บุกร้อง สคบ. ดราม่าค่าอาหาร 3 หมื่น ท้ายกหม้อกระเพาะปลา-น้ำมันขวดละ 2 พันมาด้วย

บุกร้อง สคบ. ดราม่าค่าอาหาร 3 หมื่น ท้ายกหม้อกระเพาะปลา-น้ำมันขวดละ 2 พันมาด้วย

บุกร้อง สคบ. ดราม่าค่าอาหาร 3 หมื่น ท้ายกหม้อกระเพาะปลา-น้ำมันขวดละ 2 พันมาด้วย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บุกร้อง สคบ. ดราม่าค่าอาหาร 3 หมื่นกว่า ท้าเจ้าของร้านยกหม้อกระเพาะปลา-น้ำมันขวดละ 2 พันที่ใช้ทอดไก่มาด้วย ย้ำไม่คิดชักดาบถ้าราคาสมเหตุสมผล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม จากกรณีผู้ไปใช้บริการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ ที่ร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองนครพนม ได้โพสต์บิลค่าอาหาร 31,051 บาท ซึ่งในบิลเมนูอาหาร ระบุเมนูกระเพาะปลาน้ำแดงหม้อละ 5,000 บาท  ไก่ทอดน้ำปลาจานละ 1,000 บาท เนื้อแดดเดียวจาน 1,000 บาท น้ำแข็งแช่เบียร์ถัง 1,000 บาท และน้ำแข็ง 111 ถัง 2,220 บาท  โดยก่อนนี้ได้มีการโพสต์ร้องเรียนผ่านสื่อโซเชียล เพื่อให้หน่วยงานตรวจสอบ และเรียกร้องขอความเป็นธรรม อีกทั้งต้องการรักษาภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดนครพนม

ทั้งนี้ นายเกียรติภูมิ อายุ 54 ปี ผู้โพสต์บิล และกลุ่มเพื่อนร่วม ได้นำเอกสารหลักฐานเข้าร้องเรียนต่อ ศูนย์ดำรงธรรม จ.นครพนม และ หน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภค  มี นายชาญชัย คงตัน รองผู้ว่าราชการ จ.นครพนม  นายจิรภูมิ สุวรรณอาจ พาณิชย์ จ.นครพนม นายไชยวุฒิ  วัชเรนทร์สุนทร ผู้ช่วย ผอ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรม จ.นครพนม ออกมารับเรื่องและรับฟังคำชี้แจงกรณีดราม่าอาหารแพง พร้อมเชิญคู่กรณีเจ้าของร้านเข้ามาให้ข้อเท็จจริง

นางปาริชาติ เพื่อนนายเกียรติภูมิ เปิดเผยว่า ได้ไปจัดงานเลี้ยงสังสรรค์เพื่อนรุ่นที่ร้านอาหารนี้ราว 30 คน วันที่ 19 ม.ค.65 ที่ผ่านมา ปรึกษากันว่าเลือกร้านอาหารที่ตกเป็นกระแสดัง ก่อนงานเลี้ยงจะเริ่มได้ไปทดลองชิมอาหารกับเจ๊บิวเจ้าของร้านแล้ว ตนเป็นผู้กำหนดเมนูและตกลงราคาเองชุดละ 2,000 บาท รวมราคาที่สั่งเป็นเงิน 13,000 บาท เบื้องต้นได้จ่ายเงินมัดจำไว้ 10,000 บาท

พอถึงเวลางานเลี้ยงตนเพื่อนทยอยได้ไปถึงร้านราว 18.00 น.พบว่ามีอาหารที่สั่งไว้มาวางบนโต๊ะชุดละ 2 จาน มองดูรู้สึกว่าอาหารในจานน้อยกว่าที่อื่นมาก แต่ไม่คิดอะไรจึงถ่ายรูปอาหารเหล่านั้นไว้ พอเห็นหม้อกระเพาะปลาน้ำแดงที่สั่งให้ใส่เนื้อปู จึงพิสูจน์ควานหาเนื้อปูเท่าไหร่ก็ไม่เจอ พบว่ามีแต่เนื้อไก่และหน่อไม้ เดิมตกลงราคาหม้อละ 4,000 บาท

ได้บอกเน้นย้ำกับทางร้านให้ใส่เนื้อปู ราคาจึงเพิ่มเป็นหม้อละ 5,000 บาท และได้สอบถามเด็กเสิร์ฟว่าอาหารหมดหรือยัง ได้คำตอบว่าทุกอย่างลงบนโต๊ะหมดแล้ว มองดูแล้วเกิดความไม่สบายใจในปริมาณอาหาร หลังดื่มกินเสร็จ กระทั่งเวลา 22.30 น. จึงสั่งเช็กบิล พบว่าผิดสังเกตขณะรอบิลนานมากจนล่วงเลยเวลา 23.00 น.ไปแล้ว

พอเห็นบิลยาวเฟื้อยพบราคา 3 หมื่นกว่าบาท ทุกคนในงานต่างตกใจมาก ไม่คิดว่าจะแพงขนาดนี้ เบื้องต้นจึงยังไม่ขอจ่ายเงินตามบิล แต่ขอไปปรึกษากันก่อนว่าราคานี้สมควรจ่ายหรือไม่ แม้แต่ค่านักดนตรีเดิมทีตกลงไว้ราคา 4,000 บาท เล่นตั้งแต่ 18.00-22.00 น. นักดนตรีมาหกโมงกว่าเลิกก่อนสี่ทุ่ม แต่คิดราคา 5,000 บาท ไม่ว่ากันรับได้

ส่วนราคาน้ำแข็ง 111 ถัง เขาจะบอกกี่ถังก็ได้เพราะไม่เคยไปนั่งนับ ถามว่าคนอายุ 50 กว่าปี กินน้ำแข็งมากมายขนาดนี้เชียวหรือ แค่ติดใจที่ปริมาณอาหาร หากตกลงยินดีโอนให้เดี๋ยวนี้ทันที “เราไม่ชักดาบพร้อมจ่ายค่ะ” นางปาริชาติ กล่าว

ขณะที่ เจ้บิว เจ้าของร้านอาหารชื่อดัง อ้างว่าอยู่ต่างจังหวัดมาไม่ทัน นางปริชาติกล่าวว่า ถ้าเจ้บิวมาพบช่วงบ่ายตามที่กล่าวอ้าง เป็นไปได้ให้เจ้บิวยกหม้อใส่กระเพาะราคา 5,000 บาทมาด้วย ถ้าบอกว่าซื้อน้ำมันมาทอดไก่แพง ให้ยกน้ำมันมะกอกราคา 2,000 บาท มาด้วย เราไม่ได้เรียกร้องให้ใช้วัตถุดิบอย่างดี แต่เจ้บิวอ้างว่าใช้วัสดุเกรดพรีเมี่ยม ถามว่าใช้น้ำมันมะกอกทอดให้ลูกค้าที่มาทานอาหารทุกคนหรือไม่ แค่เราเรียกร้องขอเนื้อปูและกระเพาะปลาแท้แค่นั้น

ด้านนายชาญชัย รองผู้ว่าราชการ จ.นครพนม กล่าวว่า รู้สึกไม่สบายใจจึงต้องเชิญทั้งสองฝ่ายมาคุยกันเพื่อความเป็นธรรม แต่ยังรอทางเจ้าของร้านที่ยังมาไม่ได้ จะได้นัดมาพูดคุยกันในช่วงบ่ายอยากจะให้ร้านชี้แจงมาว่ามีเหตุผลอย่างไรบ้าง อยากให้ปรับความเข้าใจกัน ขณะที่ภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวนครพนมกำลังเป็นที่รู้จัก อยากให้ปัญหาจบกันด้วยดีทั้งสองฝ่าย พูดคุยกันด้วยเหตุด้วยผล ภาครัฐไม่ได้นิ่งนอนใจ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ลุล่วงไปด้วยดี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook