หนุ่ม 18 ลวงเด็กหญิงวัย 14 นั่งรถข้ามจังหวัดมาอยู่ด้วยที่บ้าน รู้จักกันผ่านแอปหาคู่
จับคาบ้าน หนุ่ม 18 ลวงเด็กหญิงวัย 14 นั่งรถข้ามจังหวัดมาอยู่ด้วย รู้จักกันผ่านแอปหาคู่
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (16 ม.ค.65) พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทีมสหวิชาชีพของศูนย์พิทักษ์เด็กและสตรี ภาค 5 ได้เดินทางมายัง สภ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงกรณี ด.ญ.วา (นามสมมติ) อายุ 14 ปี หายออกจากหมู่บ้านแม่หนาด ต.ดอยงาม อ.พาน จ.เชียงราย โดยทางผู้ปกครองได้แจ้งความและให้ข้อมูลว่าหายตัวออกจากบ้านตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.65 ที่ผ่านมา จนกระทั่งล่าสุดช่วงเย็นวานนี้ (15 ม.ค.65) ทางเจ้าหน้าที่ได้เบาะแสและพบตัวเด็กหญิงคนดังกล่าวที่ห้องพักแห่งหนึ่งย่านบ้านหนองจอกยาง ต.สันทราย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ขณะอยู่กับชายหนุ่มทราบชื่อคือ นายบาส (นามสมมติ) อายุ 18 ปี และได้ทำการควบคุมตัวเพื่อนำมาสอบสวนที่ สภ.สันทราย
จากการสอบถามน้าสาวของนายบาส เล่าว่า ก่อนหน้านี้ทั้งคู่ได้รู้จักกันทางเฟซบุ๊ก พูดคุยกันมานานหลายวันก่อนที่หลานชายของตนเองคือนายบาสจะชักชวนน้องผู้หญิงให้มาหา โดยไม่ได้บังคับแต่อย่างใด ต่อมาน้องผู้หญิงก็ได้นั่งรถสองแถวมาจาก อ.พาน จ.เชียงราย มาหาที่บ้านดงเจริญชัย ต.หนองแหย่ง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เมื่อมาถึงนายบาสได้ปั่นจักรยานออกไปรับที่ปากซอยห่างจากบ้านประมาณ 4 กิโลเมตรและพามาที่บ้าน โดยนายบาสได้อาศัยอยู่กับยาย และยายก็ไม่ทราบว่าจะติดต่อกับทางผู้ปกครองของน้องผู้หญิงอย่างไร เนื่องจากทางน้องผู้หญิงก็ไม่ยอมให้เบอร์โทรศัพท์ของผู้ปกครอง จึงต้องให้น้องผู้หญิงอยู่ที่บ้านกับหลานชาย
น้าสาวยังบอกด้วยว่าหลานชายของตัวเอง มีอาการไม่ค่อยจะสมประกอบในเรื่องของความคิด และเป็นเด็กที่คิดช้ากว่าคนอื่นและทุกคนในหมู่บ้านจะรู้ดี และทุกวันนี้ก็เรียนหนังสือทาง กศน. ซึ่งในส่วนของที่นายบาสกับน้องผู้หญิงรู้จักกันมานานหคือไม่นั้นตนก็ไม่แต่ใจ เนื่องจากตนก็ไม่ได้อาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกันกับนายบาสและไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น เมื่อถามข้อมูลจากยายก็บอกว่า น้องผู้หญิงได้มาอยู่ที่บ้านเมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา และเป็นครั้งแรกที่ นายบาส ได้พาผู้หญิงเข้ามาอยู่ที่บ้านด้วย ประกอบกับน้องผู้หญิงเดินทางมาจาก จ.เชียงราย ก็ไม่รู้ว่าจะให้ไปอยู่ที่ไหน อีกทั้งไม่สามารถติดต่อใครได้ จึงจำเป็นต้องให้อยู่ที่บ้าน จนกระทั่งมีตำรวจมาหาที่บ้านก็รู้สึกตกใจ
ภายหลังซักถาม พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาสารภาพว่าก่อนหน้านี้ได้เล่นเฟซบุ๊กแล้วได้เข้าไปยังแอปพลิเคชันหนึ่ง ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันหาคู่ แล้วได้ไปรู้จักกับน้องผู้หญิงคนดังกล่าว หลังจากนั้นก็ได้พูดคุยกันผ่านทางแชท และโทรศัพท์หากันมาได้ประมาณ 3-4 เดือน จากนั้นทางผู้ต้องหาได้ล่อลวงให้น้องผู้หญิงคนดังกล่าวมาหาที่บ้าน ในพื้นที่ อ.สันทราย ตั้งแต่คืนวันที่ 31 ธ.ค. ที่ผ่านมา และจากการสอบสวนเบื้องต้นทางผู้ต้องหาก็ได้ให้การรับสารภาพในข้อหาพรากผู้เยาว์และพยายามข่มขืน แต่อ้างว่ายังไม่ได้ลงมือก่อเหตุข่มขืน ซึ่งในตอนนี้ได้ทำการส่งตัวน้องผู้หญิงให้แพทย์ตรวจร่างกาย และดูแลอยู่
อย่างไรก็ตามในส่วนของข้อเท็จจริงเพิ่มเติมนั้นก็จะได้มีการสอบสวนข้อมูลและตรวจสอบหลักฐานเกี่ยวข้องต่อไป ส่วนเบื้องต้นนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีกับนายบาส ในข้อหา “กระทำชำเราเด็กอายุ ยังไม่เกินสิบห้าปี ซึ่งมิใช่ภรรยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล”
ในส่วนของผู้ต้องหาในระหว่างการสอบสวนก็ได้ให้ความร่วมมือในการสอบสวน พูดจารู้เรื่องและตอบข้อซักถามครบถ้วนในทุกประเด็น โดยจากกรณีที่เกิดขึ้นนี้ อยากฝากเตือนประชาชนและผู้ใช้โซเชียลด้วยว่า เนื่องจากโซเชียลนั้นมีทั้งประโยชน์และโทษ จึงจำเป็นต้องมีสติ คิดถึงครอบครัว และญาติพี่น้องของตัวเอง อย่างเช่นกรณีนี้ที่เกี่ยวกับการคบเพื่อน คบแฟน ก็อยากให้มีสติ เพราะอาจจะถูกหลอกลวง รวมไปถึงเรื่องของการถูกหลอกลวงในรูปแบบอื่นๆ เช่น การลวงให้โอนเงินของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือการหลอกให้เชื่อใจแล้วให้โอนเงินด้วย ที่อาจก่อให้เกิดความสูญเสียได้