ผู้ว่าฯ สุรินทร์ นำขอขมา เปิดใจ ดราม่าทีมจอมขมังเวทย์โผล่ทำพิธีเปิดเมือง
ผู้ว่าฯ สุรินทร์ นำทัพเซ่นไหว้ศาลประกำและขอขมาพระยาสุรินทร์ พร้อมพิธีสงฆ์อุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษ หลังทีมจอมขมังเวทย์โผล่ทำพิธีเปิดเมือง
กรณีที่มีภาพ "เณรแอ" อดีตจอมขมังเวทย์ โผล่ร่วมทำพิธีเปิดเมืองจังหวัดสุรินทร์ พร้อมฤๅษีและร่างทรงอีกหลายคน ต่อหน้าอนุสาวรีย์จังหวัด ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ชาวสุรินทร์ออกมาจวกกันยับ ช้ำใจกับพิธีดังกล่าวเพราะเป็นการฉีกกฎขนบธรรมเนียมที่ทำมาอย่างยาวนาน 60 ปี หวั่นบ้านเมืองจะเกิดอาเพศ
ล่าสุด วานนี้ เมื่อเวลา 09.30 น. นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้นำหัวหน้าส่วนราชการ พร้อมด้วยประชาชนชาวจังหวัดสุรินทร์ ประกอบพิธีเซ่นไหว้ขอขมาศาลประกำเมืองสุรินทร์
ซึ่งชาวเมืองช้างถือเป็นศาลศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง หากจะประกอบกิจการใดก็จะต้องเซ่นไหว้ศาลประกำ ด้วยอาหารคาวหวาน น้ำดื่ม ผลไม้ ดอกไม้สด ศาลปะกำ และเชือกปะกำ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวสุรินทร์ให้ความเคารพ และเซ่นไหว้ก่อนออกคล้องช้างหรือทำกิจกรรมอื่นๆ เกี่ยวกับช้าง
หลังจากนั้นได้ประกอบทางศาสนา โดยนิมนต์พระสงฆ์ จำนวน 65 รูป มาร่วมพิธี และพระสงฆ์จำนวน 9 รูป เจริญพระพุทธมนต์ นำโดยพระราชสุตาลังการที่ปรึกษาคณะสงฆ์จังหวัดสุรินทร์ เจ้าอาวาสวัดพรหมสุรินทร์
จากนั้นถวายภัตตาหารถวายแด่พระสงฆ์ จำนวน 65 รูป และกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศล แด่บรรพบุรุษผู้ล่วงลับไปแล้วเพื่อเป็นการขอขมา เพื่อให้การดำเนินกิจการใดๆ และความสุขสงบร่มเย็น เจริญรุ่งเรืองของชาวสุรินทร์ตลอดไป
นายสุวพงศ์ ผู้ว่าฯ สุรินทร์ กล่าวว่า หลังจากประกอบพิธีเซ่นไหว้ศาลประกำ พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง และพิธีทางสงฆ์แล้วมีความสบายใจขึ้น ผู้ที่มาร่วมงานจะเห็นว่าเมื่อวานก่อนแดดร้อนมากวันนี้ได้รับความร่มเย็น ลมแดดหายไปหมด เชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของเมืองสุรินทร์ ท่านได้รับทราบที่พวกเรามาขอขมา ความร่มเย็นกลับคืนมาให้ชาวสุรินทร์
หลังจากนี้ไปการจัดงานช้างจะราบรื่น ตามวัตถุประสงค์ จังหวัดสุรินทร์ ก็จะมีความรุ่งเรือง รื่นรมย์ และร่ำรวย หลังจากขอขมา เนื่องจากที่ผ่านมาทุกคนไม่สบายใจ และตนเองก็ไม่สบายใจ สิ่งที่ทำนี้ก็คือการเรียกคืนความสบายใจให้ชาวสุรินทร์ ซึ่งเราได้ทำให้ทุกคนสบายใจแล้ว
ด้าน นายกมล อายุ 74 ปี ชาวเมืองสุรินทร์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดีที่ได้ประกอบพิธี ในวันนี้ เป็นวันสำคัญวันวันหนึ่งที่ลูกหลานชาวสุรินทร์ ที่ได้มีส่วนร่วมในการเจริญพระพุทธมนต์ บวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคู่เมืองสุรินทร์
ดีใจที่ทางพ่อเมืองให้เกียรติ มีส่วนร่วมประกอบพิธีในวันนี้ ทุกคนมีความตั้งใจทำดีทุกคน ไม่ว่าใครต่อใคร เพราะที่ตรงนี้ส่วนรวมที่มีทั้งดีและไม่ดี มันจะมีอยู่ทั่วไป เหมือนกับเราจะทำอะไรก็จะมีเรียกสัมพเวสีมาทุกอย่างก็จะมีปนเปกันเป็นเรื่องธรรมดา
ในมุมมองของผม มันมีตัวแทรกมาเราไม่รู้ว่ามันมาแทรกได้อย่างไร เราไม่ได้ตำหนิหรอกว่าใครดีไม่ดี ทุกสิ่งมันก็ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว แล้วแต่คนว่าจะชอบหรือไม่ชอบบางที่เราไม่ชอบสิ่งไม่ดี เราชอบแต่สิ่งดีๆลูกหลานชาวสุรินทร์ วันนี้ได้มาประกอบพิธีแล้ว มาขอขมาแล้วเราก็สบายใจ โล่งอกกันทุกคน และอย่าไปคิดมาก บางอย่างต้องปล่อยไปตามกระแสลม
ขณะที่ นายสมศรี บุญมี นักวิชาการภูมิปัญญาท้องถิ่นสุรินทร์ กล่าวว่า เป็นเรื่องแปลกมาก เพราะปกติพิธีกรรมแบบนี้ต้องมีพ่อพราหมณ์มาประกอบพิธี ถ้าจะมีรำก็รำบวงสรวง มีอะไรที่แปลกเข้ามาคือก็ตกใจ บ้านเราไม่ได้เคารพฤๅษี แต่เคารพในที่เคยนับถือมา แต่วันดังกล่าวมีฤๅษีและจอมขมังเวทย์มาเยอะด้วย และแปลกที่พิธีนานด้วย
ตอนนั้นตอนเองมาประชุมที่สาธารณสุขอยู่ชั้น 4 ยืนดูอยู่แล้วก็ลงมาดูที่งาน เห็นว่าแปลก ช่วงเช้ามีการพิธีบวงสรวงหมอช้างทำพิธีเสร็จ พอมีการทำพิธีเปิดเมืองต่อเลยอดสงสัยไม่ได้ เป็นพิธีการที่นานและตั้งใจทำ เจตนาเขาก็ตั้งใจและแปลกด้วย เพราะไม่เคยมีอย่างนี้มาก่อน
ความเชื่อเป็นสิทธิ์ของคนก็ใช่ แต่บางพื้นที่เขาปลูกฝังมานาน มันก็จะขัดแต่ถ้าเป็นสิทธิ์ก็ทำได้ แต่ถ้าเรามีอโหสิกรรมให้กัน ก็ถือเป็นบทเรียน จะทำอะไรในอนาคต ก็ต้องพิจารณาให้ดีและรอบครอบต่อประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่นนั้นๆ ไว้ให้ดี
อัลบั้มภาพ 19 ภาพ