หลบหน้าสื่อ ชายอ้างเป็นรองอธิบดีผู้พิพากษาภาค 5 เจรจาจ่าย 1 หมื่น ให้กู้ภัย

หลบหน้าสื่อ ชายอ้างเป็นรองอธิบดีผู้พิพากษาภาค 5 เจรจาจ่าย 1 หมื่น ให้กู้ภัย

หลบหน้าสื่อ ชายอ้างเป็นรองอธิบดีผู้พิพากษาภาค 5 เจรจาจ่าย 1 หมื่น ให้กู้ภัย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ชายอ้างเป็นรองอธิบดีผู้พิพากษาภาค 5 เมากร่างขับรถชน เจรจายอมชดใช้ค่าเสียหาย 1 หมื่น ส่วนเรื่องไม่เป่าวัดแอลกอฮอล์ ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ ขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริง

กรณีชายรายหนึ่งมีอาการคล้ายเมาสุรา วิ่งย้อนศรขับรถไปชนตุ๊กๆ จนคนขับเจ็บ ต่อมากู้ภัยเข้าไปช่วยสกัด แต่กลับขับรถหลบหนีไปเฉี่ยวชนรถอาสากู้ภัย ก่อนจะปาดหน้าสิ้นฤทธิ์ และอ้างว่าตนเองมีตำแหน่งเป็นรองอธิบดีผู้พิพากษา ภาค 5 กระทั่งมีการแชร์คลิปว่อนเน็ต ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (31 ธ.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ ร.ต.อ.อมรเทพ ชุมวิสูตร ร้อยเวร สภ.เมือง เชียงใหม่ ได้เรียกคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาพบกับพนักงานสอบสวนอีกครั้ง

โดย นายไพโรจน์ อายุ 32 ปี เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยสมาคมร่วมล้านนา และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการศูนย์กู้ชีพเทศบาลตำบลเจดีย์แม่ครัว เชียงใหม่ เจ้าของรถซูซูกิสวิฟท์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 2905 เชียงใหม่ ผู้เสียหาย เดินทางมาถึงก่อน

และ นายชาญศักดิ์ อายุ 59 ปี เจ้าของรถอีซูซุมิวเซเว่น สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน 2596 กทม. ที่อ้างเป็นรองอธิบดีผู้พิพากษาภาค 5 เดินทางเข้าบริเวณประตูด้านหลังโรงพักหลบหน้าผู้สื่อข่าว ขึ้นไปยังห้องพนักงานสอบสวนชั้น 2 พร้อมกับหญิงคนหนึ่งที่คาดว่าเป็นภรรยาที่มาส่ง

โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาสอบสวนเพิ่มเติมและให้ตกลงกันทางคดีเฉี่ยวชน โดยใช้เวลานานเกินกว่า 1 ชั่วโมง ก่อนที่ทาง ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ แจ้งว่าจะให้ข่าวกับสื่อมวลชนพร้อมกับคู่กรณีบริเวณด้านหน้า สภ. แต่เมื่อถึงเวลามีเพียงนายไพโรจน์ มาแถลงพร้อมกับ ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่

พ.ต.อ.ภูวนาท ดวงดี ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามรายละเอียดขอทางคดีนั้น อาสากู้ภัยมีความตั้งใจในการปฏิบัติงาน แม้ทางคู่กรณีที่ขับรถชนตุ๊กๆ จะตะโกนบอกในที่เกิดเหตุแล้วว่าไปเจอที่โรงพัก เมื่อขับขี่ออกมาจากที่เกิดเหตุเนื่องจากเป็นสี่แยก อาจมีความเข้าใจผิดกันจนกู้ภัยขับรถไล่ติดตามจนรถเบียดกันมีความเสียหาย กระทั่งมีการอัดคลิปแชร์ทางโลกออนไลน์

ซึ่งทางฝ่ายคู่กรณีเข้าใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยที่ตั้งใจทำงาน เบื้องต้น ได้ตกลงจ่ายค่าซ่อมรถและค่าเสียเวลา เป็นจำนวนเงิน 10,000 บาท และไม่ติดใจเอาความแล้ว ส่วนรถตุ๊กๆ ที่เจ็บเล็กน้อย ได้ชดใช้ค่าเสียหายไปตั้งแต่วันเกิดเหตุแล้ว

ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ในคลิปคู่กรณีที่อ้างตัวมีลักษณะมึนเมา เบื้องต้นเจ้าตัวยืนยันว่าไม่ได้มึนเมา เพราะลักษณะการพูดจาส่วนตัวเป็นลักษณะแบบนั้น และเนื่องด้วยเป็นเหตุทรัพย์สินเสียหายไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ในเรื่องความผิดสามารถว่ากล่าวตักเตือนกันได้

ส่วนกรณีที่ไม่ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายตั้งแต่วันเกิดเหตุนั้น จะได้สอบสวนเพิ่มเติมหาข้อเท็จจริงต่อไป โดยขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อหาใดๆ 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook