สาวสุดงง ใส่ครอปท็อปเข้าคอนโด ถูกเจ้าหน้าที่บอกให้แต่งตัวมิดชิด ผู้ใหญ่อยู่เยอะ

สาวสุดงง ใส่ครอปท็อปเข้าคอนโด ถูกเจ้าหน้าที่บอกให้แต่งตัวมิดชิด ผู้ใหญ่อยู่เยอะ

สาวสุดงง ใส่ครอปท็อปเข้าคอนโด ถูกเจ้าหน้าที่บอกให้แต่งตัวมิดชิด ผู้ใหญ่อยู่เยอะ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สาวสุดงง ใส่เสื้อครอปท็อปเข้าคอนโด ถูกเจ้าหน้าที่บอกให้แต่งตัวมิดชิด ผู้ใหญ่อยู่เยอะ ซ้ำโดน รปภ.ซุบซิบนินทา

(3 ส.ค.64) หญิงสาวรายหนึ่งโพสต์คลิปใน Tiktok บอกว่า เธอโดนผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของคอนโดย่านทองหล่อ บอกกับเธอว่า ครั้งหน้าขอให้แต่งตัวสุภาพมิดชิดกว่านี้ เพราะที่นี่มีผู้หลักผู้ใหญ่อยู่เยอะ ซึ่งในวันนั้นเธอใส่กางเกงขายาว รองเท้าผ้าใบ และเสื้อกล้ามแบบครึ่งตัว เนื่องจากเป็นวันหยุดพักผ่อน โดยเธอมองว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการลิดรอนสิทธิส่วนบุคคล เพราะสถานที่ดังกล่าวเป็นที่พักอาศัย

ผู้เสียหายคือ นางสาวอมีนา อายุ 24 ปี เล่าว่า เธอกำลังจะย้ายเข้ามาพักที่คอนโดแห่งนี้ โดยได้โอนเงินมัดจำไปแล้ว และในวันเกิดเหตุคือวันที่ 1 มกราคม ได้เข้ามารับกุญแจห้อง พอเข้ามาถึงก็แจ้งกับพนักงานว่าจะย้ายมาอยู่ใหม่ มารับกุญแจ พนักงานผู้ชายคนดังกล่าวก็บอกให้นั่งรอก่อน แต่ปรากฏว่าได้พูดด้วยว่าต่อไปถ้ามาอยู่ต้องแต่งตัวให้มิดชิดกว่านี้ ซึ่งพูดค่อนข้างเสียงดัง และท่าทางเหมือนโชว์ฟอร์มด้วย ทำให้เธอรู้สึกตกใจ และเสียความมั่นใจ เพราะไม่เคยโดนทักแบบนี้มาก่อน อีกทั้งพอเดินกลับออกไป กลุ่มยามที่อยู่ตึกฝั่งตรงข้ามก็มองและซุบซิบกัน เพราะน่าจะได้ยินด้วย

โดยเธอรู้สึกว่า การแต่งตัวของเธอในวันนั้น ก็โชว์เพียงแค่ช่วงเอว ใส่กางเกงขายาว และสถานที่ที่มาเป็นที่พักอาศัย เหมือนมาบ้านตัวเองเพราะกำลังจะย้ายเข้ามาอยู่แล้ว และก็เป็นวันหยุด ดังนั้น ก็น่าจะแต่งตัวแบบไหนก็ได้ ที่สำคัญไม่ใช่คนรู้จักกันมาก่อน มาทักแบบนี้มองว่าไม่สุภาพ

หลังเกิดเหตุจึงได้ทักทางคอนโดไป แต่ได้รับการชี้แจงว่าพนักงานไม่ทราบว่าเธอเป็นลูกค้า ซึ่งไม่ตรงกับความเป็นจริง และเธอได้บอกว่าจะขอยกเลิกสัญญา และขอเงินมัดจำ 16,500 บาท คืน แต่ทางคอนโดบอกว่าไม่สามารถคืนเงินให้ได้

ขณะที่ทีมข่าวได้ไปสอบถามกับทางคอนโดดังกล่าว ทางนิติบุคคลชี้แจงว่า พนักงานคนที่พูดกับผู้เสียหาย เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายดูแลอาคารสถานที่ ซึ่งเป็นบริษัทนอก ที่ทางคอนโดจ้างมา เบื้องต้นได้ตำหนิพนักงานคนดังกล่าวแล้วและพนักงานก็ยอมรับผิดว่าไม่ควรไปพูดเช่นนั้น เพราะเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล และอยากขอโทษกับผู้เสียหายโดยตรง ส่วนกรณีการคืนเงินมัดจำ ก็ต้องให้เป็นไปตามระเบียบของสัญญาเช่า

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook