9 พรรคก้าวสู่ 65: "ชาติพัฒนา" ย้ำเสถียรภาพรัฐบาล-สภา แก้ปัญหาการเมือง-เศรษฐกิจ
9 พรรคก้าวสู่ 65: ชาติพัฒนาย้ำเสถียรภาพรัฐบาล-สภา แก้ปัญหาการเมือง-เศรษฐกิจ
ทีมข่าว Sanook.com สัมภาษณ์พิเศษ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา และอดีตรองนายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสส่งท้ายปี 2564 และเข้าสู่ปี 2565
1.ผลงานของพรรคในปี 2564
เนื่องจากพรรคชาติพัฒนาไม่ได้มีเสียงข้างมากพอให้เข้าไปกำหนดนโยบายรัฐบาล สิ่งที่พรรคทำมาตลอดจึงเป็นการช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 และปัญหาเศรษฐกิจ โดยฐานของพรรคอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา พรรคร่วมกับภาคประชาชนและหน่วยงานต่างๆ เช่น ศูนย์คนโคราชรักจริงไมทิ้งกัน ช่วยชาวบ้านผลิตหน้ากาก และร่วมกับมหาวิทยาลัยต่างๆ ร่วมกันผลิตเจลแอลกอฮอล พร้อมทั้งแจกจ่ายอาหาร ฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อโรค มอบต้นกล้าฟ้าทลายโจร และยาแคปซูลให้กับประชาชน รวมถึงให้ความรู้คำแนะนำกับประชาชนในการฉีดวัคซีนและดูแลตัวเอง
ขณะเดียวกัน พรรคสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามนโยบายที่หาเสียงไว้ เพื่อให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ซึ่งตอนนี้ก็ได้ร่วมแก้ไขกติกาการเลือกตั้งจากบัตรเลือกตั้ง 1 ใบเป็น 2 ใบ เพื่อให้ประชาชนมีสิทธิ์เลือกทั้งตัว ส.ส. และพรรคการเมือง
2.สิ่งที่ยังไม่สำเร็จในปี 2564
สิ่งที่เราตั้งใจจะทำปีนี้และปีหน้าคือแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ช่วยเหลือประชาชนจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ถ้ามองในแง่ดีก็อยากให้สถานการณ์โควิดจบภายในปีหน้า ตอนนี้พรรคร่วมมือกับรัฐบาลประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจในการดูแลตัวเอง ฉีดวัคซีนและการกระตุ้นเศรษฐกิจ เราเห็นว่าช่วงเวลานี้พึ่งการลงทุนต่างชาติยาก ดังนั้นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ พรรคสนับสนุนโครงการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยอาศัยกำลังซื้อภายในประเทศ การลงทุนจากรัฐบาลและเอกชนไทย ส่งเสริมให้คนไทยเที่ยวไทย กินของไทยใช้ของไทย
3.สิ่งที่จะทำให้ปี 2565
ขณะนี้ต้องประคองให้พ้นภัยโควิดก่อน ถ้าโควิดจบ เราจะต้องเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจต่อซึ่งจะใกล้เคียงกับสถานการณ์การเลือกตั้ง เป็นบรรยากาศโค้งสุดท้ายก่อนเข้าสู่สนามการเลือกตั้ง พรรคก็เตรียมนโยบายเศรษฐกิจ ฟื้นฟูประเทศ และสร้างแพลตฟอร์มใหม่เพื่อรองรับเศรษฐกิจประเทศ ก่อนหน้านี้เราเจอ Technology Disruption แต่ตอนนี้โควิดเปลี่ยนสังคมไปหลายอย่าง ทั้งไลฟ์สไตล์ เทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ชีวภาพ การลงทุนทางอิเล็กทรอนิกส์อย่างคริปโต ฯลฯ ซึ่งเป็นสิ่งที่ท้ายทาย การเปลี่ยนแปลงด้านภูมิศาสตร์ รัฐศาสตร์ต่างๆ กลุ่มความร่วมมือระหว่างประเทศ รวมไปถึงภาวะโลกร้อน ที่นำไปสู่ เทคโนโลยีใหม่ เช่น รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องลงทุนและตามให้ทันโลก เพื่อให้เราได้ประโยชน์ ต้องสร้างแพลตฟอร์มและนโยบายเศรษฐกิจใหม่ๆ ที่ประยุกต์จากประสบการณ์เดิมที่เรามี เช่น นโยบายพลิกฟื้นประเทศของ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ที่จะนำมาใช้ในการพัฒนานโยบายเศรษฐกิจเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลง
4.มองสถานการณ์การเมืองปี 2565
สำหรับพรรคการเมืองในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ตนมองว่าความขัดแย้งทางการเมืองเป็นเรื่องปกติเหมือนสามปีที่ผ่านมา แต่การเป็นนักการเมืองก็ต้องซ้อมตลอดเวลา เพราะอุบัติเหตุทางการเมืองอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เหมือนที่ พล.อ.ชาติชาย เคยกล่าวว่า “การเมืองจบเป็นยกๆ พอเลือกตั้งแล้วนับหนึ่งกันใหม่” ทุกพรรคคงจะมองเกมหลังเลือกตั้งว่าทำอย่างไรให้ชนะและจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่พรรคชาติพัฒนาเอง เราเดินสายกลางให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจ เป็นมิตรกับทุกฝ่าย ไม่ไปขัดแย้งกับใคร และพร้อมที่จะเปิดประตูพูดคุยกัน ไม่อยากเห็นการเผชิญหน้ากันมาก เพราะจะทำให้ความร่วมมือจะลดน้อยลงไป ยิ่งต้องเจอกับวิกฤติเศรษฐกิจและโควิด พร้อมทั้งเปลี่ยนแปลงรอบด้าน เราต้องสร้างเสถียรภาพทางการเมือง ถึงจะยันการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อยู่
จะเห็นว่าหลังการเลือกตั้งปี 2562 ที่ผ่านมา การจัดตั้งรัฐบาลก็หวุดหวิด ช่วงหลังๆ ไม่ครบองค์ประชุม และสภาล่มบ่อย ทั้งที่ประเทศกำลังต้องการกลไกลทุกชิ้นส่วนเข้ามาขับเคลื่อนและแก้ปัญหาประเทศ แต่รัฐสภากลับทำงานได้ไม่เต็มที่ นั่นเป็นเพราะเสียงของรัฐบาลมันเกินครึ่งมาไม่มากพอ อีกทั้งในช่วงวิกฤติ ส.ส. หลายคนก็ต้องออกไปพบประชาชน เสียงที่น้อยอยู่แล้วก็เลยทำให้ขาดเสียงไปใหญ่ ย้ำว่าเสถียรภาพของรัฐบาลสำคัญ การเมืองครั้งหน้าก็ต้องจัดตั้งรัฐบาลที่มีเสียงให้เพียงพอสัก 300 เสียงจาก 500 เสียงเพื่อให้องค์ประชุมไม่ขาด มีการพิจารณากฎหมาย และสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดการลงทุน
“ถ้าพรรคการเมืองสร้างเสถียรภาพในสภา สภาก็อาจจะเป็นเวทีหนึ่งที่ช่วยลดความขัดแย้งในการสังคมได้ กลไกลของสภาและความร่วมมือทางการเมืองจะช่วยลดอุณหภูมิทางการเมืองด้วยตัวมันเอง”
5.สถานการณ์เศรษฐกิจปี 2565
ในปีหน้า เราคาดการณ์ไม่ได้ว่าสถานการณ์โควิดอาจจะดีขึ้นหรือยังไม่จบสิ้น แต่ภาพรวมเศรษฐกิจที่ผ่านมาติดลบไปสองปี ดังนั้นกว่าจะฟื้นตัวก็ต้องใช้เวลา 2-3 ปี และปีหน้าการท่องเที่ยวก็อาจจะยังไม่มาไม่เต็มที่เท่ากับจำนวนนักท่องเที่ยว 40 ล้านคนก่อนโควิด เช่นเดียวกับการลงทุนก็จะยังไม่เต็มตัว ดังนั้นต้องอาศัยการบริโภคภายในประเทศ การลงทุนภาครัฐและภาคเอกชน และคนไทยต้องช่วยกันใช้ของไทยท่องเที่ยวไทย สร้างกำลังซื้อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ปีหน้าพรรคก็จะสนับสนุนการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนโยบายที่สำคัญๆ เช่น คนละครึ่ง หรือช้อปดีมีคืน เราต้องดำเนินนโยบายอย่างนี้ ต้องชวนคนไทยให้ไทยช่วยไทย ให้ประคองเศรษฐกิจผ่านมี 2565 ไปให้ได้ ให้ทุกคนพออยู่ได้ แล้วปี 2566 จึงจะเป็นปีที่เศรษฐกิจค่อยฟื้นตัว
“ขอให้ทุกท่านผ่านพ้นวิกฤติโควิดไปได้ ขอให้ทุกท่านมีความสุข เพราะว่า 2 ปีแล้วที่คนไทยเจ็บปวดกับเรื่องโควิด เราจะเครียดกับเรื่องสุขภาพ เรื่องเศรษฐกิจ ฉะนั้นถ้าขอพรได้ ขอให้พี่น้องประชาชนมีความสบายใจ ปลอดภัยจากวิกฤติโควิด วิกฤติเศรษฐกิจ” นายสุวัจน์ ขอพรปีใหม่ให้คนไทย
ผู้เขียน : อรรถชัย หาดอ้าน
อัลบั้มภาพ 7 ภาพ