เขมรมองสื่อไทย39%แย่ลงหลังเสนอข่าวรุนแรง
อีสานโพล์ ม.ขอนแก่น เผยผลสำรวจข้อมูล "ความรู้สึกของคนกัมพูชา จากกรณีปัญหาไทย-กัมพูชา" พบธุรกิจเขมรกระทบมากกว่าร้อยละ 50 แต่ยังเป็นมิตรเหมือนเดิม ขณะที่ร้อยละ 39.1 รู้สึกแย่ หลังสื่อไทยนำเสนอข่าวรุนแรงเกินไป ทั้งที่เขตชายแดนไม่มีภาวะตรึงเครียด
นายประเสริฐ วิจิตรนพรัตน์ อาจารย์ประจำคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ผู้จัดทำอีสานโพลล์ เปิดเผยว่า ผลการสำรวจข้อมูลเรื่อง "ความรู้สึกของคนกัมพูชา จากกรณีปัญหาไทย-กัมพูชา" โดยการสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ประกอบการธุรกิจชาวกัมพูชา ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวนทั้งสิ้น 185 กิจการ โดยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบใช้วิจารณญาน เก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์ระหว่างวันที่ 19-23 พ.ย.โดยกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ประกอบธุรกิจค้าส่ง-ปลีก
ในประเด็นความขัดแย้งระหว่างสองประเทศส่งผลกระทบต่อธุรกิจมากน้อยแค่ไหน พบว่าชาวกัมพูชาร้อยละ 50.8 ตอบว่ามีผลระดับปานกลางถึงมาก ทั้งนี้เนื่องจากธุรกิจของชาวกัมพูชา มีกลุ่มลูกค้าที่สำคัญคือชาวไทยที่พอเกิดเรื่องขึ้นก็งดเดินทางมาซื้อสินค้า รวมถึงขาดความไว้ใจ ทำให้ยอดขายลดลง
เมื่อถามถึงความรู้สึกต่อคนไทยเมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดปัญหา พบว่ากลุ่มตัวอย่างร้อยละ 93.6 รู้สึกเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง เนื่องจากว่าชาวกัมพูชารู้สึกเห็นใจทั้งสองฝ่าย และไม่ได้คิดว่ามีความบาดหมางร้ายแรงอะไรมากมายนัก ส่วนความรู้สึกที่มีต่อรัฐบาลไทยเมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดปัญหา พบว่าร้อยละ 81.2 รู้สึกเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง
ส่วนความรู้สึกต่อคุณภาพของสินค้าไทย เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดปัญหา พบว่าร้อยละ 73.9 รู้สึกเหมือนเดิม และถามความรู้สึกต่อสื่อที่นำเสนอข่าวปัญหาไทย-กัมพูชา เมื่อเทียบกัยช่วงก่อนเกิดปัญหา พบว่า ร้อยละ 59.3 รู้สึกเหมือนเดิม ขณะที่ร้อยละ 39.1 รู้สึกแย่ลง เพราะเห็นว่าสื่อไทยนำเสนอข่าวรุนแรงเกินไป ทั้งๆ ที่เขตชายแดนไม่มีภาวะตรึงเครียดมากขนาดนั้น และร้อยละ 1.6 รู้สึกดีขึ้น
ทั้งนี้เมื่อถามความรู้สึกชาวกัมพูชา ที่มีต่อท่าที่ของรัฐบาลไทยเกี่ยวกับปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชาในปัจจุบันมีความเหมาะสมหรือไม่ โดยร้อยละ 54.4 เห็นว่าไม่เหมาะสม เพราะรุนแรงเกินไป โดยบางส่วนของผู้ประกอบการเห็นว่าลูกค้าจะเกิดความหวาดระแวงตามมา ไทยกับกัมพูชายังเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน น่าจะมีวิธีการอื่นที่ดีกว่านี้เข้ามาแก้ไข ส่วนร้อยละ 40.3 เห็นว่าเหมาะสม เพราะเห็นว่าการที่รัฐบาลไทยมีมาตรการออกมาก็คงมองว่าเหมาะสมแล้ว เป็นเรื่องของการเมือง ไม่อยากยุ่งเกี่ยว