"วิษณุ" ชี้ช่องสภาเรียกเงินคืนจาก "สิระ" แต่ไม่ชัวร์เอาผิด กกต.-พปชร. ได้หรือไม่
“วิษณุ” ชี้ช่องสภาฯ เรียกเงินคืนจาก “สิระ” ได้ เหตุศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขาดคุณสมบัติตั้งแต่วันลงสมัคร ส.ส. แต่ไม่แน่ใจว่าจะสามารถยื่นร้องเอาผิด กกต.-พปชร. ได้หรือไม่
วันนี้ (23 ธ.ค.) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยว่า นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพรรคพลังประชารัฐ สิ้นสุดสมาชิกภาพ ส.ส. เนื่องจากขาดคุณสมบัติในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่าผู้บริหารพรรคพลังประชารัฐในขณะนั้นจะต้องถูกดำเนินคดีด้วยหรือไม่ ว่า คดีของนายสิระถือเป็นผู้เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดในคดีฉ้อโกง ส่วนผู้บริหารพรรคพลังประชารัฐจะต้องรับผิดชอบหรือไม่นั้น ตนตอบไม่ถูก อีกสักพักหนึ่งก็คงเข้าใจชัดเจน แต่ตอนนี้ยังตอบไม่ถูกว่าในตอนนั้นผู้บริหารของพรรคประชารัฐทราบเรื่องข้อมูลเกี่ยวกับนายสิระมากน้อยแค่ไหน
ส่วนกรณีที่บางฝ่ายมองว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. อาจต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วยเนื่องจากเป็นผู้ทำหน้าที่ตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครรับเลือกตั้งนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า ต้องรอดูความชัดเจน ในช่วงการรับสมัครและตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัคร ส.ส. ได้มีการตรวจสอบประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่ เมื่อถามว่าหากจะมีผู้ไปยื่นร้องเอาผิดกับ กกต. และผู้บริหารพรรคพลังประชารัฐในขณะนั้นจะสามารถทำได้หรือไม่ นายวิษณุ ระบุว่า ตนก็ไม่ทราบเหมือนกัน เท่าที่ได้ยินเบื้องต้นมีคนบอกว่าทำได้ แต่ตนไม่แน่ใจ
เมื่อถามว่ามีข้อกฎหมายใดที่มีส่วนปกป้อง กกต. ในเรื่องดังกล่าวหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ เพราะ กกต.มีหน้าที่ต้องตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัคร แต่บางครั้งก็อาจจะตรวจสอบไม่ได้ ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร
ส่วนกระแสข่าวที่สภาผู้แทนราษฎรจะเรียกเงินเดือนและรายได้ทั้งหมดคืนจากนายสิระจากกรณีดังกล่าวนั้น นายวิษณุ ระบุว่า ก็ควรจะเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว เพราะนายสิระขาดคุณสมบัติตั้งแต่วันที่มาสมัครรับเลือกตั้ง ไม่ใช่มาขาดคุณสมบัติหลังจากเป็น ส.ส.แล้ว เมื่อถามว่าบรรดาการกระทำต่างๆ ของนายสิระในฐานะประธานคณะกรรมาธิการในสภาฯ จะถือเป็นโมฆะหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มีผล สิ่งที่นายสิระเคยทำไว้ในฐานะ กมธ. ก็ยังคงอยู่