สะเทือนใจ แม่ชรากินกล้วยประทังชีวิต 10 วัน ไม่รู้ลูกชายกลายเป็นศพอยู่ในห้องน้ำ
สะเทือนใจ แม่ชรากินกล้วยประทังชีวิต 10 วัน ไม่รู้ลูกชายกลายเป็นศพอยู่ในห้องน้ำ เพื่อนร่วมงานมาตามหาถึงรู้ว่าเสียชีวิต
(20 ม.ค.65) เมื่อเวลา 17.30 น. พ.ต.ต สุรินทร์ สมบุตร สารวัตรเวรสถานีตำรวจภูธรเมืองนครนายก ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตภายในห้องน้ำหลายวันแล้ว บริเวณหมู่ที่ 3 ตำบลบ้านใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ใกล้แยกสัญญาณไฟศรีนาวา จึงได้ไปยังที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์เวรและกู้ภัยสว่างอริยะนครนายก
พบที่เกิดเหตุเป็นบ้านสองชั้น ชั้นล่างเป็นแบ่งเป็นห้องนอน และห้องน้ำ ซึ่งภายในห้องน้ำพบศพ นายศิริอรุณ อายุ 51 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ในห้องน้ำลักษณะนอนหงาย สวมเสื้อยืดสีขาวกางเกงขาสั้นสีดำ เสียชีวิตมาได้ประมาณ 10 วัน ศพเริ่มเน่าส่งกลิ่นเหม็น แพทย์เวรนำศพส่งไปชันสูตรที่โรงพยาบาล มศว องครักษ์
จากการให้สัมภาษณ์ของญาติผู้เสียชีวิต เล่าว่าผู้เสียชีวิตอาศัยอยู่กับแม่ 2 คน เนื่องจากได้แยกกันอยู่กับภรรยาแล้ว โดยทำงานอยู่ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครนายก มีโรคประจำตัวหลายโรค เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล มศว องครักษ์ อยู่เป็นประจำ โดยทุกวันผู้เสียชีวิตจะคอยดูแลหาอาหารให้ นางสำลี อายุ 86 ปี ผู้เป็นแม่ซึ่งป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์อยู่ทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2565 ผู้เสียชีวิตได้หายตัวไปโดยที่แม่ไม่ทราบว่าลูกชายนั้นได้เสียชีวิตอยู่ในห้องน้ำภายในบ้านนานนับ 10 วัน ตั้งแต่วันที่ 10 -20 มกราคม 2565 แม่ไม่ได้ทานข้าวอาศัยกล้วยน้ำว้าที่วางอยู่ในบ้านแทนข้าว
จากการให้สัมภาษณ์ของนายวันชัย สอนศรี หัวหน้างานป้องกันองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครนายกได้เล่าว่า นายศิริอรุณ เป็นลูกน้องทำงานอยู่ที่ อบจ.นครนายก ได้ขาดงานไปตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2565 จนมาถึงวันที่ 20 มกราคม 2565 เป็นเวลารวม 10 วัน ใกล้จะถึงกำหนดของการขาดราชการ ตนจึงให้ลูกน้องขับรถมาดูเกือบทุกวัน เห็นบ้านปิดประตูอยู่ จนวันนี้ลูกน้องแจ้งว่ามีกลิ่นเหม็นโชยออกมาจากตัวบ้านจึงได้แจ้งทางญาติผู้เสียชีวิตและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบจึงได้ทราบว่าเสียชีวิตดังกล่าว