สธ.แจงพบโอมิครอน 63 ราย ยืนยันผลแล้ว 20 ราย แพร่ไวเหมือนสถานการณ์โลก

สธ.แจงพบโอมิครอน 63 ราย ยืนยันผลแล้ว 20 ราย แพร่ไวเหมือนสถานการณ์โลก

สธ.แจงพบโอมิครอน 63 ราย ยืนยันผลแล้ว 20 ราย แพร่ไวเหมือนสถานการณ์โลก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กระทรวงสาธารณสุข เผย ณ ปัจจุบันพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอน 63 ราย ยืนยันผลแล้ว 20 ราย ชี้การระบาดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สอดคล้องกับสถานการณ์ของทั่วโลก

วันนี้ (20 ธ.ค.) นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มเร็วในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สอดคล้องกับสถานการณ์โลก โดยทุกรายยังมีความเชื่อมโยงกับการเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ไม่มี Index Case ในประเทศไทย

โดยขณะนี้พบผู้ติดเชื้อโอมิครอนแล้วทั้งหมด 63 ราย ยืนยันด้วยวิธีจีโนม (Whole Genome Sequencing - WGS) แล้ว 20 ราย อย่างไรก็ดี การตรวจเบื้องต้นด้วยวิธี SNP (Single Nucleotide Polymorphisms) ค่อนข้างแม่นยำว่าเป็นเชื้อโอมิครอน ทั้งนี้ ล่าสุดเบื้องต้นพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มอีกประมาณ 20-30 ราย

"การตรวจ RT-PCR 72 ชั่วโมงก่อนมา และตรวจ RT-PCR เพียงครั้งเดียวเมื่อมาถึงประเทศไทย ยังทำให้ผู้ป่วยหลุดไปได้ เนื่องจากอยู่ในระยะฟักตัว (Window Period) อาจพิจารณาปรับมาตรการ Test&Go" นพ.ศุภกิจ กล่าว

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโอมิครอน ขณะนี้พบการแพร่ระบาดแล้วทั้งหมด 89 ประเทศ และ 36 รัฐในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยขณะนี้พบสายพันธุ์โอมิครอนทั้งหมด 3 สายพันธุ์ คือ BA.1 BA.2 และ BA.3 แต่จากภาพรวมสายพันธุ์หลักทั่วโลกยังเป็นโอมิครอนสายพันธุ์เดิม BA.1 ทั้งหมด 6,496 ราย อย่างไรก็ดี กรมวิทย์ฯ ยืนยันว่าการตรวจจับสายพันธุ์ยังทำได้ตามปกติ ทั้งแบบเบื้องต้น (Potentially) และแบบยืนยัน (Confirmed)

ด้านองค์การอนามัยโลก ระบุว่า วัคซีนเข็มบูสเตอร์จะช่วยเพิ่มประสิทธิผลของวัคซีน และเกิดภูมิคุ้มกันมากขึ้น สอดคล้องกับผลการวิจัยของฮ่องกง ที่ระบุว่า วัคซีนเข็มบูสเตอร์จะช่วยทำให้ระดับแอนติบอดี้กลับมามีค่าสูงขึ้น ซึ่งสามารถป้องกันการติดเชื้อ หรืออย่างน้อยที่สุดก็สามารถป้องกันการเสียชีวิต หรืออาการรุนแรงจากการติดเชื้อได้

"ขณะนี้กรมวิทย์ฯ อยู่ระหว่างการเพาะเชื้อ ซึ่งเชื้อก็เริ่มขึ้นมาพอสมควร โดยจะนำมาทดลองในผู้ที่ฉีดวัคซีนสูตรต่างๆ ของบ้านเรา เป็นการทดลองเชื้อโอมิครอนเป็นๆ ว่าสามารถป้องกันเชื้อได้มากน้อยเท่าไร คาดว่าช่วงปีใหม่น่าจะได้ผลการเทสต์" นพ.ศุภกิจ ระบุ

สำหรับการตรวจจำแนกสายพันธุ์ที่เฝ้าระวัง ระหว่างวันที่ 11-19 ธ.ค. 64 ทั้งหมด 1,595 ตัวอย่าง พบว่า เป็นสายพันธุ์เดลตา 1,541 ราย คิดเป็น 96.61% เป็นสายพันธุ์อัลฟา 1 ราย คิดเป็น 0.06% เป็นสายพันธุ์เบตา 1 ราย คิดเป็น 0.06% และเป็นสายพันธุ์โอมิครอน 52 ราย คิดเป็น 3.26% ซึ่งสัดส่วนโอมิครอนเพิ่มขึ้นจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่อยู่ที่ 1% โดยจากการคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ (Test&Go, Sandbox, AQ) พบติดเชื้อเป็นสายพันธุ์โอมิครอนถึง 1 ใน 4 หรือประมาณ 25%

ขณะที่ นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกว่า แนวโน้มพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสายพันธุ์โอมิครอนซึ่งสามารถแพร่โรคได้เร็ว มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผู้ไม่ได้รับวัคซีน หรือผู้ที่เคยฉีดวัคซีนนานกว่า 6 เดือนแล้ว

สำหรับประเทศไทย พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนรายแรกในประเทศ ซึ่งติดเชื้อจากผู้เดินทางเข้าประเทศ อย่างไรก็ตาม ยังไม่พบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนจากสายพันธุ์โอมิครอนภายในประเทศไทย ในขณะเดียวกัน พบสัดส่วนผู้ติดเชื้อที่เดินทางเข้าประเทศ ในรูปแบบ Test&Go เพิ่มขึ้น 2 เท่า เทียบระหว่างเดือน พ.ย. และ ธ.ค. รวมทั้งตรวจพบสายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

กระทรวงสาธารณสุขจึงได้จัดทำข้อเสนอต่อศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) พิจารณาชะลอการเดินทางเข้าประเทศในรูปแบบ Test&Go สำหรับผู้เดินทางมาจากทุกประเทศ และพิจารณาปรับใช้มาตรการกักตัวในระบบ AQ หรือ Sandbox นาน 7-10 วันแทน

สำหรับผู้ติดเชื้อโอมิครอนในประเทศ เป็นภรรยาของผู้ป่วยชาวโคลัมเบีย อาชีพนักบิน อายุ 49 ปี ติดเชื้อโอมิครอน ประวัติได้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม และมีผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง 1 ราย คือ คนขับรถแท๊กซี่ ซึ่งผลการตรวจหาเชื้อครั้งแรกเป็นลบ โดยจะมีการตรวจอีกครั้งเมื่อกักตัวครบ 14 วัน ในวันที่ 22 ธ.ค.นี้ และมีผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงต่ำ 89 ราย ติดตามอาการครบ 14 วัน ยังไม่พบผู้มีอาการป่วย โดยมีไทม์ไลน์ดังนี้

- วันที่ 26-27 พ.ย. 64 สามีเดินทางจากไนจีเรียกลับไทย วันที่ 26/11/64 ได้ตรวจ RT-PCR ผล Negative และเข้าพักโรงแรมแห่งหนึ่งในกทม. (Sandbox)

- วันที่ 29 พ.ย. 64 ไปตรวจตาที่รพ. A สมวหน้ากากตลอด เช่ารถ MC ขับเอง/ซื้อของร้านค้าใกล้โรงแรม/ขับ MC ทานข้าวเที่ยง ที่ห้างฯ

- วันที่ 30 พ.ย. 64 อยู่โรงแรมตลอด

- วันที่ 1 ธ.ค. 64 ไปฉีดวัคซีน Pfizer เข็ม 3 ที่รพ.B ขับ MC หลังจากฉีดมีไข้ ตัวร้อน

- วันที่ 2 ธ.ค. 64 ตรวจ ATK:Negative ที่โรงแรม เนื่องจากยังมีไข้ไปพบแพทย์ที่ รพ.A ผลตรวจ Dengue และ Malaria:Not detected, X-ray ปอด เป็นปกติ

- วันที่ 3 ธ.ค. 64 ออกจากโรงแรมที่กักตัว รถโรงแรมมาส่งห้างฯ แวะร้านสะดวกซื้อและส่งกลับบ้าน ที่อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ขณะที่ไข้ภรรยาดูแลตลอด

- วันที่ 4-6 ธ.ค. 64 อยู่บ้าน มีไข้ ไอ เจ็บคอ อ่อนเพลีย ภรรยาดูแลคนเดียว

- วันที่ 6 ธ.ค. 64 ตรวจ self ATK:negative

- วันที่ 7 ธ.ค. 64 อาการไม่ดีขึ้น มีไข้ เหนื่อย ภรรยาพาไปรพ.B นั่ง TAXI ไป ผลตรวจโควิด: detected แพทย์สงสัยสายพันธุ์โอมิครอน จึงส่งตรวจสายพันธุ์ ตัวผู้ป่วยได้ admit ภรรยา นั่งรถกลับบ้าน HQ

- วันที่ 10 ธ.ค. 64 ภรรยาไปรับการตรวจโควิด-19 ที่ รพ.C ผลโควิด-19 detected/ผลตรวจสายพันธุ์ของสามี ยืนยันเป็นสายพันธุ์โอมิครอน

- วันที่ 12-19 ธ.ค. 64 ภรรยา admit ที่รพ.C ต่อมาผลตรวจสายพันธุ์สงสัยโอมิครอน และยืนยันสายพันธุ์โอมิครอนเป็นรายแรพของประเทศ ติดเชื้อจากผู้เดินทางในประเทศ

นอกจากนี้ ยังมีคลัสเตอร์ของผู้ที่เดินทางกลับจากการประกอบพิธีทางศาสนา ประเทศซาอุดิอาระเบีย พบผู้ติดเชื้อ 3 ราย จากทั้งหมด 133 ราย โดย 1 รายพบเชื้อโอมิครอน ในขณะเดียวกันมีผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง 4 ราย และผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงต่ำอีก 126 ราย อยู่ระหว่างติดตามอาการจนครบ 14 วัน ในวันที่ 27 ธ.ค. โดยผลการตรวจ RT-PCR ครั้งแรกผลเป็นลบทั้งหมด

ในขณะเดียวกันมีคลัสเตอร์จากผู้ที่เดินทางกลับจากการประกอบพิธีทางศาสนา ประเทศซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเดินทางเข้าประเทศคนละวันกับคลัสเตอร์ก่อนหน้านี้ โดยพบผู้ติดเชื้อที่สงสัยว่าเป็นโอมิครอน 18 ราย จากทั้งหมด 31 ราย ในขณะเดียวกันมีผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง 15 ราย ทั้งนี้ มีการดำเนินการตามมาตรการสาธารณสุขทั้งหมดแล้ว

ทั้งนี้ นพ.จักรรัฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อลดการระบาดของโรคและชะลอการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนในประเทศ ขอความร่วมมือทุกคนและทุกภาคส่วน ร่วมด้วยช่วยกันป้องกัน ดูแลตนเอง โดยให้คำแนะนำ ดังนี้

1. ผู้ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีน โดยเฉพาะกลุ่ม 608 (ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง และสตรีมีครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป) ให้ไปฉีดวัคซีนโควิดโดยด่วน รวมทั้งการฉีดเข็มบูสเตอร์ตามเกณฑ์

2. คนไทยที่มีแผนเดินทางไปต่างประเทศ ช่วงนี้ขอให้ชะลอการเดินทางไปต่างประเทศออกไปก่อน หากจำเป็นต้องเดินทางให้ป้องกันตนเองขณะเดินทางและขณะพำนักในต่างประเทศอย่างเคร่งครัด เน้นปฏิบัติตนตามมาตรการ Universal Prevention

3. คนไทยเดินทางมาจากต่างประเทศและกักตัวที่บ้าน ให้รีบไปโรงพยาบาลตรวจหาเชื้อโควิด-19 อีกครั้ง และกักตัวจนครบ 14 วัน

4. สถานประกอบการ หน่วยงาน ที่จะจัดงานรื่นเริงช่วงปีใหม่ ให้ดำเนินการตามแนวทาง Covid Free Setting และตรวจหาเชื้ออีกครั้งด้วย Antigen Test Kit (ATK) ก่อนกลับมาทำงานหลังปีใหม่ รวมทั้งเฝ้าระวังพนักงานทุกคนที่เดินทางไปต่างจังหวัดด้วย

5. แจ้งหน่วยงานที่รับผิดชอบในพื้นที่ หากพบสถานบริการ สถานประกอบการ ร้านอาหารที่ให้ดื่มสุราภายในร้าน ไม่ปฏิบัติตามมาตรการ Covid-Free Setting

นอกจากนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้บริการประชาชนรับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วย ATK รวมทั้งให้บริการฉีดวัคซีนโควิดที่โรงพยาบาลทุกแห่งทั่วประเทศ และเพิ่มจุดให้บริการ ณ สถานีขนส่ง ในจังหวัดที่มีผู้เดินทางจำนวนมากด้วย

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ ของ สธ.แจงพบโอมิครอน 63 ราย ยืนยันผลแล้ว 20 ราย แพร่ไวเหมือนสถานการณ์โลก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook