ในหลวงพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ สุนัทที
ตร.ออกภาพสเก็ตช์ 2 มือปืนฆ่าไฮโซตระกูล เนื่องจำนงค์ ฟันธงมืออาชีพ สะกดรอยเหยื่อกว่าสัปดาห์ ลั่นไกไม่พลาดเป้า มุ่งปมขัดแย้งธุรกิจ สืบลึกหักบริหารตลาดที่บ้านบึง จ.ชลบุรี ด้านทนายผู้ตายเผยเจอฟ้องร้องหลายคดี พงศพัศ ไม่ทิ้งประเด็นหวังฆ่าผัว-เมียรับเคราะห์แทน
ความคืบหน้าคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนางสุนัทที เนื่องจำนงค์ อายุ 45 ปี ประธานกรรมการ และกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ กลุ่มบริษัท ไพร์ม เนเจอร์ กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นภรรยาของ พล.ต.ต.ปิยะชาติ เนื่องจำนงค์ อดีตรอง ผบก.น.4 เสียชีวิตขณะขับรถเก๋งยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฌต 356 กรุงเทพมหานคร ออกจากหมู่บ้านไพร์ม เนเจอร์ วิลล่า ถนนสุขาภิบาล 2 ซอย 11 แขวงและเขตประเวศ กรุงเทพฯ นั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 30 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรดาญาติของนางสุนัทที เดินทางมายังจุดที่คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนางสุนัททีเสียชีวิตบริเวณหน้าร้าน อาหาร "ครัวสามครก" ถนนสุขาภิบาล 2 ซอย 11 และร่วมกันจุดธูปเพื่อเชิญดวงวิญญาณของนางสุนัททีกลับบ้าน โดยใช้เวลากว่า 20 นาที จึงขึ้นรถเดินทางกลับ โดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด
ต่อมาเวลาเมื่อ 11.00 น. พ.ต.อ.อาณัติ เกล็ดมณี รอง ผบก.น.4 เดินทางมายัง สน.อุดมสุข เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี จากนั้นให้สัมภาษณ์ว่า ตอนนี้พนักงานสอบสวนได้สอบถามข้อมูลจาก พล.ต.ต.ปิยะชาติและลูกๆ ของผู้ตาย ยังไม่ได้ข้อมูลอะไรมากนัก โดยบอกเพียงว่าผู้ตายไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งกับผู้ใด ขณะเดียวกันทนายความส่วนตัวของผู้ตายเดินทางเข้าให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ ตำรวจ สน.อุดมสุขแล้ว โดยให้ข้อมูลว่าผู้ตายเคยมีเรื่องถูกฟ้องร้องอยู่ในชั้นศาล รวม 23 คดี และผู้ตายยังเป็นโจทก์ฟ้องอีก 2-3 คดี ส่วนการสืบสวนคลี่คลายคดีนั้นขณะนี้ชุดสืบสวนระดมกำลังลงพื้นที่หาข่าวล่า ตัวคนร้าย โดยยังให้น้ำหนักปมสังหารมาจากเรื่องขัดแย้งธุรกิจมากกว่าเรื่องส่วนตัว
"มือปืนที่ก่อเหตุครั้งนี้น่าเป็นมืออาชีพ เพราะการใช้อาวุธปืนมีความชำนาญกระสุนทั้ง 3 นัดเข้าเป้าทุกนัด ขณะนี้ได้กระจายกำลังสืบสวนตามแหล่งมือปืนต่างๆ ซึ่งอาจจะทราบเบาะแสบ้าง" พ.ต.อ.อาณัติ กล่าว
พ.ต.อ.สรรค์หกิจ บำรุงสุขสวัสดิ์ ผกก.อุดมสุข กล่าวว่า เรื่องที่ว่าผู้ตายเคยเข้าแจ้งความว่าถูกขู่ฆ่าในท้องที่ สน.อุดมสุข นั้น ความจริงแล้วเป็นท้องที่ของ สภ.ราชาเทวะ จ.สมุทรปราการ เนื่องจากบ้านผู้ตายอยู่ในละแวกดังกล่าว
ส่วนที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ พล.ต.ต.ปิยะชาติ พร้อมลูกสาว ลูกชาย และญาติ เดินทางมารับศพนางสุนัทที บรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจ พล.ต.ต.ปิยะชาติปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์หรือให้ข้อมูลใดๆ และญาติจะนำศพนางสุนัททีไปบำเพ็ญกุศลที่ศาลา 4 วัดเทพศิรินทร์
เมื่อเวลา 17.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ท่านผู้หญิงอรนุช อิศรางกูร ณ อยุธยา เชิญน้ำหลวงอาบศพมาพระราชทานศพนางสุนัทที สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ พระราชทานพวงหรีดแก่นางสุนัทที สร้างความปลื้มปีติแก่ครอบครัวเนื่องจำนงค์ ส่วนแขกผู้ใหญ่เดินทางมาร่วมงาน เช่น ดร.จิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์และเลขาธิการสำนักพระราชวัง และ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นญาติกับนางสุนัทที
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า พยายามสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ครอบครัวของนางสุนัททีปฏิเสธให้สัมภาษณ์ โดยบอกว่าจะมีการแถลงข่าวในอีก 1-2 วัน
จากนั้นเวลา 12.30 น. พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผช.ผบ.ตร.เดินทางมาอำนวยการในการรับศพครั้งนี้ พร้อมเปิดเผยว่า ศพของนางสุนัทที แพทย์พิสูจน์ศพพบหัวกระสุน 2 หัว ฝังในบริเวณไหปลาร้าและหน้าอก ส่วนอีกหนึ่งหัวผ่านเข้าทางด้านขวาทะลุขั้วหัวใจ สันนิษฐานว่าอาจจะเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวอีกว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้กองบังคับการปราบปรามเข้าไปร่วมคลี่คลาย คดีนี้ด้วย ซึ่งคดีนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กำชับให้ดูแลอย่างรัดกุม และจับตัวคนร้ายให้เร็วที่สุด เบื้องต้นสันนิษฐานว่าคนร้ายมีพฤติกรรมเป็นมือปืนรับจ้างซึ่งได้ก่อเหตุ อย่างอุกอาจ โดยคนร้ายลงมืออย่างใจเย็นกระชั้นชิดตัวผู้ตาย อีกทั้งผู้ตายก็ยังเป็นผู้หญิง
"จากการพูดคุยกับ พล.ต.ต.ปิยะชาติ ยังยืนยันถึงสาเหตุเดิม คือเรื่องธุรกิจ ส่วน พล.ต.ต.ปิยะชาติ สามารถร้องขอต่อพนักงานสอบสวนให้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปรักษาความปลอดภัยได้ เนื่องจากมีข่าวว่าคนร้ายอาจจะมีเป้าหมายที่ พล.ต.ต.ปิยะชาติ แต่ภรรยารับเคราะห์แทน ประเด็นนี้ก็อาจเป็นไปได้ ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับแนวทางการสืบสวน" พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าว
ส่วน พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. มอบหมายให้ พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รรท.ที่ปรึกษา (สบ 10) เร่งรัดดูแลคดีดังกล่าว สำหรับข้อมูลทางคดีทราบว่าสามีผู้ตายให้ข้อมูลต่อพนักงานสอบสวนไว้เรียบร้อย แล้ว ส่วนจะเป็นปมขัดแย้งทางด้านใดนั้นต้องสอบสวนต่อไป สำหรับคนร้ายรายนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งสืบหาให้เร็วที่สุด เนื่องจากเป็นคดีอุกอาจและสะเทือนขวัญ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ปกรณ์ กิตติวัฒน์ ผกก.สส.บก.น.4 นำกำลังเจ้าหน้าที่สายสืบ บก.น.4 ลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อแกะรอยคนร้ายที่ก่อเหตุยิงนางสุนัทที บริเวณปากซอยสุขาภิบาล 2 ซอย 11 และได้สอบถามพยานแวดล้อมที่อยู่ในจุดเกิดเหตุและใกล้เคียง พบว่าคนร้ายมาเฝ้ารอผู้ตายนานเป็นสัปดาห์ โดยมาผูกเปลญวนนอนอยู่ใต้ต้นไม้ใกล้จุดเกิดเหตุ และในวันเกิดเหตุมีคนชี้เป้าซุ่มอยู่ใต้ต้นไม้ห่างจากจุดยิงลึกเข้าไปในซอย ประมาณ 300 เมตร
ส่วนมือปืนดักรออยู่บริเวณปากซอย ซึ่งจะมีท่อประปาหัวแดง เมื่อได้รับสัญญาณจากคนชี้เป้าก็เดินอ้อมเสาไฟมาดักรอรถผู้ตาย โดยเดินออกมาจากจุดซุ่มตัวประมาณ 20 เมตร ตรงกับศาลพระพรหม หลังจากยิงใส่ผู้ตาย 3 นัด มือปืนยังพยายามจะตามไปยิงพยานอีก 2 คน ที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ ซึ่งพยานดังกล่าวเป็นคนงานในโครงการบ้านจัดสรรไพร์ม เนเจอร์ วิลล่า ของผู้ตาย แต่คนร้ายที่ชี้เป้าขี่รถจักรยานยนต์ออกมารับมือปืนก่อน แล้วขี่รถออกจากซอยไปอย่างรวดเร็ว โดยใช้เส้นทางมุ่งหน้าไปทางถนนอ่อนนุช
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้กำหนดจุดออกหาข้อมูลโดยเฉพาะกล้องวงจรปิดตามสถาน ที่ต่างๆ โดยเฉพาะปั๊มน้ำมัน ตู้เอทีเอ็มและร้านสะดวกซื้อ รวมถึงสถานที่อื่นๆ ที่มีกล้องวงจรปิด ตามเส้นทางที่เจ้าหน้าที่คาดหมายว่าคนร้ายใช้เส้นทางสัญจรระหว่างมาเฝ้าดู ความเคลื่อนไหวผู้ตายนานนับสัปดาห์ กระทั่งก่อเหตุแล้วหลบหนี
ขณะเดียวกัน มีพยานแวดล้อมซึ่งเป็นคนขายไอศกรีมระบุว่ามาขายบริเวณนี้ทุกวันในช่วงสายถึง เที่ยง และสังเกตเห็นชายแปลกหน้ามาผูกเปลนอนใต้ต้นไม้ และยังเคยมาซื้อไอศกรีม ตลอดเวลาชายดังกล่าวจะสวมหมวกแก๊ป และใช้ผ้าปิดจมูกอยู่ตลอดเวลา แม้กระทั่งตอนนอนหลับอยู่ที่เปล นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบก้นบุหรี่ยี่ห้อหนึ่งตกอยู่ในที่เกิดเหตุจึงเก็บ ไปเป็นหลักฐาน
ด้าน พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเรียกประชุมฝ่ายสืบสวนว่า ต้องใช้เวลาในการสืบสวนสอบสวนอีกสักระยะ ขณะนี้ได้ภาพสเก็ตช์ของคนร้ายและอาวุธปืนที่ใช้ว่าเป็นขนาด .38 ส่วนสาเหตุการสังหารได้ตัดประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปจนเหลือเพียงแค่ เรื่องความขัดแย้งในธุรกิจเท่านั้น
ต่อมา พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ รรท.ผบช.น. เปิดเผยภาพสเก็ตช์คนร้ายทั้ง 2 คน ให้แก่สื่อมวลชนและกล่าวว่า ได้สั่งให้ชุดสืบสวนสอบสวนเร่งรัดการทำงานอย่างเต็มที่ และยังยืนยันรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายว่าเป็นคนผิวคล้ำ รูปร่างผอม สูงประมาณ 170 เซนติเมตร เช่นเดิม ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานต่างๆ เพื่อออกหมายจับคนร้ายต่อไป
ที่ บก.ป. พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รรท.ผบก.ป. กล่าวว่า พล.ต.ท.ภาณุพงศ์สั่งการให้ชุดสืบสวน บก.ป.เข้าร่วมสืบสวนคลี่คลายคดีดังกล่าวร่วมกับ บช.น.ซึ่งตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.นรศักดิ์ เหมนิธิ รอง ผบก.ป. รับผิดชอบในส่วนนี้ โดยเบื้องต้นให้ชุดสืบสวนตรวจสอบประวัติอาชญากรคดีฆ่า พยายามฆ่า คดีครอบครองอาวุธปืนที่กลุ่มวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 30 ปี เป็นผู้ต้องหา รวมทั้งประสานข้อมูลจากเรือนจำและทัณฑสถานต่างๆ เพื่อขอตรวจสอบประวัติกลุ่มวัยรุ่นที่เพิ่งพ้นโทษออกมา และกลุ่มวัยรุ่นที่มีประวัติในพื้นที่เกิดเหตุและใกล้เคียง เนื่องจากเชื่อว่ามือปืนที่ลงมือก่อเหตุน่าจะเป็นวัยรุ่น
รายงานข่าวจากชุดสืบสวนแจ้งว่า จากการลงพื้นที่หาข้อมูลในตลาดเนื่องจำนงค์ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี เกี่ยวกับประเด็นฆาตกรรมนางสุนัทที ซึ่งอาจจะมีความเกี่ยวข้องกันพบว่าตลาดดังกล่าวเป็นของนายประโยชน์ เนื่องจำนงค์ พ่อสามีของนางสุนัทที มีทั้งสิ้น 3 แห่ง เก็บค่าเช่าแผงเดือนละ 300-500 บาท ต่อมาเดือนสิงหาคม 2552 นายประโยชน์ได้มอบหมายให้คนใกล้ชิดคนหนึ่งเข้ามาดูแลกิจการแทน และมีการเรียกเก็บค่าเช่าแผงเพิ่มขึ้นเป็นเดือนละ 1,500 บาท สร้างความเดือดร้อนแก่พ่อค้าแม่ค้าอย่างมาก ถึงขนาดมีการรวมตัวกันร้องเรียนไปยังนายประโยชน์
"เมื่อนายประโยชน์ทราบเรื่องจึงมอบหมายให้นางสุนัททีเข้าไปดูแลแทน มีการเปลี่ยนค่าเช่าจาก 1,500 บาท กลับมาเป็น 300-500 บาทเหมือนเดิม และให้นำเงินไปจ่ายให้นายประโยชน์โดยตรง หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา นางสุนัททีก็ถูกขู่ฆ่าเรื่อยมา หนักสุดถึงขั้นส่งคนถืออาวุธไปข่มขู่ ดังนั้นชุดสืบสวนจึงให้น้ำหนักไปที่ประเด็นนี้มากที่สุด" แหล่งข่าวกล่าว
มีรายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ล่าสุดผู้บังคับบัญชาระดับสูงได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบช.ก.ซึ่งมีความสนิทสนมกับ พล.ต.ต.ปิยะชาติ ไปพูดคุยกับ พล.ต.ต.ปิยะชาติ เพื่อสอบถามถึงประเด็นความขัดแย้งที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเรื่องความขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์ในตลาดเนื่องจำนงค์และประเด็น อื่นๆ เพื่อนำมาวิเคราะห์ประมวลหาสาเหตุฆาตกรรม
มีรายงานจากชุดสืบสวนของตำรวจสอบสวนกลางพบว่า เมื่อประมาณ 3 เดือน ก่อนเกิดเหตุนางสุนัททีได้ลงบันทึกประจำวันที่ สภ.ราชาเทวะ จ.สมุทรปราการ ว่าตนเองถูกข่มขู่เอาชีวิต เนื่องจากมีเรื่องขัดแย้งทางธุรกิจ ทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจ พูดจาขู่อาฆาตไว้ โดยชุดสืบสวนเดินทางไปขอรายละเอียดจากพนักงานสอบสวน สภ.ราชาเทวะ เพื่อตรวจสอบดูว่าขณะนั้นนางสุนัททีมีปัญหาความขัดแย้งรุนแรงกับใคร เพื่อสืบสวนหาตัวกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้เมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา นางสุนัททีมีปัญหากับกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้างรายหนึ่ง ซึ่งนางสุนัทที ได้ไปสั่งซื้อวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างของโครงการตัวเอง แต่จ่ายเงินล่าช้าทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจถึงกับพูดข่มขู่เอาไว้