สมาคมค้ายาสูบไทยเป็นลม เจอบุหรี่ลอบนำเข้าตีตลาด วอนรัฐช่วยด้วย
นางวราภรณ์ นะมาตร์ ผู้อำนวยการบริหาร สมาคมการค้ายาสูบไทย กล่าวว่าบุหรี่ลักลอบนำเข้าระบาดรุนแรงอีกครั้งเมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา และแย่งส่วนแบ่งตลาดไปถึง 29% และเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐปราบปรามอย่างจริงจัง มิฉะนั้นรัฐอาจเป็นฝ่ายเสียรายได้เสียเอง
"บุหรี่เถื่อนหนีภาษีเข้ามาตามชายแดน โดยเฉพาะทางภาคใต้มีการนำเข้ามาขายกันเป็นปกติ ที่ผ่านมามีการร้องเรียนไปหลายหน่วยงาน บุหรี่หนีภาษีเป็นปัญหาที่มีมานานแล้ว โดยเฉพาะช่วงก่อนที่จะปรับโครงสร้างภาษีครั้งใหญ่ในปี 2560 มีการลักลอบนำเข้ามาเป็นขบวนการ มาถึงตอนนี้ที่ราคาขายบุหรี่แพงขึ้น บุหรี่หนีภาษีก็ได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะราคาถูกกว่ามาก และสามารถหาซื้อได้ง่าย" นางวรากรณ์ กล่าว
"ในฐานะผู้ค้าอย่างถูกกฎหมาย โดนบุหรี่หนีภาษีมาแย่งส่วนแบ่งตลาดไปถึง 29% ไม่เป็นธรรมกับผู้ค้าที่เสียภาษีถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งได้ไปหารือกับคณะกรรมาธิการหลายๆคณะ รวมทั้งกรมสรรพสามิต กรมศุลกากร ทุกฝ่ายทราบว่ามีปัญหานี้ แต่ติดขัดเรื่องงบประมาณที่จะใช้ดำเนินการแก้ปัญหา อยากให้ภาครัฐจริงใจในการแก้ไขปัญหาบุหรี่หนีภาษี ขอให้ดำเนินการอย่างจริงจังขยายผลไปถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลัง เพราะหากปัญหายังคงวนเวียนอยู่แบบเดิม รัฐจะเป็นผู้เสียรายได้ในที่สุด"
แห่หาบุหรี่เถื่อนเหตุของในประเทศแพง
บุหรี่หนีภาษี เป็นปัญหาที่ได้ยินมาอย่างยาวนาน และเมื่อรัฐบาลประกาศปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตบุหรี่ตั้งแต่ 1 ต.ค. 64 ทำให้ราคาบุหรี่ที่เสียภาษีอย่างถูกกฎหมายปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 10% ทำให้ราคาของบุหรี่หนีภาษี ซึ่งถูกกว่าประมาณ 20-40 บาทต่อซองอยู่แล้ว กลายเป็นจุดล่อตาล่อใจและดีสำหรับเงินในกระเป๋าของผู้ซื้อ
ส่วนเส้นทางที่ผู้ลักลอบนำเข้าขนส่งเข้ามานั้น ผ่านทั้งทางชายแดนบนบกและทะเล โดยเฉพาะ จ.นราธิวาส
นอกจากผลกระทบที่เกิดขึ้นกับผู้ค้าแล้ว ผู้ที่เผชิญปัญหาอีกกลุ่มหนึ่งคือผู้ปลูกยาสูบในประเทศ
นายกิตติทัศน์ ผาทอง ตัวแทนภาคีชาวไร่ยาสูบ กล่าวว่า "รายได้ของชาวไร่ยาสูบขึ้นอยู่กับผลประกอบการของการยาสูบแห่งประเทศไทย" ดังนั้นถ้าปล่อยให้บุหรี่หนีภาษีมาตีตลาดในประเทศได้ รายได้จากการรับซื้อยาสูบในประเทศก็จะลดลงตามไปด้วย
การยาสูบฯ ยอมรับรายได้ลด
อย่างไรก็ตาม นายนพดล หาญธนสาร รองผู้ว่าด้านการบริหาร รักษาการผู้ว่าการยาสูบแห่งประเทศไทย เผยว่า นอกจากบุหรี่หนีภาษีที่กระทบต่อรายได้ของการยาสูบฯ แล้ว การปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่ที่รัฐบาลนำมาใช้นั้นก็กระทบต่อรายได้ของการยาสูบฯ อย่างมากด้วย เมื่อรายได้ลดลง ก็ต้องลดการรับซื้อใบยาสูบจากเกษตรกร ซึ่งส่งผลกระทบต่อรายได้ของชาวไร่อีกทอด แต่ที่ผ่านมา การยาสูบฯ ก็แนะนำให้ปลูกพืชอื่นทดแทน เพื่อให้ยังพอมีรายได้เข้ามาบ้าง เช่น กัญชง และกัญชา ตามนโยบายของรัฐบาล
ส.ส.พัทลุง แนะให้ความรู้ประชาชนควบคู่
ด้านนายนริศ ขำนุรักษ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จ.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเรียกร้องให้รัฐบาลปราบปรามผู้ลักลอบนำเข้าบุหรี่อย่างจริงจัง ขณะเดียวกันก็ควรให้ความรู้ประชาชนทั่วไปให้สนับสนุนสินค้าถูกกฎหมาย
"สินค้าหนีภาษี นอกจากจะทำลายผู้ค้าท้องถิ่นแล้ว ยังทำลายระบบเศรษฐกิจของประเทศโดยรวมอีกด้วย เรียกได้ว่าทำลายระบบทั้งหมด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีมาตรการที่เข้มข้นในการจัดการกับผู้ลักลอบทำผิดกฎหมาย นอกจากการปราบปรามผู้กระทำความผิดแล้ว อีกทางหนึ่งที่ควรทำควบคู่กันไปคือการให้ความรู้แก่ผู้บริโภคไม่ให้สนับสนุนสินค้าที่ผิดกฎหมาย นอกจากนี้ในส่วนของเจ้าหน้าที่ภาครัฐเองต้องไม่ร่วมกระทำความผิด หรือ รู้เห็นและปล่อยผ่านให้เกิดการลักลอบสินค้าหนีภาษี ซึ่งเจ้าหน้าที่ของรัฐเองเมื่อกระทำความผิดควรได้รับโทษมากกว่าสองเท่า เรื่องนี้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องควรร่วมผลักดันและดำเนินการอย่างจริงจัง"