#สภาล่ม อีกแล้วจ้า! ยังไม่ทันเริ่มก็ต้องปิดประชุม วันนี้อดลงมติแม้ซักเรื่องเดียว

#สภาล่ม อีกแล้วจ้า! วันนี้ยังไม่ทันได้เข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม เพราะแค่นับองค์ประชุมก็ไม่ครบซะแล้ว ต้องปิดประชุมไปทั้งที่ยังไม่มีการลงมติใดๆ แม้แต่เรื่องเดียว

วันนี้ (17 ธ.ค.) เมื่อเวลา 9.30 น. มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 18 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาเรื่องที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว ต่อจากการประชุมครั้งก่อน

แต่ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 11.50 น. ที่ผ่านมา ต้องปิดการประชุม หรือที่เรียกกันว่า สภาล่ม ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากตรวจสอบองค์ประชุมแล้วไม่ครบ

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 10.40 น. ภายหลังจากให้สมาชิกหารือเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่แล้ว นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้กล่าวนำเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม โดยนายศุภชัยได้ขอมติจากที่ประชุมเรื่องรายงานการพิจารณาศึกษาแนวทางการบริหารจัดการลุ่มน้ำทั้งระบบ ที่มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธาน กมธ.ฯ ซึ่งรายงานดังกล่าวคณะ กมธ.ได้พิจารณาเสร็จแล้ว และสมาชิกได้อภิปรายแสดงความเห็นไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

จนเมื่อถึงเวลา 10.49 น. นายศุภชัยได้กดออดเรียกสมาชิกเข้ามาเสียบบัตรแสดงตน เพื่อตรวจสอบองค์ประชุม พอเวลาผ่านไปราว 2 นาที ปรากฏว่าบรรดา ส.ส. ทยอยเดินเข้าห้องประชุม แต่ยังคงบางตา ทำให้นายศุภชัย ในฐานะประธานขอสั่งพักการประชุมเป็นเวลา 30 นาที

อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่รอ ส.ส. เข้ามาเสียบบัตรแสดงตน เพื่อนับองค์ประชุมอยู่นั้น นายศุภชัย กดออดเรียกสมาชิกอยู่หลายครั้ง และขอให้รีบเข้าห้องประชุม เนื่องจากเรื่องดังกล่าวถือเป็นเรื่องสำคัญมาก จึงจำเป็นต้องขอมติจากที่ประชุมก่อนนำส่งให้รัฐบาล แต่นายวิรัช พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ลุกขึ้นมากล่าวตำหนิ ส.ส. ว่า เวลาที่ไม่ได้เป็น ส.ส. ก็อยากจะแย่งกันเป็น แต่พอมาเป็น ส.ส. กลับขี้เกียจไม่มาประชุม อ้างเหตุลาประชุม ตนเห็นว่าประธานไม่ควรอนุญาต ถ้าลาครบ 4 ครั้งก็ให้พ้นสมาชิกภาพการเป็น ส.ส. ไปเลย อยากเป็น ส.ส. แต่ไม่มาประชุม ขอตำหนิ ส.ส.พวกนี้ ประชาชนอย่าไปเลือก เข้ามากินเงินเดือนแต่ไม่ยอมทำหน้าที่

ขณะที่นายอรรถกร ศิริลัทยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ลุกขึ้นกล่าวขอเวลาเพื่อให้สมาชิกคนอื่นๆ ได้เข้าห้องประชุม ทำให้นายศุภชัย กล่าวขึ้นว่า “หากองค์ประชุมไม่ครบ ก็ล่มอีก อายชาวบ้าน จากการเช็กชื่อประชุมมีทั้งหมด 260 คน หาก ส.ส.ที่อยู่ในห้องประชุมช่วยกดบัตรตรวจสอบองค์ประชุม ช่วยๆ กัน ครบแน่ๆ ส.ส.มาประชุมครบองค์ประชุม แต่บางครั้ง ส.ส.แสดงความจำนงไม่เช็กองค์ประชุมให้ ถือเป็นสิทธิของ ส.ส.”

จากนั้นนายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ฝ่ายค้านอยู่ในห้องประชุม ส่วนองค์ประชุมเป็นความรับผิดชอบของ ส.ส.รัฐบาล ทำให้นายศุภชัย ตอบกลับว่า ในข้อบังคับการประชุมไม่ได้บัญัติหรือกำหนดเอาไว้ว่าองค์ประชุมเป็นของฝ่ายใด ดังนั้นถือเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของ ส.ส.ทุกคน

จนในท้ายที่สุด เมื่อผ่านไปพอสมควร นายศุภชัย จึงให้เจ้าหน้าที่สภาฯ ส่งผลคะแนนการแสดงตนเป็นองค์ประชุมของ ส.ส. ซึ่งหน้าจอแสดงตัวเลข 230 คน บวกกับที่ขานชื่อเพิ่มเติมอีก 5 คน ทำให้มีผู้แสดงตนเป็นองค์ประชุมทั้งสิ้น 235 คน ซึ่งถือว่าไม่ครบองค์ประชุม เพราะจะต้องมี ส.ส. เป็นองค์ประชุมในจำนวนไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของสมาชิกเท่าที่มีอยู่ ซึ่งปัจจุบันมี ส.ส. ปฏิบัติหน้าที่รวม 476 คน ดังนั้นองค์ประชุมจะต้องมีจำนวนสมาชิกตั้งแต่ 238 คนขึ้นไป หลังจากนั้นนายศุภชัยจึงปิดการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ไป โดยที่ยังไม่ได้มีการลงมติใดๆ เลยแม้แต่เรื่องเดียว