แจ้งข้อหา "เมาแล้วขับ" นักธุรกิจหนุ่มขับเบนซ์ป้ายแดงชนดับ 3 ศพบนทางด่วน
ตำรวจแจ้งข้อหาขับรถขณะมึนเมาสุรา “นักธุรกิจหนุ่ม” ซิ่งเบนซ์ป้ายแดงชนเก๋งดับ3ศพ บนทางด่วนศรีรัช ญาติ เตรียมรับศพกลับสุพรรณบุรี
พ.ต.ท.ประสิทธิ์ วิรัตยาภรณ์ รองผู้กำกับจราจรทางด่วน 2 ในฐานะหัวหน้าสถานีด่านอโศกฯกล่าวถึงคดีอุบัติเหตุรถเบนซ์ ซีแอลเอส สีขาว ป้ายแดง ชนรถเก๋ง ฮอนด้า บริโอ้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บนทางด่วนศรีรัช ขั้นที่ 2 ทิศทางมุ่งหน้ามอเตอร์เวย์ ช่วงบริเวณข้ามคลองแสนแสบ เมื่อคืน(17ธ.ค.)ที่ผ่านมาว่า สำหรับคดีผู้เสียชีวิต 3 ศพ ทาง สน.หัวหมาก จะเป็นผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับชันสูตรพลิกศพ ว่า สาเหตุการเสียชีวิตเป็นอย่างไร โดยต้องรอผลการชันสูตรจากสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ จึงยังไม่สามารถชี้แจงรายละเอียดได้
ส่วนคดีจราจรเมื่อเกิดอุบัติเหตขึ้น สน.ทางด่วน 2 จะเป็นผู้รับผิดชอบ เบื้องต้น พนักงานสอบสวนทางด่วน2 ได้สอบปากคำ นายจินทวัส อายุ 33 ปี นักธุรกิจนำเข้าเครื่องสำอาง คนขับรถเบนซ์ฯ คันเกิดเหตุให้การว่า ได้ใช้ทางด่วนจากฉลองรัช และมาเปลี่ยนเป็นด่วนศรีรัช เพื่อจะกลับบ้านพักย่านศรีนครินทร์ ส่วนรถเก๋งฮอนด้าฯ คู่กรณียังไม่ทราบว่าปลายทางจะไปทางไหน แต่มีรายงานว่าจะไปที่จังหวัดชลบุรี
นายจินทวัส ยังยอมรับด้วยว่า มีการดื่มสุรามาจริงสอดคล้องกับผลการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย พบเกินกว่ากฎหมายกำหนด ส่วนรายละเอียดอื่นๆ นายจินทวัส ยังไม่สามารถให้การได้ทั้งหมด เนื่องจากอยู่ในอาการบาดเจ็บบริเวณลำตัวเพราะได้รับแรงกระแทกจากแอร์แบคภายในรถระเบิดทั้งคัน จึงต้องส่งตัวไปรักษาอาการบาดเจ็บ ก่อนที่จะเข้าพบพนักงานสอบสวนเมื่อเช้านี้
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาขับรถขณะมึนเมาสุราเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต โดยไม่คัดค้านการประกันตัว ทั้งนี้ สน.ทางด่วน 2 จะส่งหลักฐานทั้งหมด อาทิ ร่องรอยการเฉี่ยวชน, กล้องวงจรปิด,ผลตรวจสอบความเร็วรถ ไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในเรื่องคดี และรอผลชันสูตรพลิกศพจากสน.หัวหมาก มาประกอบเพื่อสรุปสำนวนให้อัยการต่อไป ยืนยันว่า ตำรวจทางด่วน 2 ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนทุกข้อกำหนดอีกทั้งจะไม่มีการช่วยเหลือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง โดยจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ในส่วนการเยียวยาชดใช้ค่าเสียหายฝ่ายคู่กรณีต้องดำเนินการเจรจากัน ตำรวจไม่ได้รับผิดชอบในเรื่องดังกล่าว แต่ทราบว่าทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้มีการพูดคุย เพราะยังอยู่ในบรรยากาศของความโศกเศร้า
ด้าน นางสุดา อายุ 55 ปี ชาว จ.สุพรรณบุรี มารดาและญาติของ น.ส.อัจฉรา อายุ 30 ปี ผู้ขับขี่รถเก๋งฮอนด้าที่เสียชีวิต เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ทางด่วน 2 เพื่อให้ปากคำตำรวจ กล่าวว่า เพิ่งทราบเรื่องเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เนื่องจากตำรวจโทรมาแจ้งว่าลูกสาวเสียชีวิต สำหรับรถยนต์ฮอนด้าคันที่ถูกชน ลูกสาวเพิ่งซื้อได้ 1 ปี ตนกับลูกสาวไม่ได้อยู่ด้วยกัน จึงไม่ทราบรายละเอียดว่าลูกสาวจะเดินทางไปไหน และไม่ทราบว่าในรถมีกี่คน ที่ผ่านมาได้คุยกันทางโทรศัพท์เท่านั้น และได้คอยตักเตือนให้ระวังความปลอดภัยเรื่องการขับรถ รวมทั้ง เรื่องดูแลครอบครัวเพราะลูกสาวมีลูก 3 คนวัย 3-5 ขวบ นางสุดา กล่าวว่า การสูญเสียครั้งนี้ ทำให้ครอบครัวรู้สึกช็อค และหลังเกิดเหตุยังไม่มีการพูดคุยกับคู่กรณี และคู่กรณียังไม่มีการติดต่อมา แต่เมื่อเรื่องราวทางคดีเสร็จสิ้น ตนก็อยากจะพูดคุยกับคู่กรณีถึงสาเหตุและเรื่องที่เกิดขึ้น ส่วนตอนนี้ จะประสานกับสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อนำร่างลูกสาวไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี