ไพบูลย์ อ้างเหตุกลุ่มธรรมนัสเรียกร้องปรับโครงสร้างพรรค ต้นตอเจอขับพ้น พปชร.
"ไพบูลย์" แถลงอ้างเหตุที่ "ธรรมนัส" พร้อม 20 ส.ส. ถูกขับพ้นพลังประชารัฐ เพราะยื่นข้อเรียกร้องให้ปรับโครงสร้างพรรคครั้งใหญ่ ซึ่งคณะกรรมการบริหารส่วนใหญ่มองว่าหากทำตามข้อเสนอจะเกิดปัญหาตามมาแน่นอน
วันนี้ (20 ม.ค.) นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แถลงข่าวที่อาคารสัปปายะสภาสถาน ในประเด็นมติร่วมของคณะกรรมการบริหารและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคพลังประชารัฐ เมื่อคืนที่ผ่านมาว่า การประชุมดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจาก ส.ส.พรรค นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ มีการไปเสนอ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้ปรับโครงสร้างพรรคครั้งใหญ่
ซึ่งคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐเห็นว่าข้อเรียกร้องดังกล่าวจะสร้างปัญหามาก และจะทำให้เกิดความขัดแย้งครั้งใหญ่ในพรรค จึงนัดประชุมร่วมกันระหว่างคณะกรรมการบริหารพรรคและ ส.ส.พรรค โดยคณะกรรมการบริหารพรรคยืนยันว่า พรรคจะไม่สามารถดำเนินการได้อย่างที่ ร.อ.ธรรมนัส ต้องการ เพราะถ้าดำเนินการจะเสียหายทั้งระบบ ด้วยเหตุนี้ เพื่อรักษาหลักการแห่งพรรค ทั้งเรื่องเอกภาพ เรื่องความมีเสถียรภาพ หลักการ และอุดมการณ์ของพรรค คณะกรรมการบริหารพรรคจึงเห็นว่ารับไม่ได้
ทั้งนี้ นายไพบูลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ร.อ.ธรรมนัส ยืนยันว่าหากไม่รับข้อเสนอ การบริหารพรรคจะมีปัญหาแน่นอน พรรคจึงเห็นว่าเป็นเหตุที่ร้ายแรง กระทบกับเสถียรภาพและเอกภาพของพรรคพลังประชารัฐ คณะกรรมการบริหารพรรคจึงเห็นว่าเข้ากับข้อบังคับของพรรค ข้อที่ 54 (5) คือ มีเหตุร้ายแรงอื่นเกิดขึ้น จึงมีมติให้กลุ่มผู้เรียกร้อง ซึ่งนำโดย ร.อ.ธรรมนัส และคณะ รวม 21 คน จะต้องพ้นจากพรรคเพื่อรักษากลุ่มส่วนใหญ่ คือ รักษา ส.ส. อีกประมาณ 100 คนที่เหลือ
โดยที่ประชุมร่วมกันดังกล่าวประกอบด้วยคณะกรรมการบริหารพรรค 17 คน ส.ส. อีก 61 คน รวมมีผู้เข้าร่วมประชุมทั้งสิ้น 78 คน ลงมติเพื่อให้ 21 คน พ้นจากสมาชิกภาพของพรรค เพราะพรรคไม่สามารถปฏิบัติตามข้อเรียกร้องดังกล่าวได้
ผลสรุปออกมาว่า ที่ประชุมร่วม กก.บห. และ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ ลงคะแนนเสียงเห็นด้วย 63 เสียง ซึ่งถือว่าเกิน 3 ใน 4 ของผู้เข้าประชุม จึงถือว่ามติได้รับเสียงจากที่ประชุมร่วม 3 ใน 4 โดยหลังจากนี้พรรคจะจัดเตรียมเอกสารและเสนอไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนซักถาม นายไพบูลย์ ปฏิเสธกระแสข่าวกลุ่มผู้กองธรรมนัสมีการต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีว่า ตนไม่ได้ยินเรื่องนี้เลย รวมถึงยังไม่ขอเอ่ยถึงบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐแทน ร.อ.ธรรมนัส บอกแต่เพียงว่าเมื่อตำแหน่งว่างลง ระหว่างนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค สามารถเลือกแต่งตั้งบุคคลให้เข้ามาทำหน้าที่รักษาการแทนไปพลางก่อน
"เชื่อว่าหลังจากนี้ ความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐน่าจะจบลงแล้ว แม้ก่อนหน้านี้ได้พยายามแก้ไขปัญหาต่างๆ มาโดยตลอด แต่ก็ไม่เป็นผล จนกระทั่งถึงเวลาที่ต้องดำเนินการไปอย่างที่แจ้งดังกล่าว ผมมองว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีกว่า ดีกว่ามีจำนวน ส.ส. มาก แต่มีความขัดแย้งกัน" นายไพบูลย์ กล่าวปิดท้าย