พาณิชย์ มีมติให้ “ไก่-เนื้อไก่” เป็นสินค้าควบคุม เบรกขึ้นราคาเครื่องใช้ไฟฟ้า
“จุรินทร์” เบรกอีก!!! ห้ามเครื่องใช้ไฟฟ้าขึ้นราคา ขณะที่ กกร. เพิ่มไก่เป็นสินค้าควบคุม
วันนี้ (19 ม.ค.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ครั้งที่ 2/2565 ว่า วันนี้มีการประชุม กกร. ซึ่งที่ประชุมได้มีมติกำหนดให้ไก่และเนื้อไก่เป็นสินค้าควบคุม และให้ความเห็นชอบกำหนดมาตรการให้ผู้เลี้ยงไก่ที่มีปริมาณการเลี้ยงตั้งแต่ 100,000 ตัวขึ้นไป และโรงชำแหละไก่ที่มีกำลังการผลิตมากกว่า 4,000 ตัวต่อวัน แจ้งปริมาณสต๊อก และต้นทุนราคาจำหน่ายทุกเดือน
นอกจากนี้ ยังมีมติให้โรงงานผลิตอาหารสัตว์ ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 55 โรง แจ้งต้นทุนราคาจำหน่าย ปริมาณการผลิต และสต๊อก รวมทั้งกำหนดมาตรการให้การปรับราคาต้องได้รับอนุญาตจากกรมการค้าภายในก่อน
สำหรับการกำหนดให้ไก่เป็นสินค้าควบคุมนั้น จะต้องผ่านที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งคาดว่าจะนำเข้าที่ประชุม ครม.ได้ในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตามขณะนี้ในเรื่องของการกำกับราคาไก่ถือว่าได้รับความร่วมมืออย่างดีจากเกษตรกรและผู้ประกอบการ ซึ่งได้มีการประชุมร่วมกันมา 2 ครั้ง และกำหนดราคาหน้าฟาร์มและราคาจำหน่ายไก่ในราคาที่เป็นธรรมกับผู้บริโภค ซึ่งในภาพรวมถือว่าสามารถตรึงราคาไก่ไว้ได้ในสถานการณ์ปัจจุบัน
โดยตนได้มอบหมายให้กรมการค้าภายในประชุมร่วมกับเกษตรกรและผู้ประกอบการด้านไก่โดยต่อเนื่อง และใกล้ชิดต่อไป เพื่อไม่ให้มีการซ้ำเติมอาหารทางเลือกกับผู้บริโภค หลังจากที่เนื้อหมูปรับขึ้นราคา
ทั้งนี้ นายจุรินทร์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวว่าเครื่องใช้ไฟฟ้ากำลังจะขึ้นราคาว่า ตนได้สั่งการผ่านอธิบดีกรมการค้าภายในไปแล้วว่า ห้ามเครื่องใช้ไฟฟ้าขึ้นราคา เพราะยังไม่เห็นเหตุผลที่สมควร ซึ่งขณะนี้มีผู้พยายามฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าตามอำเภอใจ ถือเป็นการซ้ำเติมผู้บริโภคมาก
เพราะฉะนั้นกระทรวงพาณิชย์จึงขอความร่วมมือ ถ้าพบเห็นการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าหรือกักตุนสินค้าให้แจ้งสายด่วน 1569 ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด และพาณิชย์จังหวัดจะใช้เป็นข้อมูลในการลงไปตรวจสอบและดำเนินคดีต่อไป ถ้าพบการกระทำผิดกฎหมาย เช่นกรณีของการขึ้นราคาไข่ไก่ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวแจ้งว่า นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ได้เชิญผู้ประกอบการเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น ซัมซุง แอลจี มิตซูบิชิ ฟิลลิปส์ และโตชิบา เป็นต้น พร้อมทั้งสมาคมอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์มาประชุมหารือกัน และได้ข้อยุติแล้วว่าจะไม่มีการขึ้นราคาเครื่องใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลานี้