มาดามหลี – สิระ ควงคู่ตั้งโต๊ะ แถลงยอมรับความพ่ายแพ้
มาดามหลี – สิระ ควงคู่ตั้งโต๊ะแถลงรับความพ่ายแพ้ ตั้งแต่หัวค่ำ ยังไม่ทราบผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ บอกทำดีที่สุดแล้ว ไม่มีอะไรเสียใจ ขอทบทวนความผิดพลาด บอกยังสรุปไม่ได้ชื่อพลเอกประยุทธ์ขายไม่ได้แล้ว
นางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ ผู้สมัครเลือกตั้งเลือกตั้ง ส.ส.กทม.หลักสี่ จตุจักร พรรคพลังประชารัฐ เบอร์ 7 พร้อมด้วยนายสิระ เจนจาคะ อดีตส.ส.กทม. และนายจักรพันธ์ พรนิมิตร ส.ส.กทม. เขต 30 ในฐานะหัวหน้าภาค กทม. พรรคพลังประชารัฐ แถลงยอมรับพ่ายแพ้ ตั้งแต่เวลา 19.00 น. ยังไม่ทราบผลอย่างเป็นทางการ
โดยนายสิระระบุว่า ยอมรับผลการตัดสินใจของประชาชน ซึ่งจะต้องกลับมาทบทวนและเราก็ทำดีที่สุดแล้ว ทำตามแบบแผนทุกอย่าง ในสิ่งที่ควรจะทำ ส่วนที่แพ้ไม่เห็นฝุ่นนั้น คิดว่า สาเหตุมาอะไรนั้น นายสิระ กล่าวว่า ก็อยู่ที่การตัดสินใจของประชาชน ส่วนผลที่ออกมาเกินคาดหมายหรือไม่นั้น เราก็ทำดีที่สุดแล้ว
ซึ่งผลคะแนน สะท้อนว่าชื่อของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่สามารถขายได้แล้วหรือไม่ นายสิระ ระบุว่า วันนี้ยังสรุปไม่ได้ เมื่อการตัดสินใจของประชาชนมาแนวนี้ เราต้องหาสาเหตุก่อน ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็โทรมาให้กำลังใจว่าไม่เป็นไร ว่ากันใหม่
ส่วนการเลือกตั้งครั้งหน้าจะส่งนางสรัลรัศมิ์ ลงสนามอีกหรือไม่นั้น นายสิระ ระบุว่า ก็จะต้องไปทบทวน แต่เชื่อว่า ไม่ใช่เร็วๆนี้ หลังจากนี้ ตนก็จะพักผ่อน หาจุดบกพร่อง ว่าทำไมประชาชนตัดสินใจมาแนวนี้ ไม่มีอะไรจะท้อเพราะทำดีที่สุดแล้ว อีกทั้งยังไม่ตัดสินใจว่าอนาคตจะอยู่พรรคพลังประชารัฐต่อหรือไม่ ซึ่งการไม่ได้เป็นผู้แทนราษฎรก็ไม่ได้แปลว่าชีวิตจะแย่ลง อยู่ตรงไหนก็มีความสุข
ส่วนนางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ ได้ขอบคุณ ทุกคะแนนเสียง โดยระบุว่า มีความสุขที่ได้ดูแลประชาชน ไม่มีอะไรต้องเสียใจ ทั้งนี้ต้องทบทวน ว่าประชาชนต้องการอะไรมากกว่านี้ พร้อมฝากไปถึงผู้ชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้ ว่าดีใจด้วย และขอให้ทุ่มเทดูแลประชาชน ขอฝากประชาชนชาวจตุจักรหลักสี่ด้วย
ขณะที่ประธานภาคกทม.ตอบคำถามสื่อมวลชนว่าเครียดหรือไม่ ว่า ก็ขอแสดงความเสียใจกับผู้สมัคร แต่ประวัติการเลือกตั้งก็ที่ผ่านมา แต่ละครั้งเหตุผลและหลักคิดไม่เหมือนกัน พลิกขั้วก็เห็นมาแล้ว ส่วนผลที่ได้รับก็ต้องนำมาถอดบทเรียน เรายังเชื่อว่าคนกทม.สนับสนุนพวกเรา
ส่วนผลการเลือกตั้งในครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อผลการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานครหรือไม่ นายจักรพันธ์ระบุว่าการตัดสินใจในแต่ละสนามของประชาชน มีเหตุผลไม่เหมือนกัน บางครั้งระยะห่างของการเลือกตั้ง ไม่กี่ช่วงเดือนในสนามที่แตกต่างกัน ก็มีผลพลิกเป็นคนละขั้วมาแล้ว และยังเชื่อว่า เราสามารถพิสูจน์ความตั้งใจ ให้พี่น้องประชาชนเห็นได้