ปลัด สธ. ประกาศยกระดับเตือนภัยโควิด จากระดับ 3 เป็น 4 จ่อปิดสถานที่เสี่ยง
ปลัดกระทรวงสาธารณสุขประกาศยกระดับแจ้งเตือนการแพร่ระบาดโควิด จากระดับ 3 เป็นระดับ 4 ขอประชาชน WFH งดเดินทางข้ามจังหวัด จำกัดการรวมกลุ่ม จ่อปิดสถานที่เสี่ยงแพร่เชื้อ
วันนี้ (6 ม.ค.) นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เดินทางตรวจเยี่ยมบุคลากรทางการแพทย์ และติดตามสถานการณ์การติดเชื้อโควิด 19 ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต พร้อมแถลงข่าวจากโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ว่า กระทรวงสาธารณสุขรายงานสถานการณ์สำคัญโรคติดเชื้อโควิด 19 โดยขณะนี้ประชาชนฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 ฉีดไปแล้ว 71% เข็มที่ 2 ฉีดไปแล้ว 64% และเข็มที่ 3 ฉีดไปแล้ว 9.8% กระทรวงสาธารณสุขอยากให้ประชาชนฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะเข็มที่ 3 เพื่อให้เกิดภูมิต้านทานในการติดเชื้อที่จะเกิดขึ้นในระยะถัดไป
ขณะที่วันนี้ประเทศไทยพบการการติดเชื้อรายใหม่ 5,575 ราย เสียชีวิต 11 ราย ซึ่ง จ.ชลบุรี พบมากที่สุด 769 คน สมุทรปราการ 494 คน กรุงเทพมหานคร 454 คน โดยอันดับ 4 และ 5 ที่พบผู้ป่วยรายใหม่สูงสุดอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ และอุบลราชธานี ตามลำดับ
โดยมีจำนวนผู้ป่วยหนักใส่ท่อช่วยหายใจลดลง ซึ่งจากตัวเลขการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น จะเห็นว่ากำลังมีการระบาดเพิ่มขึ้นเข้าสู่อีกระลอกหนึ่ง จะทำให้มีการระบาด และมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในระยะนี้สายพันธุ์โอมิครอนที่เข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม และเกิดการระบาดโดยสายพันธุ์นี้ส่วนใหญ่จะไม่รุนแรง เมื่อติดเชื้อมีภูมิสำหรับป้องกันเดลตาได้ แต่ก็อยากให้เฝ้าระวังป้องกันให้มาก ไม่อยากให้มีการติดเชื้อ
สำหรับการระบาดในครั้งนี้ เป็นไปตามที่กระทรวงสาธารณสุขมีการคาดการณ์เอาไว้ ที่จะมีการระบาดในระดับค่อนข้างรุนแรง จำเป็นต้องมีการควบคุมให้ได้โดยเร็ว เป็นสัญญานให้ประชาชนต้องมีความตื่นตัว ว่าขณะนี้เริ่มมีการระบาดอย่างรวดเร็วขึ้น
"สถานการณ์โควิด 19 ในประเทศในขณะนี้ มีการระบาดอย่างรวดเร็วจากปัจจัยการเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดจากการใช้บริการเวลานานในสถานที่ระบบปิด เช่น ร้านอาหารกึ่งผับ งานเลี้ยง งานบุญ พิธีกรรมทางศาสนา รวมถึงการเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงปีใหม่ และเริ่มพบสัญญาณการเพิ่มขึ้นจากการสัมผัสใกล้ชิดคนในครอบครัว อยากให้ประชาชนมีความตื่นตัว แม้อัตราการเสียชีวิตจะลดลงก็ตาม" นพ.เกียรติภูมิ ระบุ
ทั้งนี้ นพ.เกียรติภูมิ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงสาธารณสุขยกระดับการเตือนประชาชน จากเดิมระดับที่ 3 เป็นระดับที่ 4 โดยจะมีข้อเสนอแนะเพิ่มขึ้น และมาตรการต่างๆ ก็จะตามมาต่อไป เช่น ปิดสถานที่เสี่ยง ชะลอการเดินทางไปทำงาน อยากให้ทำงานที่บ้าน Work from Home หรือชะลอการเดินทางข้ามจังหวัด จำกัดจำนวนคนในการร่วมกิจกรรม รวมถึงขอความร่วมมือประชาชน ดังต่อไปนี้
1. อยากให้ฉีดวัคซีน
2. ใช้การป้องกันตัวขั้นสูงสุด
3. Covid Free Setting ให้ผู้ประกอบการทำให้เป็นมาตรฐาน
4. ตรวจ ATK ขอย้ำว่าเมื่อติดเชื้อไม่มีอาการจะเน้นการรักษาที่บ้าน หากมีอาการก็สามารถเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลได้