32 ปีที่ไทยรอคอย! เพจดังเผยภาพประวัติศาสตร์ "ประยุทธ์" เข้าเฝ้าเจ้าชายซาอุฯ

เผยภาพประวัติศาสตร์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ไทย เข้าเฝ้าเจ้าชายซาอุดีอาระเบีย หลังจากลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตมาเป็นเวลา 32 ปี

วันนี้ (25 ม.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 18.25 น. เพจเฟซบุ๊ก "เชียร์ลุง" โพสต์ข้อความและภาพประวัติศาสตร์ที่เป็นภารกิจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ไปเยือนซาอุฯ เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปี โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

"32 ปีที่รอคอย! "ลุงตู่" นายกฯ และคณะ ได้เดินทางถึง กรุงริยาร์ด ซาอุดีอาระเบียแล้ว

วันนี้ (25 ม.ค. 65) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะ ได้ออกเดินทางจากกองบิน 6 กองทัพอากาศ ดอนเมือง ไปเยือนซาอุดีอาระเบีย อย่างเป็นทางการครั้งแรกในรอบ 32 ปี เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ "ไทย-ซาอุฯ"

โดยมี นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศ, นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน, นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน, นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกฯ และ น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ร่วมคณะ

โดย นายกฯ "ลุงตู่" จะเข้าเฝ้าฯ เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมซาอุดีอาระเบีย

ซึ่งเครื่องบิน Airbus A340 ของกองทัพอากาศไทย ซึ่งมีนายกฯ "ลุงตู่" และคณะ อยู่ในนั้น ได้ลงจอดที่สนามบินในกรุงริยาร์ด ซาอุดีอาระเบีย แล้วเมื่อครู่ที่ผ่านมา นับเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปีที่เที่ยวบินของกองทัพอากาศ ได้ลงจอดบนแผ่นดินซาอุดีอาระเบีย หลังถูกลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตลง

หลังเสร็จสิ้นภารกิจ เครื่องบินของนายกฯ "ลุงตู่" และคณะ จะบินกลับไทยทันทีในคืนนี้"

"ดอน" เผยความสำเร็จมาจากหารือร่วม 3 ฝ่าย "ไทย-บาห์เรน-ซาอุ" เมื่อ 6 ปีก่อน

นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ ระหว่างวันที่ 25-26 มกราคมนี้ เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์สองประเทศให้กลับสู่ปกติว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นผลจากการทำงานที่ใช้เวลาต่อเนื่องมา 6 ปี นับตั้งแต่ที่ได้มีการหารือ 3 ฝ่ายในระหว่างประชุมสุดยอดกรอบความร่วมมือเอเชีย (ACD) ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 9-10 ตุลาคม 2559 ที่กรุงเทพมหานคร ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ เจ้าชายเคาะลีฟะฮ์ บิน ซัลมาน อัลเคาะลีฟะฮ์ นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรบาห์เรนในขณะนั้น และนายอาดิล บิน อะหมัด อัลณูบีร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศซาอุดีอาระเบียในขณะนั้น

ซึ่งนายกรัฐมนตรีเอาใจใส่และติดตามมาตลอด 6 ปีที่ผ่านมา พยายามวางพื้นฐานจนได้ผลลัพธ์อย่างที่เห็น ถ้านายกรัฐมนตรีไม่ใส่ใจก็ไม่มาถึงวันนี้ ที่มีการเชิญไปเยือนเพื่อปรับความสัมพันธ์ให้เป็นปกติ ซึ่งไม่ได้เป็นเรื่องง่าย จากที่ความสัมพันธ์ระหว่างกันชะงักงันไป 30 กว่าปี วันที่ 25 มกราคมนี้ จึงถือว่าเป็นนิมิตใหม่ ถือว่านายกรัฐมนตรีเป็นกุญแจสำคัญในเรื่องนี้

นอกจากนี้ นายดอน ยังเปิดเผยอีกด้วยว่า ประเด็นต่างๆ ในอดีต ที่ผ่านมาเราคุยกันเยอะมาก แต่จะพูดถึงก็ไม่เป็นประโยชน์ เราจะก้าวข้ามอดีตไป เพราะได้รับการดูแลและจัดการไปจนถึงขั้นที่พอใจซึ่งกันและกัน ต่อไปต้องข้ามจุดนี้ไปพูดถึงเรื่องอนาคต ระหว่างที่นายกรัฐมนตรีเดินทางไปเยือน ก็จะมีการพูดคุยว่าเราจะเดินหน้าความสัมพันธ์ไปในทิศทางใดและจะทำอะไรร่วมกันต่อไป

ส่วนหลังจากฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างกันในวันนี้ ทั้งสองประเทศจะมีการแต่งตั้งเอกอัครราชทูตมารับหน้าที่ทันทีหรือไม่นั้น นายดอน ระบุว่า เป็นเรื่องที่จะเกิดขึ้นตามมา ทุกอย่างต้องเดินไปตามขั้นตอน ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์กับสองฝ่ายทั้งต่อประชาชนและประเทศชาติ