สารพิษแหลมฉบังรั่ว!!! ขนชาวบ้านหนี
สารพิษท่าเรือแหลมฉบังรั่ว!หามพนักงานท่าเทียบเรือบี 3 นับสิบรายส่งรพ.พร้อมอพยพชาวบ้านชุมชนแหลมฉบังเก่ากว่า 200 ครอบครัวออกจากพื้นที่กลางดึกสูดกลิ่นควันอาเจียน เจ็บหน้าอก เผยเป็น"สารฟอกขาว"อันตรายต่อสุขภาพอนามัยสัมผัสทางหายใจจะมีฤทธิ์กัดเนื้อเยื่อในร่างกาย
เมื่อเวลา 00.45 น.วันที่ 26 พฤศจิกายน ทางหน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา ได้รับแจ้งว่าภายในท่าเรือแหลมฉบัง และท่าเทียบเรือบี 3 มีผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากสารเคมีรั่วไหลที่ท่าเทียบเรือ บี 3 ในท่าเรือแหลมฉบัง เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (25 พ.ย.) ให้ไปทำการช่วยเหลือนำส่งยังโรงพยาบาลในพื้นที่อ.ศรีราชา โดยทางหน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชาได้กระจายกันนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา จำนวน 2 ราย โรงพยาบาลพญาไทศรีราชา 3 ราย โรงพยาบาลแหลมฉบังอินเตอร์เนชั่นแนล 2 ราย โรงพยาบาลอ่าวอุดมจำนวน 2 ราย เนื่องจากผู้ป่วยได้สูดดม สารพิษเข้าไปร่างกายโดยสารพิษดังกล่าวได้มาตามลมทำให้ผู้คนที่ทำงานอยู่ภายในท่าเทียบเรือบี 3 เองและท่าเทียบเรือใกล้เคียงได้รับผลกระทบจากการได้รับกลิ่นทำให้คลื่นเหียนอาเจียนและเจ็บหน้าอก
โดยกลิ่นดังกล่าวนั้นได้กระจายออกไปในระยะรัศมี 3 กิโลเมตรตามลม ทำให้ประชาชนในพื้นที่หมู่บ้านแหลมฉบังเก่า หมู่ 3 ต.ทุ่งศุขลา อ.ศรีราชา กว่า 200 ครอบครัวได้รับผลกระทบจากกลิ่นทำให้คลื่นเหียนอาเจียน จนต้องพากันอพยพลูกหลานและผู้สูงอายุ รวมทั้งพระเณรในวัดแหลมฉบังเก่า ไปพักอาศัยชั่วคราวที่บริเวณโรงเรียนเทศบาลแหลมฉบัง 2 เป็นการชั่วคราว ผู้ที่ไม่มีรถทางอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชาก็นำรถไปรับมาส่ง พร้อมทั้งนำทีมแพทย์และพยาบาลจากทางโรงพยาบาลอ่าวอุดมไปทำการตรวจรักษาแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากกลิ่นดังกล่าว
ต่อมาเวลา 03.30 น.ได้รับแจ้งจากทางท่าเทืยบเรือบี 3 ว่าได้ทำการทำลายสารเคมีดังกล่าวเป็นสารกลุ่ม 5.1 ( เป็นสารฟองขาว) ใช้ในขบวนการฆ่าเชื้อ ชื่อว่า Bromine เรียบร้อยแล้ว ด้วยการทำลายด้วยกรรมวิธีทางเคมี ซึ่งกลิ่นดังกล่าวก็ได้หายไปหมดแล้วและให้ชาวบ้านที่อพยพมากลับไปอยู่ในบ้านได้แล้ว ซึ่งทำความไม่พอใจให้แก่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ ต้องอพยพครอบครัวกลางดึก
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของการนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง กล่าวว่า รู้สึกไม่พอใจกับการทำงานของทางท่าเรือแหลมฉบังเนื่องจาก ไม่ยอมแจ้งว่า สารเคมีที่รั่วไหล และสารเคมีตัวดังกล่าวเป็นสารอะไรกันแน่ มีฤทธิ์ อย่างไร พร้อมทั้งจะมีผลกระทบอย่างไรบ้างต่อร่างกาย โดยทางท่าเรือ แจ้งเพียงแต่ว่าเป็นสารฟองขาวไม่มีอันตรายแต่อย่างไร
แต่ปรากฏว่า กลางดึกพนักงานท่าเรือและ การนิคมต้องหามส่งโรงพยาบาลพร้อมทั้งได้เรียกเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องออกปฏิบัติงาน โดยให้มีการมีการอพยพ พนักงานและประชาชนที่รับผลกระทบออกนอกพื้นที่กลางดึกด่วน เนื่องจาก ยังไม่สมารถควบคุมสถานการณ์ได้ และสารเคมียังฟุ้งกระจาย ส่งกลิ่นเหม็นตลอดเวลา ครอบคลุมพื้นที่ ในรัศมี 3 กิโลเมตร
นายเฉลิมเกียรติ สลักคำ ผู้อำนวยการการท่าเรือแหลมฉบัง กล่าวว่า ได้รับทราบจากเจ้าหน้าที่ของท่าเทียบเรือ บี 3 ว่า เป็นสารกลุ่ม 5.1 ( เป็นสารฟองขาว) ใช้ในขบวนการฆ่าเชื้อ ชื่อว่า Bromine ไม่มีอันตรายและสามารถควบคุมสถานการณ์ ได้แล้ว แต่จากการสืบค้นข้อมูล สาร Bromine จัดเป็นสารอันตรายต่อสุขภาพอนามัยหากสัมผัสทางหายใจ โดยการหายใจเอาไอของสารนี้เข้าไปจะมีฤทธิ์กัดเนื้อเยื่อในร่างกายทั้งหมด ทำให้เกิดแผลไหม้อย่างรุนแรง การหายใจเข้าไปในปริมาณมากเกินจะทำให้เกิดการระคายเคืองอย่างรุนแรง และทำลายระบบทางเดินหายใจและปอด มีอาการปวดศีรษะ วิงเวียนศีรษะ ไอ เจ็บคอ หายใจติดขัด หากสัมผัสทางผิวหนัง
การสัมผัสถูกผิวหนัง จะมีฤทธิ์กัดกร่อนทำให้ผิวหนังซีด มีอาการแผลไหม้อย่างรุนแรง เกิดแผลพุพอง ผื่นแดง อย่างไรก็ตาม ปริมาณที่คาดว่าจะทำให้เกิดการตายได้ คือ 14 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ถ้าสัมผัสถูกตาจะมีฤทธิ์กัดกร่อน ทำให้การมองเห็นพร่ามัว มองไม่ชัด ตาแดง ปวดตา เยื่อบุตาไหม้อย่างรุนแรง และตาถูกทำลาย