ปศุสัตว์ ยืนยันพร้อมฆ่าหมูทิ้งทันที! หากเจอฟาร์มเสี่ยงติดเชื้อโรคอหิวาต์แอฟริกา

ปศุสัตว์ ยืนยันพร้อมฆ่าหมูทิ้งทันที! หากเจอฟาร์มเสี่ยงติดเชื้อโรคอหิวาต์แอฟริกา

ปศุสัตว์ ยืนยันพร้อมฆ่าหมูทิ้งทันที! หากเจอฟาร์มเสี่ยงติดเชื้อโรคอหิวาต์แอฟริกา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กรมปศุสัตว์ ยืนยันพร้อมฆ่าทำลายหมูทิ้งทันที! หากพบว่าฟาร์มใดมีความเสี่ยงจะเกิดโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ท่ามกลางข่าวสะพัดหนักว่ามีการปิดข่าวการระบาดในไทยทั้งที่มีมากว่า 2-3 ปีแล้ว

วันนี้ (8 มกราคม) น.สพ.สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ ชี้แจงกรณีที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวว่า ขณะนี้มีการเกิดโรคระบาดในสุกรในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ส่งผลให้ราคาเนื้อสุกรปรับสูงขึ้น ซึ่งเชื่อว่าเป็นการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF)

ทั้งนี้ โรค ASF เป็นโรคไวรัสที่ติดต่อร้ายแรงในสุกรที่แพร่กระจายในภูมิภาคต่างๆ ใน 35 ประเทศทั่วโลก หากพบการระบาดของโรคในประเทศแล้วจะกำจัดโรคได้ยาก เนื่องจากยังไม่มีวัคซีนในการป้องกันและยารักษาโรค

นอกจากนี้ เชื้อไวรัสที่ก่อโรคยังมีความทนทานในผลิตภัณฑ์จากสุกรและสิ่งแวดล้อมสูง แม้โรคนี้จะไม่ติดต่อสู่คนและสัตว์อื่นแต่ก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างร้ายแรง ในปัจจุบันมีการระบาดในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ราชอาณาจักรกัมพูชา สหพันธรัฐมาเลเซีย และสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ซึ่งยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นและขยายเป็นวงกว้างอย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรของแต่ละประเทศ

ดังนั้น จากสถานการณ์การระบาดอย่างต่อเนื่องของโรค ASF ในประเทศเพื่อนบ้านและทั่วโลก กรมปศุสัตว์จึงได้มีการกำหนดมาตรการการเฝ้าระวัง ควบคุม และป้องกันโรค ASF อย่างเข้มงวด หากพบฟาร์มสุกรมีความเสี่ยงในระดับสูงถึงสูงมากต่อโรค ASF กรมปศุสัตว์จะดำเนินการลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคในทันที โดยการทำลายสุกรซึ่งอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 พร้อมชดใช้ราคาสุกรที่ถูกทำลาย

รวมทั้งดำเนินการเฝ้าระวังโรคทั้งในเชิงรุกและเชิงรับในทุกพื้นที่ของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นในฟาร์มสุกร โรงฆ่าสุกร สถานที่จำหน่ายเนื้อสุกร และสถานที่จำหน่ายอาหารสัตว์ รวมไปถึงเฝ้าระวังการเคลื่อนย้ายสุกร/หมูป่าที่มีชีวิตและซาก ทั้งการเคลื่อนย้ายสุกรภายในประเทศและการเคลื่อนย้ายสุกรระหว่างประเทศ และเฝ้าระวังการลักลอบเคลื่อนย้ายทุกกรณีอย่างเข้มงวด

น.สพ.สรวิศ กล่าวด้วยว่า มีความห่วงใยเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรทุกท่าน การลดความสูญเสียจากการระบาดของโรคในระยะยาวมีความจำเป็นต้องดำเนินมาตรการควบคุมโรคอย่างเข้มข้น โดยได้สั่งการให้หน่วยเฉพาะกิจดำเนินการค้นหาและสอบสวนโรคเพื่อหาสาเหตุการระบาดของโรคสุกร และขอความร่วมมือเกษตรกรให้ความสำคัญในการดูแลสุกรของตนอย่างใกล้ชิดให้มีสุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรง และให้ความสำคัญในเรื่องระบบการป้องกันโรคภายในฟาร์ม มีคอกคัดสัตว์เพื่อขายแยกจากฟาร์มป้องกันพ่อค้าที่รับซื้อสุกรอาจนำเชื้อมาสู่ฟาร์ม

โดยเฉพาะการพ่นยาฆ่าเชื้อทุกครั้งก่อนเข้าและออกจากบริเวณฟาร์มและโรงเรือน เลือกซื้อสัตว์ที่มาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และกักสัตว์ก่อนนำเข้ารวมฝูง หมั่นสังเกตอาการสัตว์เลี้ยงของตนหรือฟาร์มใกล้เคียง หากพบเห็นสัตว์ป่วยหรือตายโดยไม่ทราบสาเหตุห้ามนำสัตว์ป่วยตายไปจำหน่าย และรีบแจ้งปศุสัตว์อำเภอ อาสาปศุสัตว์ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ในพื้นที่ทันที เพื่อให้การช่วยเหลือและตรวจสอบโดยเร็ว รวมถึงลดความเสียหายจากโรคระบาด

หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อหน่วยงานดังกล่าว หรือสอบถามข้อมูลได้ที่สำนักควบคุม ป้องกัน และบำบัดโรคสัตว์ (สคบ.) กรมปศุสัตว์ หรือ Call Center 06 3225 6888 หรือแจ้งผ่านแอปพลิเคชัน DLD 4.0 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเกิดกระแสข่าวสะพัดหนักว่าทางการไทยปิดข่าวการระบาดของโรค ASF ทั้งที่มีการระบาดในประเทศมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2-3 ปี จนเริ่มมีการออกมาเคลื่อนไหวทั้งในฝั่งฝ่ายค้านและบรรดาผู้ที่เกี่ยวข้องมากขึ้น เพื่อให้ภาครัฐดำเนินการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook