เที่ยวแบบซูเปอร์สตาร์ เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์

เที่ยวไทยแสนอบอุ่นไปกับ พี่เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ เผยความประทับใจเที่ยวภูมิภาคไหนไทยก็สวย รอยยิ้มต้อนรับ พร้อมอาหารอร่อยหลากรส

ซูเปอร์สตาร์ขวัญใจชาวไทยตลอดกาล อย่าง เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์ ไม่ว่าจะขยับตัวทำอะไร ก็อยู่ในความสนใจของผู้คนตลอดเวลา ทุกครั้งที่ไปปรากฏตัวที่ไหน ก็มักจะเห็นผู้คนรุมล้อมไม่ห่าง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจึงคว้าตัวมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ช่วยชาติ โครงการเที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก เพื่อชักชวนคนไทยเที่ยวไทย กระตุ้นเศรษฐกิจไทย ปรากฏว่ามีผู้คนเที่ยวตามรอยกันอย่างล้นหลาม หลังจากที่ผ่านมาซูเปอร์สตาร์คนนี้ได้พาไปสัมผัสความมหัศจรรย์ของสามพันโบก หรือแกรนด์แคนยอนเมืองไทย ที่จังหวัดอุบลราชธานีมาแล้ว ครั้งนี้ตามรอยไปเที่ยวที่มอหินขาว จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งถูกขนานนามว่า สโตนเฮนจ์ของเมืองไทย สถานที่ถ่ายทำหนังโฆษณาชุดล่าสุดของขวัญใจชาวไทยตลอดกาล

ตอนไปเที่ยวสามพันโบกจังหวัดอุบลราชธานี มีคนตามรอยพี่เบิร์ดไปเที่ยวเยอะเลย คราวนี้ไปมอหินขาว พี่เบิร์ด ประเมินว่าน่าจะมีคนไปเที่ยวเยอะมั้ย

พี่เบิร์ดว่ามี เพราะว่าเวลาเราไปอยู่ตรงนั้น เราเห็นการเตรียมพร้อมของชาวบ้าน มีคนไปเที่ยวอยู่แล้ว คือเขากางเต็นท์นอนกัน ตี 3 ตี 4 เขาจะไปกัน อาจจะไปกันตั้งแต่บ่ายๆ เตรียมอาหารไปเอง ทานข้าวกันไป ร้องเพลงกันไป มันเป็นลานที่กว้างมากเลย ที่มอหินขาวจะมีด้วยกัน 2 สเต็ป สเต็ปแรก พี่เบิร์ดประเมินเองว่า มันเป็นเหมือนหมู่บ้านหิน หมู่บ้านแรก กับหมู่บ้านหินหมู่ที่ 2 ซึ่งเราไปถ่ายทำที่หมู่บ้านหินหมู่ที่ 2 หมู่บ้านแรกจะเป็นหินก้อนใหญ่มาก ดูศักดิ์สิทธิ์ เราก็ไปปีนเล่นไม่ได้ เขาพาพี่ไปปีนข้างบน แล้วพี่ก็เห็นเต็นท์ๆๆ ตอนนั้นตี 3 ตี 4 บรรยากาศมันสวยมาก น่าจะเป็นที่ที่โรแมนติกอีกทีหนึ่งเลย สำหรับนั่งดูดาวตอนกลางคืน ขณะดาวยังไม่มาก็สวยนะ ก็จะเย็นๆ ลมเย็น เพราะเราอยู่ที่สูง แล้วแถวนั้นเวลามองไป มันเป็นสีเขียวลดหลั่นกันลงไป สวยมากเลย เมืองนอกก็เมืองนอกเถอะ สู้ที่นี่ไม่ได้...

ดูจากหนังแล้ว "มอหินขาว" สวยมาก ของจริงเป็นอย่างไร

มันมหัศจรรย์..รู้สึกทึ่ง..ไม่คิดว่าจะมีแบบนี้ เราเอามือจับหิน เราได้มอง สิ่งที่เราเห็น สิ่งที่เราจับ เราจะพิสูจน์ตัวเราเองว่า..มันเป็นจริง เหมือนมนุษย์ต่างดาวมาทำไว้รึเปล่า เอ๊ะ..แต่เขาบอกว่าอยู่ใต้น้ำ ระดับของชั้นหินสามารถบอกได้เลยว่า มันมีรอยน้ำ แปลกมากเลย!! รอยน้ำเป็นชั้นๆๆ ซึ่งไม่มีฝีมือคนทำได้ ต้องน้ำเท่านั้น ทำจนหินเป็นรู มหัศจรรย์มาก ในหนังที่เราเห็นเป็นช่องรูของหิน มันคงจะเป็นไม่รอยน้ำก็รอยลม แต่พี่เบิร์ดคิดว่าน่าจะเป็นน้ำมากกว่า ลองคิดถึงตัวเอง ถ้าเราไปอยู่ใต้น้ำแบบนั้น เหมือนในสามพันโบกที่เราไปอยู่ในก้นของแม่น้ำโขง อันนี้ก็เหมือนกัน ทั้งที่อยู่สูง แต่กลายเป็นที่ที่อยู่ในน้ำมาก่อน เราสามารถจินตนาการได้ เป็นการ์ตูนได้ เวลาเราวิ่งไปเหมือนอยู่ในหนังจูราสสิก ปาร์ค ว่ามันเหมือนอะไรที่ตัวใหญ่กว่าเราหมดเลย สูงมาก เท่ากับตึก 3 ชั้น 5 ชั้น 7 ชั้น มีให้เลือกปีนเยอะแยะไปหมดเลย หินก้อนที่พี่เบิร์ดไปนอนดูดาว สูงมาก เหมือนเด็กที่เมื่อก่อนเราเคยปีนต้นไม้ ไปเกือบถึงยอด โอ้โห้..มันโล่งตา อะไรกันเนี่ย แล้วพวกเราตื่นเต้นอย่างนี้กันตลอดทั้งคืนเลย สนุกดี ที่นั่นเขาเห็นดาวตกกันเป็นแพๆ เลยนะ เขาบอกว่ามานั่งอธิษฐานกันนี่ ถ้าลืมก็อธิษฐานกันใหม่ได้เลย จะเห็นตลอด เพราะเห็นดาวตกเป็นสายๆ เลย

กิจกรรมที่น่าทำที่สุดที่มอหินขาว

นอกจากดูดาว ก็ไปกางเต็นท์นอน นั่งพูดคุย ร้องเพลง ทำกับข้าวกินกัน เป็นกิจกรรมที่คนที่รักๆ กัน โรแมนติก ไปขอแต่งงานกันวันนั้นก็ได้นะ เหมาะกับคู่รัก และเหมาะกับพวกเฮฮาด้วย เพราะจะมีหลายเทือกให้เลือก ที่นั่นจะมีบ้านอยู่หลังหนึ่ง สงสัยว่าจะให้เช่า สวยมาก น่าไปเดินเล่น สมมุติว่าเราไปถึงที่นั่นซักหลังเที่ยง ช่วงบ่ายๆ เราก็เดินเล่นได้ เดินขึ้นเขา

มอหินขาวในจินตนาการของพี่เบิร์ด

จินตนาการมอหินขาว เหมือนเราไปดำน้ำที่ไม่ต้องลงน้ำ เป็นปะการังที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา และตัวเราเป็นปลาลอดไปทางโน้นที ทางนี้ที สนุกมากเลย ลอดไปตามรู มันมีปะการังที่ใหญ่มาก พอเลยปะการังไปมันเป็นดาวซะแล้ว มันมหัศจรรย์ ถ้าทุกคนไปเห็นแล้วจะ..ทึ่ง

ต่างจากสามพันโบกอย่างไรบ้าง

ที่สามพันโบกพี่เบิร์ดจะสมมุติเรื่องราวว่ากำลังขี่พญานาคอย่างสนุกสนาน มาก ส่วนที่มอหินขาว มันไม่ใช่หินนะ มันเป็นเรื่องของ...ก็ยากเหมือนกันนะ เพราะว่ากลางคืนมันสวยมาก มันอาจจะเป็นดอกไม้กับดาว คือมันเอื้อมถึงกันได้หมดเลย มันจะเป็นปะการังก็ได้ มันจะเป็นน้ำก็ได้ พี่เบิร์ดว่ามันสามารถเป็นการ์ตูนของเราได้ มันไม่สามารถไปกำหนดได้ว่าอะไร แล้วแต่จินตนาการ ดูไปดูมา เราจะจินตนาการเป็นอะไรก็ได้ เราจะไปเดินในเมืองคนยักษ์ก็ได้นะ กลายเป็นคนตัวจิ๋วก็ได้ คนตัวใหญ่ๆ ไปอยู่แถวนั้นยังตัวเล็กไปเลย

ปกติเวลาไปเที่ยวชอบไปกับใคร

ไปกับพี่น้อย ตอนแม่อยู่พี่เบิร์ดจะไปกับแม่ พี่เบิร์ดชอบไปเที่ยวกับครอบครัว บางทีก็ไปกัน 40 คน ไปเที่ยวไปเล่นกัน เมื่อก่อนไปหัวหิน ไปเป็นครอบครัวใหญ่เลย บุฟเฟต์เต็มที่ สนุก ไปวิ่งเล่นที่หาดทราย เอาพลุยิงกัน สนุกดี มันไม่ต้องกลัวใคร ไปกันได้เยอะแยะ เหมาตู้รถไฟกันไป เหมาโบกี้กันไป หรือว่าเช่ารถสองชั้น และเราก็ซื้อข้าวห่อกันไป ห่อหนึ่งได้ทั้งไข่ ทั้งอะไร เห็นมั้ย ชาวบ้านก็ได้เยอะแยะไปหมดเลย มันยังได้ภาพจำ พี่เบิร์ดว่าสำคัญที่สุด คือภาพจำของคนในครอบครัวว่า บางทีเราทำงานและเราก็ไม่มีเวลา ถ้ามันมีภาพจำที่เราเคยไปเดินเอาเท้าปัดทรายเล่นกับพ่อ จูงมือกับแม่ ทำอาหารกิน เสียงหัวเราะในครอบครัวที่เราไปอยู่ตรงนั้นกัน ภาพถ่ายที่เราเคยมี วีดิโอที่เราเคยมี เรามาถ่ายคลิปพวกนี้ดีกว่า เราเก็บเอาไว้ดู พอมาเจอกันอีกก็เล่า พูดคุยกัน มันก็จะเกิดทริปขึ้นเรื่อยๆ มันน่าจะดี

เมนูอาหารที่เวลาไปเที่ยวแล้วขาดไม่ได้

กะเพราไก่ไข่ดาว ราดหน้า ต้องราดหน้าเส้นใหญ่ ร้อนๆ นะ มีอยู่แค่นี้ หรือไข่เจียวหมูสับหรือกุ้งสับโปะข้าว ต้องโปะข้าวมา แล้วก็พริกน้ำปลาราดทับไปอีกที แล้วก็ค่อยๆ ละเลียดกินตรงที่มันเค็มๆ ก็อร่อย มีพริกขี้หนูติดมาด้วย เรื่องอาหารการกินพี่ธรรมดามาก แต่ต้องเผ็ด แบบลืมบ้านเลย ชอบทานเผ็ด ที่ชัยภูมิอาหารอร่อยมาก เมนูเด็ดคือปลาสมุนไพร เขาทำแบบราดสมุนไพร พริก หอม กระเทียม ตะไคร้ หอมสับ ราดบนตัวปลา โอ้โห..และก็มีแหนม มีไก่ มีปลาส้ม ส้มตำปลาร้า สารพัดเลย ไข่ดาวสุกๆ 2 ใบ บางทีเราอยากกินสุก บางทีอยากกินแบบไม่สุกไงจ๊ะ เอามาเลย 2 ใบ หล่อเลือกได้ (หัวเราะ)

ความประทับใจการท่องเที่ยวในเมืองไทย

อย่างแรกคือความภูมิใจ พี่เบิร์ดภูมิใจที่เมืองไทยเราสวย เมืองไทยเรามีของดี แต่เราไม่ค่อยได้เห็นกัน เมื่อเราได้เห็นก็จะเกิดความมหัศจรรย์แบบนี้ รู้สึกภูมิใจแทนท้องที่ตรงนั้นด้วย ไม่ว่าจะไปเที่ยวทะเล เวลาที่เครื่องกำลังจะร่อนลง เราจะเห็นความเขียวของทะเล สีของต้นมะพร้าว เวลาเราไปทัวร์จะบอกกับผู้คนตามจังหวัดที่เราไป ทุกที่จะต่างกัน ไปทางเหนือบรรยากาศจะเป็นหมอก ไปทางอีสานก็เขียว แม้จะแห้งแล้งก็ยังสวย ไปทางใต้ก็จะเห็นสีสันตัดกันของท้องทะเลสีเขียวกับสีฟ้าของท้องฟ้า อีกอย่างคือความรู้สึกเป็นห่วง ทุกครั้งที่เวลาเราไปที่อื่นๆ ที่ไม่ใช่ประเทศไทย เขาจะยินดีต้อนรับมาก มีความเป็น reception เพราะฉะนั้นคนไทยเรามีหมดเลย คนไทยทุกคนมีรอยยิ้ม มีความเป็นเจ้าของ แต่เราต้องรีบทำกันแล้วล่ะ ต้องกระตือรือร้นที่จะต้อนรับพวกเรากันเองก่อน

ประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ยังอยู่ในความทรงจำ

เมื่อก่อนตอนที่คุณแม่อยู่ ตอนอยู่บางแค และไม่มีเงินเลย เราก็จะไปเที่ยวกัน ไม่มีใครที่อยากไปเที่ยวเดี่ยวกันเลย เราก็ไปกันทั้งบ้าน เราไปเช่ารถสองแถว ไปเที่ยวที่บางแสน ซึ่งเราก็ไม่มีเงินพักบ้าน เราไปนอนกันริมหาด เอาเสื่อไปนอน กำลังหลับสบาย หลับๆ อยู่ต้องวิ่งหนีขึ้นมาเพราะน้ำมันขึ้น เนี่ย..มันก็มีภาพ เห็นมั้ย เวลาไปเที่ยวแล้วเรากลับมาคุยกันจนถึงวันนี้ จนกระทั่งคุณพ่อคุณแม่พี่เบิร์ดหลับไปแล้ว เรายังมีภาพแห่งความสุขตรงนั้นอยู่เลย เพราะฉะนั้นภาพแห่งความสุขขณะนั้น ความรักในครอบครัวสำคัญที่สุด มันจะเกี่ยวเนื่องกันมากที่เราจะได้พากันไปเที่ยว เรื่องพูดคุยกันระหว่างเที่ยว อาหารที่กิน ยิ่งง่ายเท่าไหร่ ยิ่งสนุกเท่านั้น คือไม่ต้องพิถีพิถันอะไรมาก เจออะไรก็กิน มีแต่เสียงหัวเราะ มีแต่สนุกสนาน กล้องไม่มีก็ไม่ต้องถ่าย เพราะตาเราเนี่ยมันเก็บไปได้ทุกอย่าง แล้วบันทึกเอาไว้

เที่ยวง่ายๆ แบบไหนที่พี่เบิร์ดแนะนำ

ก็พอถึงวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์นะ ไปกันแล้ว อย่างน้อยก็ไปไหว้พระก็ได้ ไปดูหิ่งห้อยก็ได้ ที่ใกล้ๆ แถวปริมณฑล หรือว่าคนที่อยู่ในจังหวัดทางอีสาน ก็ไปเที่ยวข้ามจังหวัด หรือคนที่อยู่ทางเหนือเที่ยวข้ามภาค พี่เบิร์ดว่ามันจะเป็นการสวนทางกันที่สวยงามมาก เช่าโบกี้กันเลย เรานัดกันเลยว่าเดี๋ยวโบนัสออก คนละ 500 เก็บเอาไว้เลย แล้วก็เขียนขึ้นกระดานดำเลยว่า 500 นี่ กิน นอนเท่าไหร่ ไปพักผ่อนด้วย ไปเที่ยวด้วย ไปนั่งสมาธิก็ได้ อย่างนี้พี่เบิร์ดว่าดี สมมุติถ้าพ่อแม่ชอบนั่งสมาธิเราก็ไปเที่ยวกันแบบนี้ เป็นทริปที่ไปพักที่นี่ นุ่งขาวห่มขาวนั่งสวดมนต์กัน 2 วัน จากนั้นเราก็ไปลุยทะเลต่อกันเลย มันก็จะได้หลายเด้ง ไปดำน้ำไปดูปะการัง ก็จะรู้สึกว่า โห..ทำไมมันสวยขนาดนี้ อยากให้เพื่อนเรามาดู อยากเก็บรักษาอย่างนี้ไว้ สมมุติเด็กๆ เลยนะ เราจะเกิดคำสอนโดยไม่รู้ตัว อย่าเก็บกลับบ้านนะ อย่าเก็บหอยไป เขามีพี่น้องเขาอยู่ เดี๋ยวเขาคิดถึง มันจะเกิดอารมณ์ความรู้สึกได้