แฉพิรุธ รพ. สลายนิ่วผิดปกติ
ระบุแทนที่จะใช้วิธีผ่าตัดนิ่วเม็ดใหญ่ออก กลับใช้วิธียิงสลาย แบบเดียวกับนิ่วเม็ดเล็ก
วันนี้(29 พ.ย.) นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ กรณีที่รพ.เอกชนบางแห่งใน กทม.เบิกค่าใช้จ่ายเกินจริงกรณีให้การรักษาดวงตาว่า ยังไม่ได้รับรายงานข้อเท็จจริงจาก นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการ สปสช. อย่างไรก็ตามเมื่อเร็วๆ นี้ตนได้รับการร้องเรียนว่า มี รพ.บางแห่งให้บริการสลายนิ่วแก่ผู้ป่วยมากผิดปกติ คือ ถ้าเป็นนิ่วเม็ดใหญ่การรักษามักจะใช้วิธีผ่าออก แต่ถ้านิ่วเม็ดเล็กอาจจะใช้วิธีการยิงสลายนิ่วผู้ป่วย แต่ รพ.บางแห่งกลับให้บริการผู้ป่วยคนเดียวหลายๆ ครั้งแล้วก็มาเบิกค่ารักษาครั้งละหลายบาท
นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า เรื่องที่ รพ.ให้การสลายนิ่วผิดปกติตนยังไม่ทราบรายละเอียด และไม่ได้รับรายงานว่า เป็น รพ.ใดบ้าง
ด้าน นพ.ธวัชชัย วานิชกร ผอ.รพ.เกษมราษฎร์ ประชาชื่น ตอบข้อซักถามกรณีที่ เลขาธิการ สปสช.ระบุว่า จะทำหนังสือ รพ.เกษมราษฎร์ ตั้งแต่สัปดาห์ก่อนว่า มีอำนาจในการเรียกเงินคืนค่าโครงลวดค้ำยันหลอดเลือดหัวใจตีบ หรือ สเต็นท์เคลือบยาว่า จนถึงขณะนี้ รพ.ก็ยังไม่ได้รับหนังสือแต่อย่างใด ก็ยังรอคำตอบจาก สปสช.อยู่ว่าจะตอบมาอย่างไร ซึ่งหากเป็นการเรียกย้อนหลังก็คงรับไม่ได้ ทั้งนี้ยืนยันว่า รพ.ได้ปฏิบัติตามคู่มือ สปสช.มาโดยตลอดตั้งแต่ปี 2548 ล่าสุด ทาง สปสช.ก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบเรื่องสเต็นท์ และได้สรุปออกมาแล้ว โดยพบว่าส่วนใหญ่ 94 % เบิกถูกต้องทั้งหมด โดยมีข้อผิดพลาดเพียง 6 % เท่านั้น โดย 2.8 % เบิกต่ำไปหรือขาดไป ในขณะที่ 3.2 % อาจจะเกินไปบ้าง เนื่องจากการให้บริการผู้ป่วยจำนวนมาก และการคีย์ข้อมูลอะไรต่าง ๆ อาจเกิดข้อผิดพลาดได้
นพ.ธวัชชัย กล่าวต่อว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้หารือกับ นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ รองเลขาธิการ สปสช. โดยทาง รพ.ยืนยันว่า คลินิกในเครือ 7 แห่ง และ หน่วยปฐมภูมิของ รพ. เอง ซึ่งดูแลผู้ป่วยประมาณ 1.2 แสนคนใน กทม. จะไม่เป็นหน่วยบริการปฐมภูมิให้บริการผู้ป่วย โดยเริ่มตั้งแต่เดือน เม.ย. 2553 เป็นต้นไป