อาคารเรียนพังทับเด็กเจ็บ12รายผู้ว่าฯระบุสภาพเก่า
อาคารอเนกประสงค์โรงเรียนวัดโนนสำราญ เมืองร้อยเอ็ด อายุ 31 ปี พังถล่มทับนักเรียน หามส่งโรงพยาบาล 12 คน ขณะเกิดเหตุเป็นช่วงพักการแข่งขันปิงปอง มีลมพัดแรง ผู้ว่าฯ สั่งสำรวจและปรับปรุงด่วน
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 25 พฤศจิกายน ร.ต.อ.ปรีชา คำทองเขียว ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองร้อยเอ็ด รับแจ้งเกิดเหตุอาคารถล่ม มีนักเรียนได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก เหตุเกิดภายในบริเวณโรงเรียนวัดโนนสำราญ บ้านโนนสำราญ หมู่ 6 ต.เมืองทอง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น จากนั้นจึงรุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย นายธวัชชัย ฟักอังกูร ผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด นายภิเษก วัฒนมงคล นายอำเภอ นายสมเกียรติ ฟื้นแสน ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่เขตการศึกษาร้อยเอ็ด เขต 1 และ พ.ต.ท.สุวัฒน์ สมจิตต์ รอง ผกก.(ป.) สภ.เมืองร้อยเอ็ด
ในที่เกิดเหตุพบว่า อาคารอเนกประสงค์ ซึ่งเป็นอาคารไม้เก่า ทรุดตัวลงมากองกับพื้น ส่วนผู้บาดเจ็บมีทั้งหมด 12 คน คณะครูและเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพ อบต.เมืองทอง นำส่งโรงพยาบาลร้อยเอ็ด ไปก่อนหน้าแล้ว โดยเป็นนักเรียนหญิง ชั้น ป.5 ม.1 และ ม.3 รวม 10 คน ส่วนอีก 2 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนโสภโณประชาสรรค์ ในจำนวนนี้มีนักเรียนที่ถูกคานไม้ทับอาการสาหัส 3 คน คือ ด.ญ.วรรณิภา บุญพา ด.ญ.เจนจิรา ศรีถาวร ทั้งสองคนเรียนอยู่ชั้น ป.5 และ ด.ช.ธนพล ธุรกิจ นักเรียนชั้น ม.1 แพทย์ต้องให้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ส่วนที่เหลือ หลังจากคณะแพทย์และพยาบาลทำบาดแผลให้เสร็จแล้วก็อนุญาตให้กลับบ้านได้
นายมนูธรรม กะตะโท ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดโนนสำราญ กล่าวว่า อาคารที่เกิดเหตุสร้างมาแล้วเป็นเวลานานถึง 31 ปี โดยช่วงเกิดเหตุโรงเรียนเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเครือข่าย ซึ่งมีนักเรียนจากโรงเรียนสี่แห่งเข้าร่วมการแข่งขัน ก่อนเกิดเหตุอาคารดังกล่าวใช้เป็นสถานที่แข่งขันกีฬาปิงปอง และบริเวณด้านข้างอาคารใช้เป็นสถานที่แข่งขันกีฬาเปตอง ขณะเกิดเหตุเป็นช่วงพักรับประทานอาหาร จึงมีนักกีฬาและกองเชียร์อยู่ในบริเวณดังกล่าวไม่มากนัก ขณะนั้นมีลมพัดแรง ทำให้อาคารพังถล่มลงมา ซึ่งนักเรียนส่วนหนึ่งวิ่งหนีออกมาจากจุดเกิดเหตุได้ทัน
นายธวัชชัย ฟักอังกูร ผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด กล่าวว่า อาคารที่เกิดเหตุสร้างมานานมาก เหล็กอยู่ในสภาพเป็นสนิมคอนกรีตที่ฐานเปื่อย ทำให้การยึดติดไม่แข็งแรง คาดว่าอาจเกิดจากลมแรงหรือนักเรียนไปพิงเสาทำให้รับน้ำหนักไม่ได้จึงพังครืนลงมาทับนักเรียนบาดเจ็บจำนวนมาก เบื้องต้นได้สั่งการให้โรงเรียน องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และเขตพื้นที่การศึกษา เข้าให้ความช่วยเหลือนักเรียนที่ประสบเหตุ ขณะเดียวกันได้ขอให้ อบต. เทศบาล องค์การบริหารส่วนจังหวัด และส่วนราชการในจังหวัด เร่งสำรวจสภาพอาคารและให้รีบแก้ไข หากพบว่าอาคารไม่มีความปลอดภัยควรเลิกใช้และปรับปรุง