สารพัดจะหาทำ เตือนภัยโจรฉีกครึ่งแบงก์ ซื้อของหลอกเอาเงินทอน เหยื่อไม่ทันสังเกต

วันที่ 9 ม.ค.65 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยแจ้งเตือนภัยจาก น.ส.จุฑามาศ กุลวิทิต อายุ 25 ปี เจ้าของร้านขายโจ๊กแห่งหนึ่ง ในคอนโดเมืองทองธานี ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ว่าเมื่อเวลา 12.39 น. ของวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา ระหว่างที่ตนเองกับนาง จารุวรรณ เทพกอม อายุ 50 ปี ผู้เป็นแม่ เปิดร้านขายโจ๊กตามปกติ โดยหน้าร้านมีขนมปังปิ้งขายรวมอยู่ด้วย ระหว่างนั้นได้มีชายวัยกลางคนอายุประมาณ 40 กว่าปี สวมแมสก์สีดำ เสื้อเชิ้ตสีขาว นุ่งกางเกงขาสั้นสีแดง เดินเข้ามาที่หน้าร้านพร้อมกับสั่งขนมปังปิ้งจำนวน 2 แผ่น ในราคาแผ่นละ 10 บาท

จากนั้นชายคนดังกล่าวได้ควักธนบัตรใบละร้อยออกมาจ่ายค่าขนมปังปิ้งให้กับแม่ของตน พร้อมกับบอกว่า ขอจ่ายเงินไว้ก่อนเดี๋ยวจะกลับมารับขนมปังที่สั่งไว้ แม่ของตนจึงหยิบเงินทอนให้ชายคนดังกล่าวไปจำนวน 80 บาท จากนั้นชายคนดังกล่าวก็รับเงินทอนและเดินหายไปอย่างรวดเร็ว โดยแม่ของตนได้นำธนบัตรใบละ 100 บาทจากชายคนดังกล่าววางใส่ไว้ในกล่องใส่เงิน ซึ่งต่อมาตนได้มาหยิบธนบัตรดูก็พบว่าธนบัตรที่ผู้ชายคนนี้จ่ายมาเป็นธนบัตรแบงก์ 100 บาทเพียงครึ่งใบเท่านั้น จึงได้รีบวิ่งตามออกไปหาชายคนดังกล่าวแต่ก็ไม่พบตัวแล้ว 

น.ส.จุฑามาศ กล่าวอีกว่า เมื่อตนนำธนบัตรมาตรวจสอบดูก็พบว่าธนบัตรมีรอยฉีดขาดตามแนวพับ เป็นธนบัตรหมายเลข 3 H 9976288 ในตอนแรกตนเองก็ยังไม่มั่นใจว่าชายคนดังกล่าวมีเจตนาหรือไม่เจตนากันแน่ที่ใช้ธนบัตรเพียงครึ่งใบมาจ่ายเงินค่าสินค้า แล้วเอาเงินทอนส่วนต่างไป

แต่ต่อมาเมื่อตนได้โพสต์เฟซบุ๊กแจ้งเตือนภัยไปในกลุ่มผู้พักอาศัย ก็ได้รับแจ้งกลับมาจากร้านค้าอีก 3 ร้าน คือร้านค้าในคอสโม ร้านขายพวงมาลัย และร้านขายผลไม้ว่า ถูกชายลักษณะเดียวกันนี้นำธนบัตรใบละ 100 บาทครึ่งใบ มาใช้ซื้อของด้วยเช่นกัน จึงทำให้ตนรู้ในทันทีว่าชายคนดังกล่าวนี้มีพฤติกรรมใช้ธนบัตรใบละ 100 บาท ตระเวนซื้อของเพื่อเอาสินค้าหรือเงินทอนจากร้านค้าไปทั่วเมืองทองธานี

แม้ว่าตนจะไม่ได้เข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ก็อยากจะฝากเตือนร้านค้าในย่านเมืองทองธานีว่า ให้ระมัดระวังและมีความรอบคอบในการรับเงินจากลูกค้าให้มากกว่านี้ เมื่อรับเงินมาควรคลี่แบงก์ดูในทันทีเพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของคนที่หากินด้วยวิธีการเช่นนี้ ถึงแม้จะเป็นเงินจำนวนไม่มากแต่ทุกวันนี้เงินทองมันหายาก กว่าจะขายของได้เงินได้กำไรมาแต่ละบาทก็น้อยนิดอยู่แล้ว มาเจอคนหากินบนความลำบากของคนอื่นมันก็ไม่ถูกต้อง ไม่ควรทำ ตนอยากจะฝากเตือนบอกชายคนดังกล่าวไปด้วยว่า "อย่าไปใช้คนละครึ่งผิดประเภทแบบนี้กับพ่อค้าแม่ค้าร้านไหนอีก"