เผาแล้ว คนไข้สาวกระโดดตึก รพ. แม่เผยป่วยซึมเศร้ารุนแรง โลกส่วนตัวสูง อีกมุมร่าเริงปกติ

เผาแล้ว คนไข้สาวกระโดดตึก รพ. แม่เผยป่วยซึมเศร้ารุนแรง โลกส่วนตัวสูง อีกมุมร่าเริงปกติ

เผาแล้ว คนไข้สาวกระโดดตึก รพ. แม่เผยป่วยซึมเศร้ารุนแรง โลกส่วนตัวสูง อีกมุมร่าเริงปกติ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เผาแล้ว คนไข้สาวกระโดดตึก รพ. แม่เผยป่วยซึมเศร้าขั้นรุนแรง ไม่ได้ทะเลาะกับแฟนตามข่าว วันเกิดเหตุญาติไม่ได้เฝ้าไข้เพราะมาตรการช่วงโควิด

จากกรณีที่ สาวอายุ 20 ปี กระโดดตึก 10 ชั้น ที่อาคารผู้ป่วยของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ใน จ.นครราชสีมา สภาพสวมชุดผู้ป่วย ร่างตกกระแทกพื้น ศีรษะแตก กระดูกหักหลายแห่งจนเสียชีวิต ซึ่งพึ่งเดินทางมารักษาอาการเครียด ที่หอผู้ป่วยหญิง ชั้น 4 ตั้งแต่ช่วงเวลา 3 ทุ่มคืนวันที่ 5 ธันวาคม 2565 และช่วงสาย ผู้เสียชีวิตได้เดินขึ้นไปบนชั้นดาดฟ้าของอาคาร โดยไม่มีผู้ใดพบเห็น ได้กระโดดลงมาจากอาคารผู้ป่วย ชั้น 10 เพื่อปลิดชีพตัวเองดังกล่าว ทราบชื่อ น.ส.ทิพธัญญา (สงวนนามสกุล) พักอาศัยอยู่ ต.สุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา

ต่อมาวันที่ 7 ม.ค.65 ญาติได้ติดต่อขอรับศพ น้องบอลลูน หรือ น.ส.ทิพธัญญา เพื่อนำมาบำเพ็ญกุศลตามศาสนา ที่ ต.ท่าตูม อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ โดยในช่วงบ่ายวานนี้ 9 ม.ค.65 ได้เคลื่อนย้ายศพผู้เสียชีวิตไปทำการฌาปนกิจที่เมรุวัดปทุมทองบ้านตูม ต.ท่าตูม อ.ท่าตูม โดยมี นาง ชนมณี จารุธนิตกุล นายกเทศมนตรีเทศบาลท่าตูม เป็นประธานฝ่ายฆราวาส บรรยากาศมีญาติพี่น้อง ผองเพื่อน ร่วมไว้อาลัยต่อการจากไปของผู้เสียชีวิตกันอย่างโศกเศร้าเสียใจ โดยหนึ่งในกลุ่มเพื่อนได้เล่นดนตรีโฟล์ค ซอง ไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย ทำให้แขกที่มาร่วมงานต่างซึ้งใจในความรักที่เพื่อนๆมีให้

ทางด้าน นางสิริกร แม่ผู้เสียชีวิต ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ลูกสาวตนเองเป็นโรคซึมเศร้าขั้นรุนแรงมานานแล้ว โดยทางครอบครัวก็เพิ่งทราบและนำตัวไปรักษาแล้ว โดยข่าวที่ออกไปว่าทะเลาะกับแฟนแล้วกระโดดตึกตายนั้นไม่เป็นความจริง ซึ่งผู้เสียชีวิตจะเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูง ชอบอยู่เงียบๆ วาดรูป ไม่วุ่นวายกับใคร แต่ตนเองก็ไม่ทราบว่าในใจลึกๆ ผู้เสียชีวิตคิดอะไรอยู่ แต่อีกมุมหนึ่ง ผู้เสียชีวิตก็ร่าเริงเหมือนคนปกติ ชอบเต้น ชอบร้องเพลง ชอบดีดกีตาร์

สำหรับตนเองนั้นมีอาชีพค้าขายในตลาดแห่งหนึ่งที่ จ.นครราชสีมา พักที่หอพักใน ต.สุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา กับลูกสาว โดยผู้เสียชีวิตเองมีอาชีพเป็นธุรการ ทำงานแบบออนไลน์ ในโรงเรียนกวดวิชาแห่งหนึ่งที่ จ.นครราชสีมา ในวันที่เกิดเหตุ (5 ธ.ค.65) ตนเองได้พาผู้เสียชีวิตไปรับยาประจำตัวป่วยซึมเศร้า ที่โรงพยาบาลแล้วกลับเข้าที่พัก โดยปกติแล้ว ตนจะเป็นคนจัดสรรยาให้ผู้เสียชีวิตกิน แต่ในวันที่เกิดเหตุ ผู้เสียชีวิตได้แอบหยิบยาประจำตัว ออกจากกระเป๋าตนโดยที่ตนไม่ทราบ และตนได้เดินทางไปขายของในตลาดตามปกติ ตนเอะใจจึงเปิดกระเป๋าดูยาของผู้เสียชีวิต ปรากฏว่า ยาได้หายไปกว่า 30 เม็ด ตนจึงได้โทรศัพท์ไปหาเพื่อนของผู้เสียชีวิตและญาติที่อยู่ใกล้ เพื่อวอนให้เข้าไปดูผู้เสียชีวิตที่ห้องพัก

ซึ่งช่วงนั้นเวลาราว 21.00 น. ปรากฏว่า ผู้เสียชีวิตมีอาการง่วงซึม ญาติและเพื่อนจึงได้นำตัวผู้เสียชีวิตไปส่งที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในโคราช เพื่อล้างท้องเอายาออก แต่ไม่ทันการหมอจึงให้นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลดังกล่าวโดยไม่ให้ญาติเฝ้า เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ต่อมาช่วงสายของวันที่ 6 ม.ค.65 เวลาราว 10.00 น. พยาบาลได้โทรศัพท์หาญาติผู้เสียชีวิตโดยแจ้งว่า คนไข้ได้ลุกหายไปจากเตียงนอน ไม่นานจึงทราบข่าวว่ามีคนกระโดดตึกจากชั้น 10 เสียชีวิต จึงรีบไปดู พบว่าเป็นผู้เสียชีวิตที่หายออกจากเตียง เพื่อนและญาติจึงได้โทรศัพท์มาบอกข่าวเศร้ากับตน ว่าลูกสาวกระโดดตึกเสียชีวิตแล้ว 

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook