"ดา เอ็นโดรฟิน" กุมมือ "เดนนิส" เข้าพิธีหมั้น เปิดใจรักหวาน 10 ปีของเพื่อน วันนี้เป็นคู่ชีวิต

"ดา เอ็นโดรฟิน" กุมมือ "เดนนิส" เข้าพิธีหมั้น เปิดใจรักหวาน 10 ปีของเพื่อน วันนี้เป็นคู่ชีวิต

"ดา เอ็นโดรฟิน" กุมมือ "เดนนิส" เข้าพิธีหมั้น เปิดใจรักหวาน 10 ปีของเพื่อน วันนี้เป็นคู่ชีวิต
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เอ่อล้นไปด้วยความรักและความอบอุ่น สำหรับบรรยากาศ พิธีหมั้น(ยกน้ำชา) ของคู่บ่าวสาวป้ายแดง เดนนิส ไทยคูน และ ดา-ธนิดา ธรรมวิมล หรือ ดา เอ็นโดรฟิน ที่จัดขึ้นอย่างเรียบง่าย เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (23 ธ.ค. 64) ณ ร้าน Mother May I

ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นช่วงพิธีการ ทั้งสองก็ได้ถือโอกาสตั้งโต๊ะแถลงข่าวเปิดใจกับสื่อมวลชนถึงโมเมนต์วันสำคัญของการเริ่มต้นชีวิตคู่ พร้อมกับมอบคำมั่นสัญญาแก่กันว่า จากนี้จะดูแล และรักตลอดไป 

ความรู้สึกในวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง ?
ดา - ตอนแรกก็สงสัยเหมือนกันค่ะ ว่าทำไมคนเขาถึงร้องไห้กันในงานแต่งงาน คือมันเป็นโมเม้นต์ที่บางทีเราขอพรจากพ่อแม่ หรือขอพรจากผู้ใหญ่ มันเหมือนกับชีวิตได้รับโอกาสครั้งใหญ่ไปเลย

เดนนิส - ตอนที่ได้ยินเสียงของแม่ ได้ยินเสียงของยาย มันรู้สึกโดนเลยครับ (หัวเราะ)

ดา – ใช่ค่ะ ไปทั้งคู่เลย ร้องออกมาเองเลย มันเหมือนแบบตั้งแต่เด็กจนโต ตัวดาเองไม่เคยคิดเลยว่าเราจะได้มาแต่งงานกับเพื่อนที่เราเคยรู้จัก เพราะมันเดินทางมาเป็น 10 กว่าปี กว่าจะมีโมเมนต์นี้

พิธีการในตอนเช้าทุกอย่างเป็นไปตามที่ตั้งใจไว้ ?
ดา - ง่ายๆ มากเลย ออแกไนซ์ก็คือ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ และก็มีพี่ๆ ที่เป็นออแกไนซ์เรื่องความสวยงามของสถานที่ช่วยด้วย ส่วน พ่อ แม่ พี่ น้อง เราก็เอามาใช้หมดเลยค่ะ เพราะว่าจากสถานการณ์โควิด เราก็ใช้เป็นครอบครัวช่วยกันดีกว่า และอีกอย่างจริงๆ คุณแม่ของเดนนิสท่านจะต้องกลับ LA เดือนมกราคม เราก็เลยคิดว่าทำธุระกันให้เสร็จเลยดีกว่า

วันนี้เป็นการเจอกันครั้งแรกของทั้ง 2 ครอบครัว ?
เดนนิส - ใช่ครับ

คุณพ่อคุณแม่อวยพรแต่ละคนยังไงบ้าง ?
ดา – เขาบอกให้เราผ่อนหนักเป็นเบา ให้ร้อน ให้เย็น คือถ้ามีคนหนึ่งร้อน อีกคนก็ต้องให้อภัย คนเราอยู่กันได้นานๆ ต้องให้อภัยกันเยอะๆ

เดนนิส – ส่วนผมไม่รู้เลยว่าคุณแม่พูดอะไรบ้าง เพราะคำแรกก็ร้องไห้เลย (หัวเราะ) จำไม่ได้เลย โมเมนต์มันแบบว้าวมากครับ เหลือเชื่อจริงๆ

ดา - อย่างตอนก่อนจะสวมแหวน ดาก็แอบสะกิดเขานิดหนึ่งนะ ถามว่าเขา คุณพร้อมแล้วใช่ไหม เพราะนี่หมายถึงตลอดไปแล้วนะ (ยิ้ม) แต่พอเจอคุณแม่อวยพรก็เท่านั้นแหละ จบเลย ปี่แตกเลย

วันแรกที่รู้จักกัน ณ โมเมนต์นั้นเป็นยังไง ?
ดา – มันจะเป็นแบบกรึ่มๆ หลังตี 1 มันจะเป็นโมเมนต์นั้น (หัวเราะ) ซึ่งถ้าย้อนไปมันก็จะอายุประมาณ 23-24 แบบกำลังเปรี้ยว เที่ยว สุดๆ ไปเลย แต่ ณ ตอนนั้นมันไม่ได้มีอะไรเลยนะคะ ไม่ได้มีคำว่าครอบครัวเข้ามาในหัวเลยด้วยซ้ำ มันมีแต่คำว่าตัวเอง มีแต่อนาคตที่วาดไว้ ดาอยากเป็นนักร้อง ส่วนเดนนิสเขาอยากเป็นแรปเปอร์ และก็คิดถึงเรื่องการทำงานของเราว่าอยากให้งานของเราออกมาเป็นยังไง คือมันเป็นช่วงที่เราตามใจตัวเองเยอะสำหรับชีวิตวัยรุ่น แต่พอเราโตขึ้น มันก็มีเรื่องราวของครอบครัวเข้ามา อย่างเช่นคุณยายของดาที่แก่ขึ้น ดังนั้นเราก็เลยคุยกันว่า อยากให้คุณยายได้อุ้มหลาน ได้อุ้มเบบี๋ ซึ่งเราคิดว่ามันคงเป็นพรอันดีจากยาย หากเขาได้สัมผัสลูกของเรา

เดนนิส - คุณแม่ของผมเองก็เช่นกัน เขาอยากจะมีหลานมีเหลนแล้ว มันถึงเวลาแล้ว (ยิ้ม)

แสดงว่าหลังจากนี้เราสองคนพร้อมที่จะมีทายาท ?
ดา - ใช่ค่ะ เรามีแพลนกันแล้ว ปล่อยธรรมชาติเลย เราอยากมีครอบครัวใหญ่ๆ

เดนนิส - คิดว่าประมาณ 6 คนนะ (หัวเราะ) ฝาแฝด 3 ครั้ง

ไหวไหม 6 คน ฝาแฝด 3 ครั้ง ?
ดา – ตอนแรกดาไม่รู้ ดาไม่เข้าใจเลยด้วยซ้ำว่าทำไมบางครอบครัวถึงอยากทำฝาแฝด เพราะว่าพอเรามีน้องตอนอายุเยอะ เช่น 35 36 หรือ 40 เราก็ต้องพึ่งคุณหมอบ้าง เพื่อให้ช่วยทำฝาแฝด ให้เหนื่อยทีเดียว ตอนนี้เข้าใจแล้วค่ะว่าทำไมบางคนเขาถึงต้องทำฝาแฝดเลยทีเดียว เพราะแบบพอเราจะมาท้องตอนอายุ 35 แถมอยากมีลูก 3 คนด้วย มันก็คงจะต้องทำค่ะ ก็อยากลองเหมือนกัน อย่างต่ำน่าจะ 3 พยายามกันอยู่

แต่สามีเขาอยากมี 6 คนเลยนะ ?
ดา – 3 คู่ (หัวเราะ) นี่คนหรือวัวเอ่ย คือดาไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเขาจะสามรถทำฝาแฝดกับฝาแฝดได้ไหม

เริ่มศึกษาเรื่องนี้บ้างหรือยัง ?
ดา - มีคุยกับที่บ้านของเดนนิสค่ะ เพราะทางนั้นเขาก็ทำฝาแฝดเหมือนกัน ก็อยากรู้ว่าต้องทำยังไงบ้าง ดูแลสุขภาพยังไงบ้าง

แสดงว่าจะพุ่งไปทางวิทยาศาสตร์ ?
ดา – เราให้เวลาธรรมชาติถึงประมาณช่วงเดือนมีนาคมค่ะ เพราะว่าถ้าเกิดเขามาแถวๆ เดือนมีนาค เขาก็อาจจะได้เป็นปีเสือเหมือนแม่

ถ้าเขาไม่มาช่วงนั้นล่ะ เราจะทำยังไง ?
ดา - ก็คงทำมีนาเลยค่ะ คือยังไงก็อยากให้ทัน 9 เดือน ที่จะคลอดในช่วงปีเสือ

ตัวเราเองเห็นด้วยกับสามีไหมที่เขาอยากมีลูก 6 คน ?
ดา – 6 คนเลยเหรอ ร่างกายเราจะเป็นยังไง (หัวเราะ) คือแต่ก่อนนี้ ช่วงที่ดายังไม่มีเขา หรือยังไม่ได้รู้จักเดนนิสในเวอร์ชั่นนี้ บางทีเรื่องการมีลูกเยอะๆ ดาอาจจะไม่ได้คิด แต่ตอนนี้ดารู้แล้วว่าเขาสามารถดูแลครอบครัวเราได้ เขาดูแลแม่ดูแลครอบครัวของเขาดี จนดารู้สึกว่าถ้าหากเขามีลูก เขาก็คงจะต้องดูแลลูกของเราดีมาก ซึ่งถ้าเขาไม่ได้เป็นแบบที่เขาเป็นอยู่ทุกวันนี้ ดาก็คงไม่คิดหรอกค่ะเรื่องการมีลูกเยอะ

แสดงว่าเขาพร้อมเลี้ยงลูกแล้ว ?
ดา – เขาอยาก อยากมีครอบครัวใหญ่

เคยคิดมาก่อนไหมว่าจากเพื่อนเมื่อ 10 ปีก่อน วันนี้จะได้มาเป็นสามีภรรยาสร้างครอบครัวด้วยกัน ?
ดา – เขาจะมาอยู่เมืองไทยแค่ 3 เดือนค่ะตอนแรก (หัวเราะ)

เดนนิส – ตอนนี้เป็นปีหนึ่งแล้ว

เราประทับใจอะไรในตัวของกันและกัน ?
เดนนิส – เราโตขึ้นครับ มันผ่านมา 10 ปีเลยนะ เราเปลี่ยนกันไปเยอะมาก ความคิด การใช้ชีวิต ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดเลย แต่ตอนนี้เราอยากใช้ชีวิตแบบช้าๆ อยากมีครอบครัวแล้ว

ดา – เราใช้ชีวิตกันมาเต็มที่แล้ว จนเรารู้สึกว่าแล้วยังไงต่ออ่ะ คือถ้าเกิดเราเจอคนดีๆ เราได้เปลี่ยนชีวิตตัวเอง และต่อยอดให้มันกลายเป็นครอบครัวที่สวยงาม มันก็น่าจะดีกว่า ซึ่งเราเองก็รู้สึกว่าเรารักชีวิตเรา และเราก็อยากมอบชีวิตของเราสองคนให้กับลูกๆ ด้วย

งานเพลงจะยังทำต่อไหมถ้าหากมีลูก ?
ดา – เรื่องงานเพลงดาคิดว่าน่าจะจบที่เดือนมกราคมค่ะ

เดนนิส – ส่วนของผม คือเราก็เริ่มทำค่ายครับ เปิดค่ายใหม่

ดา – ถ้าเป็นธุรกิจในเมืองไทยก็น่าจะเป็นงานดนตรีงานเอนเตอร์เทนเมนต์ที่เราสามารถต่อยอดได้ แต่ถ้าที่ LA เราก็มีความคิดเรื่องการทำออแกไนซ์ ทำคอนเสิร์ตให้สำหรับคนที่ USA หาคอนเสิร์ตไปลงไทยทาวน์ เพราะครึ่งๆ ชีวิตน่าจะแบ่งกันอยู่ที่นั่นเลย

เพลงของเราก่อนหน้านี้ส่วนใหญ่เป็นแนวไม่ค่อยสมหวัง หลังจากนี้ต้องเปลี่ยนแนวไหม ?
ดา – ดาว่าดาก็เป็นตัวแทนให้ใครที่ไม่สมหวังได้บ้างนะ (หัวเราะ) แต่วันนี้จริงๆ ถ้าจะให้ร้องสองใจในงานก็คงไม่ได้ ไม่ได้เลย แต่เพื่อนสนิทร้องได้ ก็ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ควรจะเริ่มต้น เพราะว่า 35 36

ภาพไหนที่ทำให้เดนนิสรู้สึกว่าคนนี้คือแม่ของลูก ?
เดนนิส – ตอนผมมาเมืองไทยและเราเจอกัน ใช้เวลาร่วมกัน ได้เห็นนิสัยเขาว่าเขาเป็นคนยังไง เขาเทคแคร์คุณยาย ดูแลคุณพ่อคุณแม่แบบสุดยอดมาก แถมเด็กๆ ก็ยังรักเขา ตอนนั้นผมรู้เลยว่าเขาเก่งมาก และคนนี้ก็คือแน่นอน รักเลย

ตัวเราเองคิดเหมือนกับเดนนิสไหม ?
ดา – ดาเห็นภาพเขา เห็นการดูแลพ่อแม่ของเขา เขาดูแลพ่อแม่ยังไง เขาก็คงจะต้องดูแลครอบครัวเราแบบนั้น ซึ่งบ้านเดนนิสค่อนข้างที่จะแบบว่า เขาดูแลเทคแคร์ทุกคนเลย เป็นครอบครัวใหญ่ที่ดูแลกันตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเดนนิสเองที่มีความเป็นผู้นำสูง ซึ่งดาเคยพูดกับตัวเองว่า แฟนที่เราจะคบถ้าหากเขารักครอบครัวเราไม่เท่ากับที่เรารักและดูแลครอบครัวเราได้ ก็อย่าเพิ่งเริ่มกับใครเลย อันนี้คือก่อนที่จะเจอกับเดนนิสนะคะ และเสร็จแล้วพอดามาเจอเขาในเวอร์ชั่นที่เขาตั้งมาตราฐานในการดูแลครอบครัวไว้สูง ดาก็เลยพร้อมค่ะ ฉะนั้นทุกอย่างมันเลยเกิดขึ้นเร็ว เพราะเราอยู่ในเลเวลที่ ถ้าหากเขาพร้อม มันก็จะไปเร็วมาก แต่ถ้าเขาไม่พร้อม เราก็แค่อาจจะเดทกัน 2-3 เดือน ถ้ามันไม่เวิร์คก็คือจบ เพราะดาคงไม่ใช้เวลา 3-4 ปีอีกแล้ว เนื่องจากเวลามันผ่านไปเร็วมาก

เราใช้เวลาคบหาดูใจกันนานขนาดไหน ?
ดา - ถ้าเป็นเพื่อนกันก็ 12 ปีค่ะ แต่ถ้าเป็นแฟนก็คือ 1 ปี

การใช้ชีวิตหลังจากนี้จะเป็นยังไง ?
เดนนิส – ครึ่งๆ ครับ ครึ่งหนึงที่ LA อีกครึ่งที่ไทย

พอจะบอกเรื่องสินสอดได้ไหม ?
ดา - เขาบอกว่าอยู่เมืองไทยเท่านี้ก่อนนะ เดี๋ยวมีที่ LA อีก ซึ่งจริงๆ คุณแม่ก็อยากให้ดาได้เจอกับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่ LA ของท่านด้วย ดังนั้นดาเลยอยากถือโอกาสนี้ฝากบอกพี่ๆ เพื่อนๆ ศิลปินดาราที่ไม่ได้มาร่วมงานในวันนี้ด้วยนะคะ ว่างานวันนี้เป็นพิธีผู้ใหญ่ที่เราอยากให้พ่อแม่เราได้เจอและยกน้ำชาแบบจีน แต่สำหรับเพื่อนๆ ถ้าโอไมครอนไม่มาก มีนาเราเจอกันค่ะ ตอนนั้นอาจมีน้องมาร่วมยินดีด้วย

1 ปี ที่ผ่านมาเราประทับใจเดนนิสยังไงบ้าง ?
ดา - ดาคิดว่านะ คนเราอ่ะสุดท้ายมันเหมือนตอนวัยรุ่นมันก็คือความตื่นเต้น มันไม่ได้มองลึกลงไปจนถึงคำว่าคู่ชีวิต แต่พอเราโตขึ้น เรารู้สึกว่าชีวิตมันเหนื่อยมาเยอะ เราทำงานตั้งแต่เราเรียนจบจนถึงปัจจุบัน เราก็แค่ต้องการใช้ที่พอเรากลับมาถึงบ้าน เราได้นั่งกินข้าว ได้นั่งดูทีวี และก็ดูแลครอบครัวร่วมกัน ซึ่งดาเห็นทั้งหมดนี้ในตัวเดนนิส เขาพร้อมที่จะดูแลทุกคนเหมือนดาค่ะ เขาใช่ค่ะ

กลับมาครั้งนี้ได้ของฝากกลับไป LA ?
เดนนิส – ใช่ครับ ทุกคนที่นั่นตื่นเต้นและอยากเจอกับดามาก (หัวเราะ)

มีความในใจอยากบอกอะไรกับดาไหม ?
เดนนิส – ผมรักคุณที่รัก จากนี้และตลอดไป (ยิ้ม)

มีคำมั่นสัญญามอบให้กับเจ้าบ่าวบ้างไหม ?
ดา - ดูแลกันและกัน แค่นั้นเองค่ะ ชีวิตมันเหนื่อยมาเยอะแล้ว สำหรับดาเขาไม่ใช่แค่สามี แต่เขาคือเพื่อนที่ดีที่สุด ฉะนั้นแล้วคำว่าสามีภรรยาของดา มันคือคำว่า Best friend ค่ะที่สุดค่ะ นั่นคือสิ่งสำคัญ

สำหรับงานฉลองมงคลสมรสนั้น ดา เอ็นโดรฟิน และ เดนนิส ไทยคูน เผยว่า จะถูกจัดขึ้นในลำดับถัดไป ตามฤกษ์มงคลที่กำหนดไว้ คือช่วงปลายเดือน มีนาคม ปี 2565 ซึ่งทีมข่าวบันเทิง Sanook.com ต้องขอแสดงความยินดีกับทั้งคู่ไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ

อัลบั้มภาพ 12 ภาพ

อัลบั้มภาพ 12 ภาพ ของ "ดา เอ็นโดรฟิน" กุมมือ "เดนนิส" เข้าพิธีหมั้น เปิดใจรักหวาน 10 ปีของเพื่อน วันนี้เป็นคู่ชีวิต

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook