New Year Resolutions: เพื่อไทยปักหมุดแก้ รธน.-ฟื้น ศก. เชื่อหากอยู่ดีกินดี ปชต.จะตามมา

New Year Resolutions: เพื่อไทย ปักหมุดแก้ รัฐธรรมนูญ-ฟื้นเศรษฐกิจ เชื่อหากอยู่ดีกินดี ประชาธิปไตยจะตามมา

นางสาว อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการและอดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์พิเศษกับทีมข่าว Sanook.com เนื่องในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า 2564 ต้อนรับปีใหม่ 2565 กับ 5 คำถามมองภาพรวมผลงานพรรคในปีนี้และแนวทางของพรรคในปีหน้า

แม้จะมีการปรับภาพลักษณ์ของพรรคใหม่ แต่คำถามที่ทุกคนสงสัยคือ วิถีการสู้ไปกราบไป จะตอบโจทย์สังคมหรือไม่ น.ส.อรุณี กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยสนับสนุนการปกครองในระบอบประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข วลีที่วว่า “สู้ไปกราบไป” เป็นคำที่คนอื่นนิยามให้เรา กฎหมายบางเรื่องมีมาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย แต่ปัญหามันอยู่ที่การบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เป็นธรรม, การกำหนดโทษ, และผู้ร้องเรียน ต้องไม่ใช่ใครก็ได้ไปร้องมาตรา 112 มันต้องมีการรื้อระบบการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตรงนี้ต่างหากที่เป็นปัญหา อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าถ้าปากท้องของประชาชนดี มันจะทำให้ประชาชนเข้าใจระบอบการเมืองและสิทธิเสรีภาพ นำมาสู่ประชาธิปไตยเต็มใบที่สมบูรณ์ เพราะเขาไม่ต้องกังวลกับการหาเช้ากินค่ำ เขาสามารถให้สิทธิใช้เสียงของประชาชนเข้ามาเปลี่ยนแปลงสิ่งรอบตัว ดังนั้นพรรคจึงมุ่งแก้ไขเศรษฐกิจและปัญหาปากท้องของประชาชนเป็นเรื่องหลัก

ขณะเดียวกันพรรคคำนึงว่าโลกเปลี่ยนแปลงไปมาก เราให้ความสำคัญกับประเด็นสังคม โดยเฉพาะการศึกษาด้วย เพราะถ้ามุ่งแก้แต่เศรษฐกิจ แต่ไม่เตรียมคน เราก็ไปต่อไม่ได้อยู่ดี พรรคเน้นการปฏิบัติที่ทำได้จริงและเน้นการแก้ไขปัญหา แม้จะไม่ได้ชูอุมดมการณ์เป็นจุดขาย แต่เราเชื่อมั่นในประชาธิปไตยอยู่แล้ว แต่เน้นการแก้ไขเศรษฐกิจและปากท้อง เพราะเชื่อเสมอว่าถ้าเศรษฐกิจปากท้องดีจะนำไปสู่ประชาธิปไตย

 

1.ผลงานของพรรคในปี 2564

นางสาวอรุณี มองว่า ผลงานหลักของพรรคเพื่อไทยที่โดดเด่นคือ การเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นร่างที่ครบถ้วนและสมบูรณ์ในรูปแบบที่เป็นไปได้และเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย เพื่อแก้ไขวิกฤติของประเทศโดยการแก้ไขกฎหมายหลัก ตามบทบาทของพรรคการเมือง นอกจากนี้ยังรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน และเสนอร่างกฎหมายต่อรัฐสภา เช่น การแก้ไขกฎหมายประมง, ร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม, และแก้ไขกฎหมายการศึกษา ซึ่งเข้าสู่ญัตติการตั้งกรรมาธิการ รวมไปถึงกฎหมายอีกหลายฉบับที่พรรคเข้าไปมีส่วนร่วม แม้พรรคจะไม่ได้เสนอกฎหมายโดยตรงในนามพรรคเพื่อไทย เนื่องจากพรรคมุ่งเน้นการแก้ไขภาพใหญ่ ถ้าแก้รัฐธรรมนูญได้ก็แก้เรื่องสิทธิเสรีภาพอื่นๆได้ทั้งหมด

นอกจากนี้พรรคเพื่อไทยยังทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลอย่างเต็มที่ พรรคได้เปิดให้เห็นความผิดพลาดของรัฐบาล เช่น การทุจริตถุงมือยางและนำเรื่องสู่ ป.ป.ช. ทำให้ประชาชนได้ตั้งคำถามว่ารัฐบาลชุดนี้ล้มเหลว หรือเป็นคนดีจริงหรือไม่?

ในฐานะพรรคการเมือง เพื่อไทยได้พลิกโฉมให้เห็นว่าเพื่อไทยคือความหวัง และโอกาสของประชาชน ในตีม ‘พรุ่งนี้เพื่อไทย เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน’ ที่เน้นการพัฒนาด้านเกษตร การศึกษา คุณภาพชีวิตในเมืองใหญ่และมหานคร เพื่อทำให้เห็นว่าถ้าเราเป็นรัฐบาลเราทำอะไรได้บ้าง

           

2.สิ่งที่ยังไม่สำเร็จในปี 2564?

เป้าหมายสำคัญของพรรคคือการแก้รัฐธรรมนูญปี 2560 แต่เนื่องจาก ส.ว. 250 คนไม่รับร่างของพรรคเพื่อไทย แต่รับร่างของพรรประชาธิปัตย์ ซึ่งก็มีปัญหาในตัวเองในแง่ข้อกฎหมาย ดังนั้นตอนนี้ พรรคกำลังผลักดันกฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส.ส. ที่พรรคได้เสนอร่างไปแล้ว และจะพยายามผลักดันให้สำเร็จ เพื่อให้เป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย เช่น การไม่ได้กำหนดคะแนนขั้นต่ำของพรรคการเมืองเพื่อไม่ให้คะแนนตกน้ำรหรือการทำไพรมารีโหวต จังหวัดละหนึ่งที่ เพื่อให้สะดวกกับการดำเนินการ อย่างไรก็ตาม น.ส.อรุณี ย้ำว่าถ้าได้มีโอกาสเป็นรัฐบาล พรรคจะแก้รัฐธรรมนูญตั้ง สสร. แน่นอน เพื่อให้มีตัวแทนของประชาชนเข้ามาร่วมร่างรัฐธรรมนูญที่มีส่วนร่วมจากประชาชนจริงๆ ส่วนเรื่องปลีกยอ่ยก็จะสามารถแก้ไขได้หลังจากนั้น

 

3.สิ่งที่พรรคอยากทำให้เกิดขึ้นในปี 2565?

แคมเปญใหม่ของพรรค ตั้งแต่หลังประชุมใหญ่ในวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา คอนเส็ป ‘พรุ่งนี้เพื่อไทย เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน’ เรามองว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ระบบการเลือกตั้งให้เป็นธรรม จะทำให้พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย มีบทบาทและต่อสู้กับอนุรักษ์นิยมได้อย่างเท่าเทียม พร้อมกับแคมเปญ ‘#แลนด์สไลด์กับเพื่อไทย’ เป็นการสู้อย่างมียุทธศาสตร์ ถ้าเลือกพรรคใดพรรคหนึ่งในฐานะตัวแทนของฝ่ายประชาธิปไตยจะทำให้ ส.ว. ไม่สามารถแทรกแซงระบบรัฐสภาได้ และไม่ทำให้รัฐสภาอ่อนเหมือนตอนนี้ เป็นแคมเปญ

หลังปีใหม่ พรรคจะเปิดตัวนโยบาย 4 ด้าน คือ เศรษฐกิจ, การศึกษา, การเกษตร, และการท่องเที่ยว เพื่อช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและหารายได้เข้าประเทศ พร้อมทั้งสร้างคนเพื่อรองรับการพัฒนา โดยจะเริ่มเห็นแนวนโยบายที่ชัดเจนขึ้นหลังจากนี้ ตอนนี้คณะทำงานของพรรคกำลังรวบรวมข้อมูล รับฟังปัญหา คุยกับเยาวชน และประชาชน และจะเปิดตัวแคมเปญที่ชัดเจนหลังปีใหม่ ขอให้รอติดตาม

4.สถานการณ์การเมืองปี 2565 พรรคมีแนวทางที่จะพาประเทศออกจากความขัดแย้งทางการเมืองอย่างไร?

ส่วนตัวมองว่า วิกฤติการเมืองก็ต้องแก้ด้วยระบบการเมือง เราจะแก้สถานการณ์การเมืองด้วยบริบทนอกกติกาการเมืองคงต้องเป็นทางเลือกสุดท้าย อย่างไรก็ตาม ประชาชนต้องมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก เช่น การต่อต้านโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ หรือการเรียกร้องให้แก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 แต่สุดท้ายทั้งหมดต้องเข้าสู่ระบบการเมือง แต่การแก้ไขเหล่านี้ ตนเห็นว่าต้องผ่านการเลือกตั้ง ถ้ายังไม่มีการเลือกตั้งและ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังอยู่ในอำนาจครบเทอม สถานการณ์การเมืองจะไม่คลี่คลาย อึมครึม ดังนั้นจึงต้องกดดันให้มีการเลือกตั้งไปยังนายกรัฐมนตรีโดยตรง เช่น ส่งเสียงผ่านโซเชียล, สื่อ, หรือส่งเสียงให้นายกรู้ตัวตรงๆ เวลาลงพื้นที่ ให้รู้ว่านี่คือสิ่งที่ประชาชนต้องการ ไม่ใช่จัดตั้งให้นายกฯ เห็นแต่ภาพที่คนชื่นชม มันเป็นแค่โลกเสมือนจริง เพราะการประท้วง แม้จะไม่ผิดกฎหมาย แต่ในรัฐที่เป็นอำนาจนิยมสูง เขาจะใช้กฎหมายควบคุมคนที่เห็นต่างอยู่ดี ดังนั้นการเคลื่อนไหวนอกสภาจะถูกบีบโดยกฎหมาย เราต้องกดดันที่ตัวนายกฯ ตรงๆ ให้คืนอำนาจ และตระหนักว่าประชาชนเดือดร้อนแล้ว ซึ่งพรรคเพื่อไทยเองก็สะท้อนปัญหานี้มาตลอดว่ารัฐบาลล้มเหลวยังไง ทั้งตั้งกระทู้ถามสด, แถลงการณ์, และอภิปรายไม่ไว้วางใจ เราทำทุกทาง

5.พรรคมีแนวทางจะแก้สถานการณ์เศรษฐกิจปี 2565 อย่างไร?

รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ถ้าเป็นรัฐบาลจะตอบง่ายมาก เพื่อไทยเคยเสนอหลายมาตรการทางเศรษฐกิจและจุดอ่อนของนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลมาแล้วมากมาย เช่น การใช้จ่ายเงินในระดับมหภาคที่ไม่ก่อให้เกิดการวนรอบของเม็ดเงิน เป็นการเยียวยารายบุคคลเฉพาะจุด, โครงการคนละครึ่งเป็นโครงการที่ดีทำให้การจับจ่ายใช้สอยหมุนเวียนจริงๆ แต่อีกหลายโครงการ เช่น ประกันราคาข้าว วงเงินประกันไม่ได้แตกต่างจากเดิม และไม่ได้ช่วยให้เงินหมุนรอบ ถ้าเพื่อไทยเป็นรัฐบาล วันนี้คงไม่ผิดพลาดมากขนาดนี้แน่นอน วงเงินกู้ หนี้สาธารณะ หนี้ครัวเรือน คงไม่พุ่งสูงและเราคงจัดการได้ดีกว่านี้ เรื่องการจัดหาวัคซีน พรรคเคยแนะนำให้เตรียมยาทางเลือกป้องกันไว้รัสไว้ตั้งแต่ต้น พรรคให้ความสำคัญกับนโยบายการเงินการคลังเป็นหลัก แต่ปัจจุบันผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก (SME) ไม่สามารถกู้เงินได้ งบประมาณค้างคอขวด เพราะติดเงื่อนไขมากมาย รัฐต้องทำให้กลุ่มธุรกิจเหล่านี้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ และทำให้คนตัวเล็กดำเนินกิจการต่อไปได้ แต่รัฐบาลชุดนี้ทำไม่สำเร็จ อีกอย่างคือไทยมีทุนสำรองระหว่างประเทศเยอะมาก แต่ไม่เอาเงินส่วนนี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ก็เป็นปัญหา ถ้าเพื่อไทยเป็นรัฐบาลคงจะดำเนินการทั้งมหภาคและจุลภาคได้มากกว่านี้ตามที่เราเสนอมาตลอด

สุดท้ายนี้ ถ้าขอพรปีใหม่ได้ ขอให้คนไทยทุกคนสุขภาพแข็งแรง ไวรัสโควิดอย่ามากล้ำกลาย อย่าให้มีใครต้องเสียชีวิตด้วยโรคนี้อีกเลย และข้อสองจะขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ ที่อยู่ในอำนาจมานานและบริหารประเทศแบบไปต่อได้ลำบากจนถึงจุดที่ต่ำที่สุด ควรปล่อยมือให้ประเทศเดินหน้า คืนอำนาจให้ประชาชน และมีการเลือกตั้งปีหน้า

ผู้เขียน : อรรถชัย หาดอ้าน