"ประยุทธ์" ข้องใจหมูขาดตลาด วอนสินค้าขึ้นราคาตามเหตุผล อย่าเห็นแก่ตัว!
"ประยุทธ์" ข้องใจเกิดโรคระบาดในหมูแค่บางพื้นที่ แต่ทำไมหมูถึงขาดตลาด วอนผู้ผลิตสินค้าขึ้นราคาอย่างสมเหตุผล ไม่ใช่จะอ้างเรื่องต้นทุนเพิ่มอย่างเดียว ช่วงเวลาแบบนี้ไม่ควรเห็นแก่ตัว
วันนี้ (17 ม.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงแนวทางแก้ปัญหาราคาสินค้าที่พุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะเนื้อสุกร ว่า ขณะนี้ได้มีการสำรวจแล้วว่าปัญหาเป็นอย่างไร ปริมาณเพียงพอหรือไม่ ซึ่งเมื่อไม่เพียงพอ จะจัดหาเพิ่มได้จากที่ไหน เช่น หมู ถ้าจำเป็นก็ต้องนำเข้าและระงับการส่งออก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องไปผลิตลูกหมูออกมา ส่งเสริมผู้ค้ารายย่อย วันนี้ต้องไปสำรวจว่าหมูที่เก็บไว้ในสต๊อกมีการแช่แข็งไว้เท่าไร ที่รอการส่งออกก็ต้องระงับการส่งออกทั้งหมด เพื่อให้ปริมาณหมูมีเพียงพอต่อการใช้ในประเทศ ต้องแก้ปัญหาแบบนี้
“หมูตายก็สร้างหมูใหม่ขึ้นมา เพาะพันธุ์ใหม่ขึ้นมาให้เพียงพอ ปัญหาสำคัญที่สุด การแพร่ระบาดในครั้งนี้มีการแพร่ระบาดในบางพื้นที่ และเป็นจุดๆ ไป ไม่ได้แพร่ระบาดทั่วประเทศ ขอให้เข้าใจตรงนี้ด้วย และการตายมีประมาณไม่ถึง 20% แต่ทำไมหมูถึงขาด แสดงว่ามันเกิดอะไรขึ้นในกระบวนการ มีคนไปทำอะไรหรือเปล่า อีกทั้งหลายๆ อย่างก็พยายามขึ้นราคาตามมาโดยไม่มีเหตุผลที่สมควร ผมได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบ และถ้าไม่ถูกต้องตามกฎหมายก็ให้ร้องเรียนมายัง สคบ.” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ
ส่วนที่มีการอ้างว่ามีความจำเป็นที่จะต้องขึ้นราคาสินค้า เพราะสินค้าหลายรายการต่างปรับขึ้นราคา โดยสืบเนื่องมาจากราคาน้ำมันด้วยนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้าจะขึ้นราคาแล้วมีเหตุผลสมควร ก็คงไม่เป็นอะไร แต่ขอร้องว่าอย่าทำให้ประชาชนเดือดร้อน ต้องไปคำนวณที่ต้นทุนให้สอดคล้อง ไม่ใช่ราคาน้ำมันขึ้น 1 บาท แล้วไปขึ้นราคาสินค้าอื่น 5 บาท เอาเหตุผลอะไรมาขึ้นตั้ง 5 บาท ไม่เข้าใจ ขออย่าเห็นแก่ตัวกันในเวลานี้
ทั้งนี้ เมื่อราคาสินค้าปรับขึ้นหมดแล้ว ค่าแรงขั้นต่ำจะขึ้นหรือไม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามผู้สื่อข่าวว่า “เอาเงินมาจากไหน พูดได้หมด แต่ต้องหาเงินมาให้ได้ก่อน รัฐบาลจะต้องมีเงินก่อน”