ทีมวิจัยเผยหน้ากากอนามัยช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้ใบหน้า

ทีมวิจัยเผยหน้ากากอนามัยช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้ใบหน้า

ทีมวิจัยเผยหน้ากากอนามัยช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้ใบหน้า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ดร.มิเชล เลวิส ผู้เชี่ยวชาญด้านใบหน้า จากคณะจิตวิทยา มหาวิทยาลัยคาร์ดิฟฟ์ ให้สัมภาษณ์ เดอะ การ์เดียน เกี่ยวกับผลการศึกษาความเปลี่ยนแปลงทางจิตวิทยาของชาวอังกฤษ ที่มีต่อการสวมหน้ากากอนามัย ในช่วงหลังการระบาดใหญ่ของโควิด-19

การศึกษาพบว่า การสวมหน้ากากอนามัยมีผลอย่างมีนัยสำคัญต่อการเพิ่มเสน่ห์ดึงดูดให้กับใบหน้า โดยเมื่อเปรียบเทียบกับใบหน้าของคนที่ไม่สวมหน้ากากเลย และชนิดของหน้ากากก็มีผลต่อเสน่ห์ด้วยเช่นกัน

ผลการศึกษาพบว่า หน้ากากที่ทำให้ใบหน้าดูมีเสน่ห์มากที่สุด คือ หน้ากากอนามัยสีฟ้า แบบใช้แล้วทิ้งที่แพทย์ใช้ในห้องผ่าตัด รองลงมา คือ หน้ากากอนามัยแบบที่ทำจากผ้า

งานวิจัยชิ้นนี้ พบการเปลี่ยนแปลงทัศนคติของผู้คนต่อการสวมหน้ากากอนามัย จากเดิมที่มองว่าหน้ากากอนามัยเกี่ยวข้องกับโรคภัยหรือความเจ็บป่วย ซึ่งควรจะต้องหลีกเลี่ยงหรือไม่เข้าไปข้องแวะด้วย กลายมาเป็นการยอมรับและเกิดความรู้สึกในเชิงบวก

"พวกเราต้องการทดสอบว่า ความคิดนี้เปลี่ยนไป ตั้งแต่การสวมหน้ากากเป็นสิ่งที่พบเห็นกันได้ปรกติทั่วไป และเข้าใจด้วยว่าหน้ากากแต่ละชนิดนั้นมีผลแตกต่างกัน" ดร.เลวิส กล่าว

ดร.เลวิสอธิบายว่า เป็นไปได้ที่หน้ากากช่วยทำให้คนที่สวมใส่ดูมีเสน่ห์ดึงดูดมากขึ้น เพราะคนมองจะให้ความสนใจไปที่ดวงตาโดยตรง เขาบอกว่างานศึกษาอื่นๆ ก็พบในทำนองเดียวกันว่า การปิดใบหน้าซีกซ้ายหรือขวา มีผลทำให้ใบหน้าดูมีเสน่ห์มากขึ้น เป็นเพราะสมองจะทำการเติมเต็มในส่วนที่หายไป ซึ่งส่งผลให้เกิดความรู้สึกเกินจริงต่อภาพของใบหน้าทั้งหมด

การทดลองทำขึ้นในเดือน ก.พ. 2564 เป็นเวลา 7 เดือน หลังการออกข้อบังคับให้ประชาชนในสหราชอาณาจักรต้องสวมหน้ากาก เพื่อศึกษาว่าหน้ากากที่ต่างชนิดกันมีผลต่อเสน่ห์ดึงดูดอย่างไร โดยให้กลุ่มผู้หญิงที่เข้าร่วมการวิจัย เป็นผู้ให้คะแนนความมีเสน่ห์ดึงดูด จากการดูภาพใบหน้าของผู้ชาย 40 คน ใน 4 แบบ คือ ใบหน้าเปลือยเปล่าไม่สวมหน้ากาก เปรียบกับใบหน้าที่สวมหน้ากากผ้า และใบหน้าที่สวมหน้ากากอนามัยทางการแพทย์สีฟ้า และใบหน้าที่ปิดครึ่งล่างด้วยปกหนังสือสีดำ โดยมีคะแนนตั้งแต่ 1-10

"การศึกษาของเรา บอกว่าใบหน้าที่อยู่ภายใต้หน้ากากอนามัยทางการแพทย์นั้น มีเสน่ห์ดึงดูดมากที่สุด อาจจะเป็นเพราะเราเห็นบุคลากรการแพทย์สวมหน้ากากสีฟ้า และมาตอนนี้เราก็เชื่อมโยงสิ่งนี้กับคนเหล่านั้น ในช่วงเวลาที่เรารู้สึกไม่มั่นคงแบบนี้ การหาหน้ากากทางการแพทย์มาใส่ช่วยให้ความรู้สึกอุ่นใจ ทั้งยังทำให้เกิดความรู้สึกในเชิงบวกกับคนอื่นๆ ที่สวมใส่ด้วย" ดร.เลวิสกล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook