พบวัยรุ่นหญิงติดเอดส์มากกว่าชายเท่าตัว

พบวัยรุ่นหญิงติดเอดส์มากกว่าชายเท่าตัว

พบวัยรุ่นหญิงติดเอดส์มากกว่าชายเท่าตัว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สธ.พบร้อยละ 84 ไม่ใช้ถุงยาง ระบุวัยรุ่นหญิงป่วยเอดส์มากกว่าชาย 1 เท่าตัว เหตุเพราะใช้ถุงยางน้อย

วันนี้(30 พ.ย.) นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแอริค จอห์น เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย นายแพทย์ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ดร.ไมเคิล ฮาห์น ผู้ประสานงานโครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย ร่วมเปิดงานรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เนื่องในวันเอดส์โลกซึ่งตรงกับ 1 ธันวาคม 2552 ภายใต้คำขวัญ "ทั่วถึง เท่าเทียม คือสิทธิมนุษยชน" (Universal Access and Human Right) เพื่อกระตุ้นเตือนสังคมให้ตระหนักถึงภัยคุกคามโรคเอดส์ ส่งเสริมความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคเอดส์

นายมานิต กล่าวว่า ขณะนี้ปัญหาหลักที่ทำให้คนไทยติดเชื้อเอชไอวี มาจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย ไม่ใช้ถุงยางอนามัยพบมากถึงร้อยละ 84 ข้อมูลของสำนักระบาดวิทยา ล่าสุดในเดือนตุลาคม 2552 ไทยมีผู้ป่วยเอดส์จำนวน 358,260 ราย เสียชีวิตแล้ว 95,983 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่ร้อยละ 92 อยู่ในวัยเจริญพันธุ์และวัยแรงงาน อายุระหว่าง 15-59 ปี กลุ่มอายุ 25-29 ปีพบร้อยละ 24 เฉพาะในกลุ่มวันรุ่นอายุ 15-19 ปี พบเพศหญิงป่วยเป็นเอดส์สูงกว่าเพศชาย 1 เท่าตัว อัตราป่วยโรคเอดส์เมื่อเทียบต่อประชากรทุกแสนคนในปี 2552 ภาคกลางพบมากที่สุดที่จันทบุรี ประมาณ 31 คน ภาคเหนือพบสูงสุดที่พะเยา ประมาณ 29 คน ภาคใต้พบมากสุดที่ระนอง ประมาณ 30 คน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมากที่สุดที่เลย ประมาณ 21 คน

ในปี 2553 กระทรวงสาธารณสุข เร่งประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมการใช้ถุงยางอนามัย 100 เปอร์เซ็นต์ มีเป้าหมายแจกถุงยางอนามัยจำนวน 30 ล้านชิ้น เพื่อสนับสนุนให้สำนักงานสาธารณสุขทั่วประเทศเป็นผู้แจกจ่าย ป้องกันการติดเชื้อในกลุ่มหญิงบริการ ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย แม่บ้าน วัยรุ่น ผู้ใช้แรงงานและพนักงานบริการ โดยตั้งเป้าลดการติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ให้ไม่เกินปีละ 5,876 รายภายในปี 2554

ด้านนายแพทย์ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ผลการเฝ้าระวังพฤติกรรมที่สัมพันธ์กับการติดเชื้อเอชไอวี ของประชาชน โดยสำนักระบาดวิทยา ล่าสุดในปี 2551 พบว่าน่าห่วงโดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น เยาวชนอายุ 14-18 ปี ผลการเฝ้าระวังพบเด็กนักเรียนชั้น ม.2 ทั้งชายและหญิง มีแนวโน้มเคยมีเพศสัมพันธ์เพิ่มขึ้น ในชายเพิ่มจากร้อยละ 3.2 ในปี 2550 เป็นร้อยละ 3.7 ในปี 2551 ส่วนหญิงเพิ่มจากร้อยละ 1.9 เป็นร้อยละ 2.3 การใช้ถุงยางอนามัยครั้งแรกของนักเรียนชายเพิ่มจากร้อยละ 50 เป็นร้อยละ 52 ส่วนนักเรียนหญิงแนวโน้มใช้ลดลงจากร้อยละ 50 เหลือร้อยละ 48 ในเด็กม.5 แน้วโน้มการเคยมีเพศสัมพันธ์เพิ่มขึ้นทั้งชายและหญิง ชายเพิ่มจากร้อยละ 21 ในปี 2550 เป็นร้อยละ 24 ส่วนผู้หญิงเพิ่มจากร้อยละ 13 เป็นร้อยละ 15

ในระดับอาชีวะศึกษาปีที่ 2 พบการใช้ถุงยางอนามัยกับคู่นอนที่รู้จักผิวเผินและใช้กับหญิงบริการทางเพศ ร้อยละ 57 ใช้กับชายด้วยกันร้อยละ 52 จึงมีโอกาสติดเชื้อเอชไอวีได้สูงและหากติดเชื้อตั้งแต่วัยเยาวชน จะทำให้ประเทศไทยสูญเสียแรงงานที่มีคุณภาพ และครอบครัวต้องเสียโอกาสในการทำงานหารายได้ให้ครอบครัวเนื่องจากต้องเสีย เวลาดูแลผู้ป่วย

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook