ตร.พบปมยิงไฮโซ สุนัทที ขัดแย้งธุรกิจที่ดิน-หมู่บ้านจัดสรร!

ประชุมด่วนชุดคลี่คลายคดี ชี้เหตุอุกอาจ และเป็นบุคคลมีชื่อเสียง คาดปม "ธุรกิจ-ส่วนตัว" ตร.ตรวจสอบเอกสารหลักฐานซื้อ-ขายในรถคันเกิดเหตุ

ความคืบหน้าในการสอบสวนคดีคนร้ายดักยิง นางสุนัทที เนื่องจำนงค์ ประธานกรรมการ และกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ กลุ่มบริษัท ไพร์ม เนเจอร์ กรุ๊ป จำกัด ภรรยาของ พล.ต.ต.ปิยะชาติ เนื่องจำนงค์ อดีต รอง ผบก.น.4
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 19.50 น. วันที่ 29 พ.ย. พ.ต.อ.อาณัติ เกล็ดมณี รอง ผบก.น.4 และ พ.ต.อ.สรรค์หกิจ บำรุงสุขสวัสติ ผกก.สน.อุดมสุข ได้เข้ารายงานคดีดังกล่าวให้กับ พล.ต.ต.สมวุฒิ วรรณพิรุณ ผบก.น.4 ให้ทราบ โดย พล.ต.ต.สมวุฒิ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้ตั้งประเด็นอะไรเป็นประเด็นหลักสำคัญ ถ้าสันนิษฐานก็น่าจะมีอยู่ 2 ประเด็น คือเรื่องธุรกิจ กับเรื่องส่วนตัว

ทางเจ้าหน้าที่ต้องเรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวนก่อน ซึ่งจะเรียกผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนสอบสวนทั้งหมดประชุมคลี่คลายคดี ในช่วงเช้าวันที่ 30 พ.ย.จากนั้นก็จะเรียกผู้ใกล้ชิดกับผู้ตายมาสอบปากคำเพื่อหาสาเหตุและแนวทางการสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดี

"สัณฐาน" เรียกประชุมคลีคลายคดีทันที

ต่อมาเมื่อเวลา 21.20 น. พล.ต.ท.สัณฐาน ได้เดินทางมาดูคดีคนร้ายดักยิงนางสุนัทที ที่ สน.อุดมสุข โดยได้เรียกนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องประชุมคลี่คลายคดี ประกอบด้วย พล.ต.ต.เอื้อพงษ์ โกมารกุล รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สมวุฒิ วรรณพิรุณ ผบก.น.4 พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูตร ผบก.ศสส.บช.น. พ.ต.อ.อาณัติ เกล็ดมณี รองผบก.น.4. พ.ต.อ.สรรค์หกิจ บำรุงสุขสวัสติ ผกก.สน.อุดมสุข พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บช.น. ฝ่ายสืบสวน บก.น.4 และฝ่ายสืบสวน สน.อุดมสุข

พล.ต.ต.สมวุฒิ กล่าวว่า พล.ต.ท.สัณฐาน ได้สั่งการให้แบ่งงานทีมสืบสวนแต่ละหน่วยให้รับผิดชอบดูแลการสืบสวนสอบสวน หาพยานหลักฐาน และสอบสวนครอบครัวและผู้ใกล้ชิดผู้ตายหาสาเหตุในการขัดแย้งเรื่องธุรกิจหรืออื่นๆ พร้อมได้กำชับให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หากล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุและพื้นที่ใกล้เคียงทั้งหมด เพื่อหาบุคคลต้องสงสัย โดยเฉพาะรอยเท้า ก้นบุหรี่ และขวดน้ำต่างๆ เนื่องจากเชื่อว่าคนร้ายต้องเฝ้าผู้ตายอยู่นานพอสมควร ซึ่งเรื่องนี้ต้องมีเบื้องหน้าเบื้องหลังอย่างแน่นอน เพราะคนร้ายรู้จุดความเคลื่อนไหวว่าผู้ตายไปไหนมาไหนบ้าง จึงมาเฝ้าดักรอถูกจุด ดังนั้นจึงจะให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจหาหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้งในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้(30 พ.ย.)

พล.ต.ต.สมวุฒิ กล่าวอีกว่า จากการตรวจดูรถของผู้ตาย พบว่ามีการติดฟิล์มกันแสงมืดทึบ ขนาดมองในตอนกลางวันยังมองไม่เห็นตัวคนขับรถ แต่คนร้ายรู้จุดรู้พิกัด สามารถยิงผู้ตายในระยะประชิด เข้าเป้าหมด 3 นัด อย่างไรก็ตาม คดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ และเป็นการสังหารคนที่มีชื่อเสียงในแวดวงธุรกิจอันดับต้นๆของเมืองไทย พล.ต.ท.สัณฐาน จึงกำชับให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเร่งดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อคลี่คลายคดีนี้ให้รวดเร็วที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ พล.ต.ต.ปิยะชาติ เนื่องจำนงค์ สามีผู้ตาย อดีตเคยดำรงตำแหน่ง รองผบก.น.4 และขอเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดเพื่อทำธุรกิจกับครอบครัว จึงได้ติดยศ พล.ต.ต. และตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ยังไม่มีญาติติดต่อให้ข้อมูลตำรวจ

ตรวจสอบเอกสารซื้อ-ขายที่ดินในรถ

ล่าสุดเมื่อเวลา 21.45 น. ที่ สน.อุดมสุข เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำซองเอกสารสีน้ำตาลขนาดใหญ่ จำนวน 2 ซอง เข้าตรวจสอบที่ห้องประชุมคลี่คลายคดี ซึ่งภายในซองสีน้ำตาลมีการดาษเอกสารสีขาวอยู่จำนวนมาก คาดว่าเอกสารจำนวนดังกล่าวเป็นเอกสารเกี่ยวกับการซื้อขายที่ดิน เพื่อเตรียมสำหรับทำบ้านจัดสรร ขณะเดียวกันก็ยังมีเลขาส่วนตัวของผู้ตายมาเฝ้ารถคันเกิดเหตุอยู่ที่ สน.อุดมสุข อย่างไม่คาดสายตา โดยไม่ให้ใครเข้าไปใกล้ ซึ่งอ้างว่าเกรงทรัพย์สินอันมีค่ามหาศาลจำนวนมากของผู้ตายจะสูญหาย

พบปมขัดแย้งธุรกิจที่ดิน-หมู่บ้านจัดสรร

กระทั่งในเวลา 22.00 น. พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวภายหลังการประชุมคลี่คลายคดีดังกล่าวว่า พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการ ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ทำงานร่วมกันระหว่างกองบัญชาการตำรวจนครบาลกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยมีการแบ่งงานให้แต่ละฝ่ายรับผิดชอบด้วยการลงพื้นที่หาพยานหลักฐานเพื่อหาตัวคนร้าย โดยในวันพรุ่งนี้เวลา 15.00 น.จะเรียกประชุมชุดทำงานทั้งหมดที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้หลักฐานในที่เกิดเหตุมาแล้วบางส่วน

พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ กล่าวถึงสาเหตุการสังหารว่า เบื้องต้นพบประเด็นความขัดแย้งทางธุรกิจที่ดินและหมู่บ้านจัดสรร แต่ต้องรอตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยในวันพรุ่งนี้จะเรียกสามีของผู้ตายและทนายความ รวมทั้งพยานที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำ เพื่อหาปมความขัดแย้งว่าผู้ตายขัดแย้งกับกลุ่มธุรกิจกลุ่มใดบ้าง ซึ่งคดีนี้จะทำอย่างรอบคอบเพื่อหาตัวมือปืนและคนบงการมาดำเนินคดีต่อไป