งเป็นรางวัลระดับต่ำสุด ซึ่งได้มาก่อนหลายสัปดาห์แล้ว
คุณแมว เผยว่า ตนรู้สึกโกรธมาก ตลอดการติดต่อกับผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน ตนไม่ได้รับคำแสดงความเสียใจหรือความรู้สึกว่าจะดำเนินการแก้ไขแต่อย่างใด ตนควรได้รับความถูกต้อง และบริษัทผู้ให้บริการแอปพลิเคชันก็ควรตรวจสอบและชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร
นอกจากนี้ คุณแมวบอกว่า ตนจะไม่ได้ทองคำตามที่ตนได้รับแจ้งก็ได้ เพราะประเด็นไม่ได้อยู่ที่ของรางวัลหรือเงิน แต่ตนก็ต้องได้รับความถูกต้องเช่นกัน เพราะไม่ใช่ความผิดของตน และถ้าเกิดแบบเดียวกันกับร้านอื่น ความเสียหายก็ตกอยู่กับเฉพาะผู้ประกอบการอย่างนั้นหรือ และตนไม่อยากให้คนไทยถูกมองว่าเป็นคนสยบยอมต่อความไม่ถูกต้องอีกต่อไป ไม่ว่าจะเล็กจะน้อยก็ไม่ถูกต้อง
ส่วนการประกาศชื่อรางวัลว่าจะได้ แต่กลับไม่ได้นั้น ตนรู้สึกผิดหวัง และเหมือนโดนหลอก และยิ่งทราบเรื่องจากร้านอีกร้านหนึ่งก็ยิ่งตอกย้ำความรู้สึกดังกล่าว