เจ้าของสระข้างบ้านเด็ก 8 ขวบ เลี้ยงจระเข้เป็นฝูง อ้างตัวที่กัดไม่ใช่ของตัวเอง

เจ้าของสระข้างบ้านเด็ก 8 ขวบ เลี้ยงจระเข้เป็นฝูง อ้างตัวที่กัดไม่ใช่ของตัวเอง

เจ้าของสระข้างบ้านเด็ก 8 ขวบ เลี้ยงจระเข้เป็นฝูง อ้างตัวที่กัดไม่ใช่ของตัวเอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีเกิดเหตุระทึกขวัญ จระเข้ความยาว 2​ เมตร​ 18​ เซน​ติเมตร บุกขย้ำกัดแขน ด.ช.ภัทรตินันท์ วัย 8 ขวบ​ ที่กำลังนั่งขุดหาไส้เดือนอยู่ที่บริเวณริมสระน้ำร้าง ในพื้นที่ ม.5​ ต.พระนอน อ.เมือง จ.นครสวรรค์ จนส่งผลทำให้เด็กชายคนดังกล่าว ถูกจระเข้กัดขย้ำจนแขนหัก 2 ท่อน เนื่องจากในระหว่างที่จระเข้ลากเด็กชายคนดังกล่าวลงไปในสระน้ำ ได้มีการบิดตัวหมุนอย่างรุนแรง แต่โชคดี ที่มีมีคนเลี้ยงวัวมาพบเห็นและช่วยเหลือด้วยการใช้ไม้ยาวตีจระเข้จนมันหนี ก่อนจะรีบให้เด็กชายรีบจับไม้แล้วพาขึ้นฝั่งนำตัวส่งไปรักษายังโรงพยาบาล โดยเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น 

สำหรับความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (21 ธ.ค.64) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อสำรวจสระน้ำร้างระทึกขวัญ พบว่า สระน้ำดังกล่าว ตั้งอยู่บริเวณข้างบ้านเช่าของพ่อแม่ ด.ช.ภัทรตินันท์ เด็กชายผู้โชคร้าย ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ถึง 10 เมตร และมีแค่รั้วบ้านกั้นเอาไว้เพียงเท่านั้น หากจะลงมายังสระน้ำแห่งนี้ สามารถปีนข้ามกำแพงไปได้ หรือต้องไปเดินออกจากอาณาเขตบ้านเข้าอีกทางหนึ่ง ส่วนการสอบถามนางสง่า อายุ 68 ปี ย่าของ ด.ช.ภัทรตินันท์ เล่าว่า สระน้ำนี้เป็นสระน้ำร้างไม่มีเจ้าของ และบ้านที่ ด.ช.ภัทรตินันท์ มาพักอาศัย พ่อแม่ของเขาก็เพิ่งมาเช่าอาศัยอยู่ได้เพียง 5 เดือนเท่านั้น 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เคยเห็นจระเข้ในสระดังกล่าวมาก่อนหน้านี้หรือไม่ นางสง่า บอกยืนยันว่า หลังจากที่ย้ายมาเช่าอยู่ที่บ้านหลังนี้ได้ 4-5 วัน ตนก็พบเจอแล้ว และวันนั้นตนได้สังเกตเห็นจระเข้ตัวดังกล่าวโผล่หัวลอยอยู่กลางสระน้ำ ตนก็ยังรีบไปบอกให้คนในละแวกบ้านให้ระวัง และก็เตือนคนในบ้าน รวมถึง ด.ช.ภัทรตินันท์ ให้ระวังอย่าไปเข้าใกล้สระน้ำด้วย แต่ปรากฏว่า ในวันเกิดเหตุ ด.ช.ภัทรตินันท์ ก็แอบไปขุดหาไส้เดือนจนถูกจระเข้ที่อยู่ในสระน้ำทำร้ายจนได้ ตนเชื่อว่า จระเข้ตัวนี้น่าจะหิวหนัก เพราะมันกัดแขนแล้วลาก ด.ช.ภัทรตินันท์ลงไปในสระน้ำซึ่งลึกประมาณ 1 เมตร หวังจะเขมือบหลานเป็นอาหาร แต่โชคดีที่มคนมาช่วยเอาไว้ได้ทัน  

ด้านนายมานพ ตาของ ด.ช.ภัทรตินันท์ ได้นำพาผู้สื่อข่าวไปสำรวจยังสระน้ำ พร้อมกับเผยว่า สระนี้มีจระเข้อยู่ตัวเดียวเท่านั้น และจระเข้ตัวดังกล่าวถูกทางเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงน้ำจืดบึงบอระเพ็ด (นครสวรรค์) จับไปไว้ที่ศูนย์วิจัยประมงน้ำจืดบึงบอระเพ็ดเรียบร้อยแล้ว ส่วนจระเข้ตัวนี้ จะเป็นของใครหรือเป็นจระเข้ที่หลุดออกจากบึงบอระเพ็ดหรือไม่นั้น ก็ไม่สามารถยืนยันได้ เพราะมันสามารถมองได้ทั้งสองอย่าง โดยอย่างแรกที่มองได้ สืบเนื่องจากข้างสระน้ำแห่งนี้ มีบ้านเรือนที่อยู่ติดกับสระ เขาทำบ่อเลี้ยงจระเข้เอาไว้หลายตัว แต่ก็ได้สอบถามเขาแล้ว เขายืนยันว่าจระเข้ตัวที่กัดเด็กไม่ใช่ของเขา 

ส่วนอย่างที่สอง ก็อาจเป็นไปได้ว่า จระเข้ตัวดังกล่าว เป็นจระเข้ที่หลุดออกมาจากบึงบอระเพ็ด เพราะก่อนหน้านี้ในช่วงนี้หลาก บริเวณสระน้ำแห่งนี้ ซึ่งอยู่ใกล้กับบึงบอระเพ็ดในโซนอุทยานนกน้ำ ก็เคยถูกน้ำท่วมสูงมานานนับเดือน จึงอาจเป็นไปได้ที่จระเข้ ที่อยู่อาศัยในบึงบอระเพ็ดอาจจะหลุดออกมาตามมวลน้ำ  

เวลาต่อมา ผู้สื่อข่าวจึงได้ไปสอบถามข้อมูลกับนางรจณี มั่นใจ ยายของ ด.ช.ภัทรตินันท์ ในส่วนการดำเนินการของตำรวจ ได้รับการเปิดเผยว่า ทางตำรวจเขาไม่ได้พูดเลยนะว่าจะมาสอบปากคำอะไรใคร บอกแต่เพียงว่า จะรอสอบปากคำ ด.ช.ภัทรตินันท์ และแม่ของน้องเพียงเท่านั้น แต่ต้องรอให้ ด.ช.ภัทรตินันท์ ออกจากโรงพยาบาลก่อน เพราะเข้าไปสอบปากคำในโรงพยาบาลไม่ได้ เนื่องจากมีมาตรการในเรื่องของการระวังโควิด จึงต้องรออีกสักระยะ

ส่วนอาการล่าสุดของ ด.ช.ภัทรตินันท์ วันนี้ทราบจากแม่ของหลานว่า ได้มีการผ่าตัดอีกแขนรอบเมื่อช่วงสายของวันนี้ และถึงแม้อาการของ ด.ช.ภัทรตินันท์ จะดีขึ้น แต่หลานเขาก็ยังมีอาการหวาดผวาอยู่ คงไม่กล้าจะเข้าไปใกล้ที่สระน้ำดังกล่าวอีกแล้ว ขณะที่ค่ารักษาพยาบาลของหลานทั้งหมดนั้น ทราบเพียงแค่ว่า หลานใช้สิทธิ์บัตรทองในการรักษาตัว แต่ไม่ทราบว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มเติมอีกด้วยหรือไม่ 

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook