คาดโทษสน.ห้วยขวางปล่อยโจ๋ต่ำ18ปีเที่ยวผับ

ตร. ปส.สนธิกำลังป.ป.ส.- ป.ป.ท.นับ100 นาย จู่โจมตรวจผับดังย่านรัชดา นักท่องราตรีหลายร้อยคนแตกฮือ พบอายุต่ำกว่า20ปีกว่า200คน ฉี่ม่วง 32 คน ท้องที่ห้วยขวางเศร้า โผล่ขอร่วมแจมแต่ถูกปฏิเสธ เผยลุยตรวจใหญช่วงใกล้ปีใหม่ หวั่นซ้ำรอยซานติก้าผับ

เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 29 พฤศจิกายน พล.ต.ต.แสงสูรย์ กรรณสูตร ผู้บังคับการปราบปรามยาเสพติด 1 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ผบก.ปส.1 บช.ปส.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.ฉัตรชัย ศิริทรัพย์ ผู้กำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 1 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ผกก.1บก.ปส.1บช.ปส.) นายประยงค์ ปรียาจิตต์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กทม.(ผอ.ป.ป.ส.กทม.) นายวัฒนา จอมพลาพล ผอ.ส่วนอำนวยการบังคับใช้กฎหมาย ป.ป.ส. พ.ต.ท.สมบูรณ์ สารสิทธิ์ ผู้อำนวยการ สปท.2สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และพ.ต.ท.วันนพ สมจิตนากุล ผอ.สปท.5 ป.ป.ท. สนธิกำลังกว่า 100 นายเข้าตรวจค้นร้านโมทาวร์ บางกอก ถนนรัชดาซอย 8 แขวงและเขตห้วยขวาง กทม.

สำหรับร้านดังกล่าวพบว่ามีนักเที่ยวทั้งชายหญิงหลายร้อยคนต่างดื่มกิน เต้นรำด้วยอาการมึนเมาอย่างสนุกสนาน เจ้าที่จึงสั่งให้การเปิดไฟ ปิดเสียงเพลง ทำให้นักเที่ยวต่างตืนตกใจพยายามหนีออกจากร้านแต่เจ้าหน้าที่ได้ปิดประตู ทางออกทำให้ไม่สามารถหลบหนีออกไปได้ จากนั้นจึงจับแยกนักเที่ยวออกเป็นชายหญิงเข้าแถวเพื่อตรวจบัตรประชาชนและ ตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติด ผลปรากฎว่าพบนักเที่ยวอายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 219 คน ซึ่งส่วนใหญ่อายุประมาณ 14-16 ปี ไม่มับัตรประชาชนอีก 10 คน
นอก จากนี้ผลการตรวจปัสสาวะพบว่ามีฉี่เป็นสีม่วงจำนวน 32 คน แบ่งเป็นชาย 11 หญิง 21 จำนวน ซึ่งในจำนวน 32 นี้มี 28 คน อายุไม่ถึง 20 ปี อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะส่งนักเที่ยวที่อายุต่ำ 20 ปี และปัสสาวะเป็นสีม่วง ไปทำประวัติที่สน.ห้วยขวาง พร้อมทั้งเรียกผู้ปกครองมารับทราบก่อนปล่อยตัวกลับบ้าน

พล.ต.ต.แสงสูรย์ กล่าวว่า การเข้าตรวจค้นสถานบันเทิงครั้งนี้สืบเนื่องจากนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม ได้มีนโยบายสั่งการให้ ปช.ปส. สนธิกำลังกับ ป.ป.ท. และ ป.ป.ส.เข้าตรวจค้นสถานบันเทิงหลายแห่งในกทม.เนื่องจากมีประชาชนร้องเรียน เข้ามาจำนวนมากถึงพฤติกรรมไม่เหมาะสมว่ามีกลุ่มเยาวชนอายุไม่ถึง 20 ปี เข้าไปมั่วสุมภายในสถานบันเทิง จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบที่ร้านโมทาวร์ บางกอก พบว่ามีเยาวชนอายุ 14-16 ปี มามั่วสุมจำนมาก

พล.ต.ต.แสงสูรย์ กล่าวว่า ขณะเดียวกันตรวจสอบพบว่าร้านไม่มีใบอนุญาตให้เปิดเป็นสถานบริการ และไม่มีใบอนุญาตให้ต่อเติมอาคารสถานที่ พร้อมทั้งยังปล่อยปละละเลยให้เด็กเข้าไปเที่ยวจำนวนมาก ซึ่งตรวจสอบมี นายอธิช ศิรินันท์ อายุ 31 ปี รับเป็นผู้จัดการร้าน จึงควบคุมตัวไปสอบสวนและขยายผลว่าร้านดังกล่าวใครเป็นเจ้าของอาคารเพื่อ ติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้าน นายประยงค์ กล่าวว่า จากนี้ไป ป.ป.ส. จะทำงานร่วมกับ บช.ปส. และป.ป.ท.เข้าตรวจสอบสถานบันเทิงต่างๆทั่วกทม.เพื่อสนองนโยบายของนายพีระ พันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม ที่มีความห่วงใยในเรื่องเยาวชนที่ติดยาเสพติดและมั่วสุมตามสถานบันเทิงในยาม วิกาล โดยเฉพาะช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่ จะมีวัยรุ่นออกมาเที่ยวจำนวนมาก รวมถึงการป้องปรามไม่ให้เกิดเหตุร้ายเหมือนกับเหตุเพลิงไหม้ซานติก้าผับ ซึ่งขณะนี้เชื่อว่าจะมีอีกหลายที่ไม่มีใบอนุญาตต่อเติมอาคารผิดกฎหมายอาจก่อ ให้เกิดโศกนาฎกรรมขึ้นได้ จากนี้ไปตำรวจในท้องที่รับผิดชอบต้องเข้มงวดตรวจตราสถานบันเทิงในท้องที่ให้ มากขึ้นอย่าปล่อยปละละเลยแบบนี้อีก

ขณะที่ พ.ต.ท.วันนพ กล่าวว่า การสนธิกำลังกันของ3หน่วยงานนี้เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถบังคับใช้ กฎหมาย อันพึงมีที่จะใช้บังคับสถานบันเทิงต่างๆได้เต็มที่ ซึ่งการตรวจสอบครั้งนี้สถานบันเทิงไม่มีใบอนุญาต และยังให้เยาวชนเข้าไปเที่ยวจำนวนมาก ซึ่งจะเก็บรวบรวมข้อมูลหลักฐานเพื่อตรวจสอบดูว่าตำรวจท้องที่มีการปล่อยปละ ละเลย ไม่ตรวจสอบกวดขันสถานบันเทิงท้องที่ตัวเองหรือไม่อย่างไรหากพบว่าปล่อยปละละ เลยทางป.ป.ท.จะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบฐานปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และละเว้นปฎิบัติหน้าที่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ 3 หน่วยงานเข้าตรวจค้นสถานบันเทิงดังกล่าว ได้มีตำรวจท้องที่สน.ห้วยขวาง นำกำลังเข้ามาขออนุญาตเป็นหนึ่งในชุดปฏิบัติการด้วย แต่ถูกตำรวจบช.ปส. ปฏิเสธการร่วมตรวจจับกุมทำให้ตำรวจสน.ห้วยขวาง คอยดูสถานการณ์อยู่นอกร้านเท่านั้นไม่สามารถเข้าไปดำนินการร่วมจับกุมกับ 3หน่วยงานดังกล่าว

เตรียมฟันสน.ห้วยขวางเด็กต่ำกว่า18ปีเที่ยวผับ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันเดียวกัน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. เปิดเผยว่า เบื้องต้นตนได้รับรายงานแล้ว กรณีที่มีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เข้าไปใช้บริการกว่า 200 คน และมีการพบสารเสพติดนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียดว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ปล่อยปะละเลยได้อย่างไร ซึ่งในเรื่องนี้มีกฎหมายกำหนดเอาไว้อยู่แล้ว หากพบว่าตำรวจท้องที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ก็จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน แต่ตอนนี้ยังไม่มีการดำเนินการอะไร ต้องรอตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน