นักวิจัยโต้หมอมนูญ ติดเชื้อโอมิครอนอาการไม่รุนแรง-หายเองได้ แต่ไม่ใช่ "วัคซีน"

นักวิจัยโต้หมอมนูญ ติดเชื้อโอมิครอนอาการไม่รุนแรง-หายเองได้ แต่ไม่ใช่ "วัคซีน"

นักวิจัยโต้หมอมนูญ ติดเชื้อโอมิครอนอาการไม่รุนแรง-หายเองได้ แต่ไม่ใช่ "วัคซีน"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นักวิจัยออกโรงโต้ "หมอมนูญ" ชี้แม้ติดเชื้อโอมิครอนแล้วอาการไม่รุนแรง-หายเองได้-มีภูมิ จะเป็นสิ่งดี แต่สิ่งนั้นไม่ใช่ "วัคซีน" เพราะยังมีคนเสียชีวิต คนเข้าห้องไอซียู และยังมีอาการ Long COVID เกิดขึ้นได้ 

วันนี้ (4 ม.ค.) ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Anan Jongkaewwattana เพื่อตอบโต้ข้อมูลที่ นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ ให้ข้อมูลไว้ก่อนหน้านี้เกี่ยวกับไวรัสโควิดสายพันธู์ดอมิครอน โดยระบุว่า

ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ ทำไมไม่เร่งแยกเชื้อโอมิครอนมาฉีดให้ประชาชนหล่ะครับ ได้เชื้อบริสุทธิ์ ปริมาณเหมาะสมด้วย เป็นวัคซีนที่ต้องการอยากได้ไงครับ

วัคซีนเชื้อเป็นอ่อนฤทธิ์ ไม่ทำให้ผู้รับวัคซีนมีอาการป่วยใดๆ ถ้าวัคซีนตัวนั้นยังคงทำให้คนเสียชีวิตได้ เข้า ICU ได้ และ ที่สำคัญมีอาการ Long COVID ได้ ผมไม่นิยามสิ่งนั้นว่าวัคซีนครับ

การสื่อสารต้องชัดเจนครับ เราบังเอิญติดเชื้อจากธรรมชาติแล้วอาการไม่รุนแรงหายเองได้แล้วมีภูมิเป็นสิ่งดี แต่สิ่งนั้นไม่ใช่ "วัคซีน"

ทั้งนี้ การโพสต์ข้อความดังกล่าว เป็นผลมาจากก่อนหน้านี้ นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าห้องไอซียู เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนักและโรคผู้สูงอายุ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC ที่ระบุถึงความเชื่อว่าไม่ช้าก็เร็วทุกคนจะติดเชื้อโอมิครอน เปรียบเสมือนวัคซีนธรรมชาติชนิดตัวเป็นอ่อนฤทธิ์ เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ จนอาจทำให้การแพร่ระบาดของโควิดจบลง โดยมีรายละเอียดดังนี้

"ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 2 ปี หลังวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่นี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะก้าวกระโดดหลายหมื่นคนแต่ละวันในไม่ช้า แต่คนไทยไม่ต้องตื่นตระหนกตกใจมากเกินไป

เชื้อไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์โอมิครอน มีวิวัฒนาการเปลี่ยนไปจากเดิมมาก ปรับตัวเองให้เข้ากับคนได้ดียิ่งขึ้น แพร่จากคนสู่คนง่ายขึ้น ลดระยะฟักตัว และเปลี่ยนจากการก่อให้เกิดโรคทางเดินหายใจอักเสบทั้งส่วนบนและส่วนล่างรุนแรงเฉียบพลัน กลายเป็นเชื้อโคโรนาไวรัสที่ทำให้เกิดหวัดเล็กธรรมดา ไม่รุนแรง เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน ไม่ค่อยลงปอด เหมือนกับเชื้อโคโรนาไวรัสที่เรารู้จักมานานอย่างน้อย 50 ปีแล้ว ได้แก่ human coronavirus-229 E, human coronavirus-NL63, human coronavirus-OC43 และ human coronavirus-HKU1

เชื้อโคโรนาไวรัสดั้งเดิม 4 ชนิดนี้ก่อให้เกิดโรคหวัดธรรมดาในเด็ก เป็นเองหายเอง ส่วนผู้ใหญ่มักไม่ติดเชื้อนี้ เพราะมีภูมิต้านทานตามธรรมชาติเนื่องจากเกือบทุกคนเคยติดเชื้อนี้มาแล้วสมัยเป็นเด็ก ถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีวัคซีนป้องกันเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ดั้งเดิม

หลังการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนครั้งใหญ่นี้ เชื่อว่าทุกคนไม่ว่าจะเคยฉีดวัคซีน หรือเคยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดิมมาก่อน จะได้รับเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนไม่ช้าก็เร็ว เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ หวังว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คงจะจบลงสักที

อนาคตเราคงไม่ต้องมาฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 เข็ม 4 กันอีก เพราะเราทุกคนได้รับเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนเปรียบเสมือนวัคซีนธรรมชาติชนิดตัวเป็นอ่อนฤทธิ์ (live attenuated vaccine) กระตุ้นภูมิต้านทานได้ดีกว่าวัคซีนทุกชนิดที่มีในปัจจุบัน อนาคตของบริษัทผลิตวัคซีนต่อต้านไวรัสโควิด-19 คงไม่รุ่งเหมือนช่วงที่ผ่านมา"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook