เจ้าอาวาสวัดศาลารีงดลง "นะหน้าทอง" ชั่วคราว ยันไม่ได้แตะตัว ไม่เคยใบ้หวย
เจ้าอาวาสวัดศาลารีงดลง "นะหน้าทอง" ชั่วคราว ขอหาแนวทางกับสำนักพุทธฯ ยันไม่ได้แตะตัวญาติโยม ไม่เคยใบ้หวย
(17 ม.ค.65) เมื่อเวลา 18.00 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณ วัดศาลารี ต.บางไผ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี หลังมีข่าวฮือฮา พระครูสมุห์นพดล ปิยธมฺโม เจ้าอาวาสวัดศาลารี เขียนยันต์ต่างๆ และลงนะหน้าทอง เจิมหน้าผากด้วยแผ่นทองคำเปลว เขียนยันต์หัวใจมหาเศรษฐีลงบนฝ่ามือ และ การลงนะหน้าทองแบบเต็มใบหน้า เพื่อเสริมสร้างสิริมงคล หนุนดวง เสริมดวงชะตาในด้านเมตตา มหาเสน่ห์ และเพิ่มโชคลาภ ทำให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง มีผู้มาต่อคิวรอเป็นจำนวนมาก
พระครูสมุห์นพดล ปิยธมฺโม เจ้าอาวาสวัดศาลารี เปิดเผยว่า ทางอาตมา ไม่เคยถูกเนื้อต้องตัว การเจิมหน้าผากใช้ เทียนเก่าๆ ที่เหลือจากการใช้ทำน้ำมนต์จิ้มที่แป้นเจิมและจิ้มที่หน้าผาก ส่วนที่เขียนยันต์บนฝ่ามือใช้ปากกา เขียนไม่มีการแตะเนื้อต้องตัวญาติโยม จริงๆ ที่บริเวณกลางหน้าผากเป็นจุดรวมของสมาธิ อยากให้ทุกคนตั้งสติให้ใช้สติในการดำเนินชีวิต การทำแบบนี้ตนไม่คิดว่าเป็นการทำพิธี เริ่มต้นที่มีลูกศิษย์เข้ามาให้เจิมเพื่อเป็นสิริมงคล อยากให้เจิมก็เจิมอยากให้จิ้มก็จิ้มไป โดยไม่ได้คิดอะไร แต่รู้ว่าถ้าจิ้มไปที่จุดกึ่งกลางของหน้าผากจะเป็นจุดที่รวม สมาธิ เจิมมาเรื่อยๆ ตอนหลังมาให้หลวงพ่อช่วยสักยันต์ให้หน่อย อาตมามองว่าไม่เหมาะเป็นภิกษุเข็มไปจิ้มเนื้อมนุษย์และมีเลือดซึมออกมา เลยใช้วิธีใช้ปากกาเจิมโดยเขียนลงที่มือ ซึ่งเป็นการร้องขอของลูกศิษย์มากกว่า
วันนี้ได้มีข้อตกลงกับทางสำนักพุทธและสำนักสงฆ์ที่เข้ามาตรวจสอบได้สั่งให้งดทำพิธีพรุ่งนี้ไปก่อน อาจจะมีแนวคิดอื่นเพื่อให้ดูเหมาะสมมากกว่านี้ ตอนนี้ยังไม่ได้กำหนดว่าจะงดนานแค่ไหน ต้องดูว่าลูกศิษย์ที่มีศรัทธา จะแก้ไขปัญหายังไง เพราะทุกคนคิดต่างกันและมองต่างกัน ส่วนชาวบ้านที่เข้ามาก่อนจะเป็นข่าววันธรรมดาประมาณ 150 -160 คน ถ้าเป็นวันหยุดเสาร์อาทิตย์ประมาณ 300 คน วันนี้เมื่อช่วงเช้ามีประมาณเกือบ 100 คน อาตมา เลยแจ้งให้ญาติโยมกลับไปก่อนเพราะต้องปรึกษาหารือกับสำนักพุทธและคณะสงฆ์ที่เป็นฝ่ายปกครอง เพื่อขอคำแนะนำ ประเด็นการลงนะต้องระงับไว้ก่อน ส่วนร้านขายลอตเตอรี่ จะขึ้นป้ายสั่งห้ามไม่ให้จำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลในวัด และเรื่องใบ้หวย ทางวัดไม่มีนโยบายแบบนี้จะมีแต่ไอ้ไข่ จะมีประชาชนมากราบไหว้ เพื่อขอหวย
นางสาวเกวลิน อายุ 30 ปี กล่าวว่า ตนมาเจิม นะหน้าทองกับพระอาจารย์และมาเขียนหัวใจเศรษฐี รู้สึกเป็นที่พึ่งทางใจมีสิ่งดีๆ เข้ามา ตนมาจากนนทบุรี รอคิวแล้วแต่วันแต่วันนี้คนไม่ค่อยเยอะ ตนทราบข้อมูลจากทางเพจและเดินทางมาลองตาม แต่ตนมาหลายครั้งแล้ว ถ้ามาวันหยุดเสาร์-อาทิตย์คนจะเยอะ ที่วัดจะมีให้ลงชื่อและจับบัตรคิว ถ้าอยากมาก็ให้มาลงชื่อและจับคิวที่วัด ที่วัดนี้ก็ไม่ใช่พุทธพาณิชย์ จะทำบุญหยอดตู้เท่าไหร่ก็ได้ตามศรัทธา ข้างหลังวัดก็จะมีไอ้ไข่สามารถมากราบไหว้กันได้
นางสาวเอ (นามสมมุติ) กล่าวว่า ตนรู้สึกเสียดายถ้าจะเลิกทำพิธี เพราะทุกคนที่มาหาหลวงพ่อคือมีปัญหา มีเรื่อง การเติมเพื่อสร้างความเป็นสิริมงคล เพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจในยุคเศรษฐกิจแบบนี้ สร้างขวัญกำลังใจในการประกอบอาชีพ ที่ทำพิธีไปแล้วและกลับมาก็คือประสบความสำเร็จ อาจจะไม่เกี่ยวกับการเจิมแต่มันคือการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน การที่สำนักพุทธฯ ไม่เห็นด้วยก็ยังมีอีกหลายวัดที่ทำ ทำไมต้องมาสั่งห้าม อยากให้มีการทำพิธีอยู่ ตนเพิ่งเริ่มมาเจิม ตนก็ดีขึ้นถึงได้มาอีก ตนทำอาชีพเซลล์มันช่วยเรื่องการเงิน การค้าขาย จากที่ติดขัดขายไม่ดีก็ดีขึ้น เจรจากับลูกค้าง่ายขึ้น ตนไม่แน่ใจว่าเกี่ยวมั้ยแต่ก็อยากที่จะมานมัสการหลวงพ่อ ตนเลยคิดว่าจากแรงศรัทธาตรงนี้เลยเป็นผล ตนมาก็เจอลูกศิษย์มาหาหลวงพ่อกันเรื่อยๆ เพิ่มมากขึ้น