ผวาบ้านสุดหลอน เหม็นเน่าคลุ้ง-เจ้าของบ้านหาย เปิดเข้าไปเจอแต่ความว่างเปล่า

ผวาบ้านสุดหลอน เหม็นเน่าคลุ้ง-เจ้าของบ้านหาย เปิดเข้าไปเจอแต่ความว่างเปล่า

ผวาบ้านสุดหลอน เหม็นเน่าคลุ้ง-เจ้าของบ้านหาย เปิดเข้าไปเจอแต่ความว่างเปล่า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผวาทั้งซอย บ้านสุดหลอนกลิ่นเน่าคลุ้ง เจ้าของหายตัวปริศนา ตำรวจมาตรวจเจอแต่ความว่างเปล่า ไม่มีศพอย่างที่หลายคนคิด

(23 ธ.ค.64) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ ได้รับแจ้งว่ามีกลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมาจากบ้านเลขที่ 52 หมู่บ้านจิตนิพิธ ซอย สุขสวัสดิ์ 26 แยกย่อยซอยที่ 7-1 แขวง บางประกอก เขต ราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร จึงรีบรุดจัดกำลัง พร้อมประสานอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุก็พบว่าบริเวณหน้าประตูบ้านหลังดังกล่าวมีกลิ่นเหม็นเน่ารุนแรงส่งกลิ่นคละคลุ้งโชยออกมาอย่างรุนแรงจนได้กลิ่นอย่างชัดเจน และบริเวณหน้าบ้านที่เกิดเหตุดังกล่าวก็มีชาวบ้านออกมามุงดูอยู่เป็นจำนวนมากต่างก็วิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานาถึงต้นเหตุของกลิ่นที่เกิดขึ้น แล้วต่างก็ต้องการที่จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมอาสาสมัคร เข้าไปตรวจสอบภายในบ้านหลังดังกล่าวว่าด้านในบ้านนั้นมีศพ หรืออะไรกันแน่ที่ส่งกลิ่นเหม็นออกมาได้ขนาดนี้

ลักษณะเบื้องต้นของบ้านหลังดังกล่าวเป็นลักษณะทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ปลูกติดกันหลายหลัง บริเวณบ้านมีรั้วรอบขอบชิด แล้วบริเวณบ้านหลังดังกล่าวค่อนข้างที่จะรกร้างถูกปกคลุมไปด้วยกิ่งของต้นไม้ไม่ทราบชนิดที่ขาดการดูแลมาเป็นแรมปี จึงได้แผ่ขยายกิ่งก้านใบออกมาปรกคลุมทางเข้าออกของบ้านจนต้องก้มตัวตลอดเวลาในการที่จะเข้าออกบ้านหลังนี้

จากการตรวจสอบบริเวณหน้าประตูรั้วพบว่าประตูเหล็กด้านหน้าถูกล็อกอยู่ด้วยสายล็อกจักรยานเคเบิ้ลล็อก เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงมอบหมายให้อาสาสมัครใช้อุปกรณ์ทำการตัด แต่พอเมื่ออาสาสมัครตัดสายล็อกประตูเหล็กหน้าบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต่อมาจึงได้เปิดประตูรั้วดังกล่าวออก แต่สิ่งที่น่าแปลกใจก็คือกลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรงที่ใครๆ ต่างก็ได้กลิ่นกันกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย และมันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย

หลังจากนั้นเพื่อความสบายใจของชาวบ้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำทีมพาอาสาสมัครเดินเข้าไปด้านในบ้านเพื่อตรวจสอบ แต่สิ่งที่พบก็คือสภาพภายในบ้านที่ดูเหมือนจะปกติดีทุกๆอย่าง ทั่วทั้งภายในบ้านทั้งข้างบนและด้านล่าง แล้วก็ไม่พบเจ้าของบ้านหลังนี้และไม่มีใครอยู่เลย แม้กระทั่งศพที่ชาวบ้านต่างสงสัยว่าจะมีก็ไม่พบ แต่สิ่งที่ทำให้ชาวบ้านแถวนี้ รวมทั้งกู้ภัย และเจ้าหน้าที่ตำรวจต่างก็สงสัย คือกลิ่นเหม็นเน่ารุนแรงคล้ายกลิ่นศพหายไป แล้วหายไปได้ยังงัย ถึงกับงง กันหมดเลย แต่ก็ไม่มีใครให้คำตอบได้เพราะเจ้าของบ้านก็หาไม่เจอ ส่วนลูกหลานของเจ้าของบ้านหลังนี้ ก็ไม่มีใครมีเบอร์โทรศัพท์ติดต่อได้เลย ก็เลยอยากจะรู้ว่าตกลงเจ้าของบ้านหลังนี้ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ แล้วสิ่งที่ชาวบ้านได้กลิ่นคือกลิ่นวิญญานเฮี้ยนของเจ้าของบ้านหรือเปล่า ที่อาจจะเข้าบ้านไม่ได้แล้วมาส่งกลิ่นให้ชาวบ้านแถวนี้ได้กลิ่นกัน หรืออะไรกันแน่ ต่างก็อยากรู้กัน

จากการสอบถาม นางศิริรัตน์ อายุ 62 ปี เพื่อนบ้านฝั่งตรงข้าม เป็นผู้แจ้ง บอกเล่าว่า ตนเห็นครั้งสุดท้ายเมื่อวันเสาร์ มีลูกสาวมารับออกไป และเข้ามาส่ง แกเดินเข้าบ้านไปแล้วไม่เห็นอีกเลย จนมาวันนี้ได้กลิ่นเหม็น ข้างๆบ้านคนเดินผ่านไปมาก็ได้กลิ่น ตะโกนเรียกแก ก็ไม่มีเสียงตอบ ก่อนหน้านี้แกยังเดินออกมารดน้ำต้นไม้บ้าง ทิ้งขยะบ้าง แต่แกป่วยมีแผลที่บวมเป่งจนจะแตก แกอยู่คนเดียวมานานแล้ว ก่อนที่ตนจะมาอยู่อีก คุยกับคนข้างบ้านที่มาอยู่ก่อนตน บอกว่า แกเคยอยู่กับเมียและลูก แต่มีปัญหาอะไรกันไม่รู้ ไล่ลูกเมียออกไปอยู่ข้างนอก หลังจากนั้นก็ไม่เห็นลูกเมียแกอีกเลย มีแต่พวกแกร็บอะไรนี่แหละมาส่งอาหาร และรถพยาบาลมารับตอนแกจะไปหาหมอ ล่าสุดเห็นวันเสาร์นี่แหละ ที่มีลูกสาวมารับและมาส่งแกครั้งสุดท้าย ยังบอกกับบ้านข้างๆ เลยว่า ถ้าได้กลิ่นอะไรคอยดู ๆด้วยนะ แกอยู่คนเดียว เดินก็ไม่ค่อยถนัดพักหลังมาเห็นที่ตัวช่วยเดินด้วย ก็เลยเป็นห่วงแก เกิดความสงสัยถามเพื่อนบ้าน ใครเดินผ่านไปมาก็ได้กลิ่น จึงตัดสินใจแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบให้หน่อย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกกับทาง นางศิริรัตน์ ว่าถ้าเจ้าของบ้านกลับมา หรือทางญาติของเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวกลับมาที่บ้านหลังนี้แล้วให้ติดต่อกลับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ ด้วย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมที่จะชี้แจงถึงเรื่องราวและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนเรื่องที่ชาวบ้านแถวนี้ได้แจ้งเหตุไปนั้นก็เป็นเพราะความสงสัยที่ได้กลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรงที่ออกมาจากบ้านหลังนี้ แล้วอาจจะด้วยความเป็นห่วงเจ้าของบ้านที่เป็นคนมีอายุมากแล้ว และก็ป่วยเป็นโรคประจำตัวด้วย แล้วที่สำคัญคือเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวได้หายตัวไป 3-4 วันแล้ว ก็เลยเกิดความสงสัยว่าจะเป็นอะไรอยู่ภายในบ้านหรือเปล่าจึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และอาสาสมัครมาตรวจสอบ เพื่อความสบายใจของชาวบ้านแถวนี้จึงเป็นที่มาของเหตุการณ์ในวันนี้ อย่างไรแล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมชี้แจงให้กับทางเจ้าของบ้านเพื่อจะได้สบายใจ แล้วคลายข้อสงสัย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook