พยากรณ์อากาศ 21-27 ม.ค. 65 ภาคเหนือระวังฝนคะนอง-ลมกระโชก-ลูกเห็บตก
กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณอากาศในช่วงนี้จะแปรปรวน เตือนภาคเหนือให้ระวังฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง-ลูกเห็บตก คาดอุณหภูมิยอดดอยลดต่ำสุด 4-11 องศาเซลเซียส
วันนี้ (21 ม.ค.) ว่าที่ร้อยตรี ธนะสิทธิ์ เอี่ยมอนันชัย รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ลงนามในประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง "อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบน" ฉบับที่ 3 โดยมีเนื้อหาว่า คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกเคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนอง กับลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง
หลังจากนั้นในวันที่ 23 มกราคม 2565 อุณหภูมิจะลดลง กับมีอากาศเย็นถึงหนาว โดยภาคเหนืออุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-11 องศาเซลเซียส กับมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ขณะที่ กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 21 มกราคม 2565 - 27 มกราคม 2565 เอาไว้ดังนี้
การคาดหมาย
คาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 21 – 22 ม.ค. 65 คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกได้เคลื่อนเข้าปกคลุมด้านตะวันออกของภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ในขณะที่บริเวณความกดอากาศหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนปกคลุมทะเลจีนใต้ ทำให้มีลมตะวันออกฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมภาคกลาง และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนอง กับลมกระโชกแรงบางแห่ง โดยมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 23 – 27 ม.ค. 65 ลมฝ่ายตะวันตกในระดับบนพัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออกมีอากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยภาคเหนืออุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังอ่อนพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ตลอดช่วง
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 21 – 22 ม.ค. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกที่อาจจะเกิดขึ้นไว้ด้วย โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 23 – 27 ม.ค. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย
ภาคเหนือ
ในวันที่ 21 - 22 ม.ค. 65 อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25-33 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ส่วนในวันที่ 23 - 27 ม.ค. 65 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 13-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-34 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 2-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 21 – 22 ม.ค. 65 อากาศเย็นถึงหนาว โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง และลูกเห็บตกบางแห่งส่วนมากทางตอนบนของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-32 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 23 - 27 ม.ค. 65 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 15-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 21 – 22 ม.ค. 65 อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากทางตอนบนของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 23 - 27 ม.ค. 65 อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย
อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 21 - 22 ม.ค. 65 อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ส่วนในช่วงวันที่ 23 - 27 ม.ค. 65 อากาศเย็นมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย
อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ตลอดช่วง
ในช่วงวันที่ 22 – 27 ม.ค. 65 ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นไป : ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงมา : ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 19-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ตลอดช่วง
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ในช่วงวันที่ 21 - 22 ม.ค. 65 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ส่วนในช่วงวันที่ 23 - 27 ม.ค. 65 เมฆบางส่วน กับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.