"หมอหยก" ไม่สบายใจ "พิมรี่พาย" โชว์ข้อมูลส่วนตัวกลางไลฟ์ ทำพ่อแม่ถูกบุกรบกวน

"หมอหยก" ไม่สบายใจ "พิมรี่พาย" โชว์ข้อมูลส่วนตัวกลางไลฟ์ ทำพ่อแม่ถูกบุกรบกวน

"หมอหยก" ไม่สบายใจ "พิมรี่พาย" โชว์ข้อมูลส่วนตัวกลางไลฟ์ ทำพ่อแม่ถูกบุกรบกวน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"หมอหยก" ขอพูดในฐานะผู้เสียหาย ไม่สบายใจ "พิมรี่พาย" เอาเอกสารข้อมูลส่วนตัวมาเปิดเผยกลางไลฟ์ ทำพ่อแม่ถูกบุกรบกวนถึงบ้าน เผยตั้งแต่เกิดเรื่องยังไม่มีใครติดต่อมา

จากกรณีที่ น.ส.พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ หรือ พิมรี่พาย แม่ค้าออนไลน์ชื่อดัง ได้เดินทางไปแจ้งความหลังพบว่ามีบุคคลแอบอ้างว่าเป็นแพทย์มาสมัครงานที่คลินิก อิส คิวท์ คลินิกเวชกรรม สาขาห้วยขวาง ซึ่ง หมอปิยนุช หรือ หมอหยก ที่ถูกแอบอ้างชื่อ ปัจจุบันอยู่ที่ต่างประเทศ ได้ออกมายืนยันว่าไม่เคยได้ทำงานในคลินิกดังกล่าว

ล่าสุด วันนี้ (18 ธ.ค.) เฟซบุ๊ก PtYhok Mickey Ratanakoset หรือ หมอหยก ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า "ขอพูดในฐานะผู้เสียหายหน่อยนะคะ สืบเนื่องมาจากการไลฟ์ของคุณพิมรี่พายเมื่อวานนี้

หยกรู้สึกไม่สบายใจกับการที่ถูกเอาเอกสารข้อมูลส่วนตัวมาไลฟ์โดยไม่บอกกล่าว (ถ้าทราบจะขอให้เบลอข้อมูลส่วนตัวก่อน) ทำให้มีนักข่าวได้ข้อมูลจากตรงนี้และบุกไปรบกวนคุณพ่อคุณแม่ถึงที่บ้าน แล้วยังไปรบกวนคลินิกที่หยกเคยทำก่อนที่จะมาต่างประเทศอีก

ตั้งแต่เกิดเรื่อง หยกไม่เคยได้รับการติดต่อจากทาง est cute clinic หรือทางคุณพิมรี่พายแต่อย่างใด ตามที่ให้ข่าวบอกว่าติดต่อหยกไม่ได้ ซึ่งหยกมีช่องทางให้ติดต่อและใช้ชี้แจงตามที่สื่อต่างๆได้แชร์ไป

ถามว่าหยกต้องการอะไร คุณพิมรี่พายก็ขอโทษ (ผ่านสื่อ) ทำไมไม่ไปฟ้องคนที่ปลอมแปลงเอกสาร และแอบอ้าง อันนี้ไม่ต้องห่วงนะคะ ทุกอย่างไปตามขั้นตอนทางกฎหมายอยู่แล้วค่ะ

แต่หยกก็ยังหวังจะเห็นการแสดงความรับผิดชอบอย่างจริงใจจากทางคลินิกและทางคุณพิมรี่พายนะคะ ปฏิเสธไม่ได้ว่าในฐานะผู้ประกอบการของวิชาชีพทางการแพทย์ทั้งหลาย เจ้าของคลินิกและผู้มีใบอนุญาตประจำคลินิกมีหน้าที่ตรวจสอบและคัดกรองคนที่จะเข้ามาทำงานในคลินิกของตน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแพทย์อย่างละเอียดถี่ถ้วน

มิใช่เพียงแค่อ้างว่าใส่แมสก์ทำให้ไม่เห็นหน้าตา หรือเชื่อถือเพียงแค่เอกสารไม่กี่แผ่น โชคดีที่ครั้งนี้มีคนทราบว่าคนที่ทำงานในคลีนิคดังกล่าวเป็นหมอปลอม และยังไม่มีคนไข้คนไหนได้รับอันตราย

อันตรายดังกล่าวจากการฉีดกับหมอปลอมมีตั้งแต่ปวดบวมเล็กน้อย ไปจนถึงเข้าเส้นเลือด ผิวหนังไม่มีเลือดมาเลี้ยง ตาบอด ฯลฯ

อยากให้ลองคิดตามว่า หากมีใครเป็นอะไรขึ้นมา แล้วสังคมเข้าใจว่าหยกเป็นคนทำ แบบนี้หยกจะมีที่ยืนในสังคมได้อย่างไร ความน่าเชื่อถือและสิ่งที่สะสมมา การพิสูจน์ตัวตนเข้าทำงานในอนาคต กระทบหมดเลยนะคะ

ตอนที่หยกเเสดงตัวว่าเป็นหมอตัวจริงโดนแอบอ้าง ยังมีคนกล่าวหาว่าหยกเป็นหมอปลอม ด่าทอด้วยคำพูดหยาบคาย เรื่องที่เกิดขึ้นกระทบต่อชื่อเสียงและจิตใจมากจริงๆ ช่วยเข้าใจหน่อยนะคะ ที่ต้องออกมาโพสต์แบบนี้"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook