เปิดใจทายาท "วิชา รัตนภักดี" ครบ 1 ปี ลุกขึ้นสู้ หยุดความรุนแรงคนเอเชีย

เปิดใจทายาท "วิชา รัตนภักดี" ครบ 1 ปี ลุกขึ้นสู้ หยุดความรุนแรงคนเอเชีย

เปิดใจทายาท "วิชา รัตนภักดี" ครบ 1 ปี ลุกขึ้นสู้ หยุดความรุนแรงคนเอเชีย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เครือข่ายชุมชนเอเชียในหลายรัฐได้ร่วมจัดกิจกรรมรำลึกครบรอบ 1 ปี การจากไปของนายวิชา รัตนภักดี ชายชราเชื้อสายไทยที่ตกเป็นเหยื่อถูกทำร้ายเสียชีวิตที่นครซานฟรานซิสโก โดยมีการจัดขึ้นใน 6 นครใหญ่ทั่วสหรัฐฯ ในวันอาทิตย์ ที่ 30 ม.ค. พ.ศ.2565

ผู้สื่อข่าววีโอเอ ได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณมณฑนัศ รัตนภักดี ลูกสาวของคุณลุงวิชา ถึงมุมมองในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาหลังการสูญเสียคุณพ่อซึ่งได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นให้สังคมอเมริกันหันมาเรียกร้องและต่อต้านความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับชาวเอเชียในสหรัฐฯ มากขึ้น

ความยุติธรรมเพื่อคุณตา "วิชา" สู่ การยุติความรุนแรงคนเอเชีย

ภาพของนายวิชา รัตนภักดี ชาวเชื้อสายไทยวัย 84 ปี เหยื่อที่ถูกทำร้ายเสียชีวิตในนครซานฟรานซิสโก เมื่อมกราคม ปี 2021 ที่ผ่านมา ถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งในสัญลักษณ์การเรียกร้องความยุติธรรม การสร้างความตระหนักรู้ และการแสดงออกเพื่อยืนหยัดต่อต้านอาชญากรรมความเกลียดชังชาวเอเชียในสังคมอเมริกัน

“เราไม่อยากจะพูดว่าเราภูมิใจที่ กรณีของคุณพ่อ (ถูกยกขึ้นมาเป็นสัญลักษณ์ต่อต้านความรุนแรงชาวเอเชีย) แบบนี้ แต่เราอยากจะพูดว่า มันไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวคนอื่นอีกต่อไป”

มณฑนัศ รัตนภักดี ทายาทของนายวิชา บอกกับ วีโอเอ ไทย ว่า โศกนาฏกรรมที่เกิดกับคุณพ่อของเธอมีส่วนกระตุ้นและจุดประกายให้สังคมอเมริกันมองเห็นและรับรู้ปัญหาความรุนแรงต่อชาวเอเชียได้ชัดเจนขึ้น

“การเสียชีวิตของพ่อเนี่ย มันเป็นจุดยืนหยัดเพื่อให้หยุดเสียที ให้คนหยุดทำร้ายชาวเอเชียเสียที คือความสูญเสีย มันไม่เคยออกไปจากใจเราเลย แต่ว่าความที่สถานการณ์มันเห็นทุกวัน แล้วทุกครั้งที่เราเห็นข่าวเหตุการณ์ผู้สูงอายุถูกทำร้ายทุกวัน มันทรมาน

..เรามีลูก ลูกเรา และเรามีแม่ เราก็คิดไปถึงอนาคตว่า คนรุ่นใหม่ที่เป็นเอเชียนอเมริกัน เราไม่อยากให้เขาเติบโตและต้องมาโดนกระทำแบบนี้ เพราะฉะนั้นเราคิดว่ามันไม่สมควรที่จะเกิดเรื่องแบบนี้อีกต่อไป..” มณฑนัศ กล่าวกับ วีโอเอ ไทย

เราต้องออกไปสู้เพื่อพ่อ คดีของพ่อจะได้ช่วยปกป้องคนอื่นด้วย

ความสูญเสียกลายเป็นแรงผลักดันที่ทำให้ มณฑนัส 1 ในลูกสาว 2 คน ของนายวิชา กล้าที่จะก้าวออกมาเป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวร่วมกับผู้คนเพื่อรณรงค์เรียกร้องความยุติธรรม ที่ไม่ใช่เฉพาะกับคดีคุณพ่อของเธอเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงเหยื่อชาวเชื้อสายเอเชียรายอื่นๆนับร้อยนับพัน ที่ตกในชะตากรรมเดียวกัน

“ทุกครั้งเวลาออกไปเนี่ย คุณแม่ก็จะกลัว คุณแม่อายุ 70 คุณ แม่ก็บอกว่าอย่าออกไปเลยนะแม่ก็กลัวเราจะโดนทำร้ายใช่ไหมคะ แล้วเพราะเรามีลูก เราไม่มีใครแล้วใช่ไหม เราก็ต้องบอกว่า.. เราต้องออกไปนะ เพราะไม่งั้นเรื่องของพ่อมันก็จะเงียบ แล้วก็คดีก็จะแบบ คนที่ทำร้ายพ่อเขาก็ต้องออกมาจากเรือนจำ เขาก็จะไม่ได้รับโทษใช่ไหมคะ เพราะว่า เราก็จะต้องออกไปสู้เพื่อพ่อนี้ เราก็ต้องช่วยปกป้องคนเอเชียคนอื่นด้วย เพราะคดีพ่อจะได้ช่วยปกป้องคนอื่นเขาด้วย ไม่งั้นคนเอเชียก็ต้องโดนทำร้ายต่อไปมากขึ้นเรื่อยๆ

..ก็ดีใจทุกครั้งที่เห็นคนเขามาช่วยคดีคุณตา มันเหมือนเป็นกำลังใจ มันทำให้เราแบบ.. (สะอื้น) เข้มแข็งมากขึ้นนะคะ เพราะถ้าไม่งั้นก็.... การเสียคุณพ่อไปนี้มัน..มันอธิบายไม่ถูก... เรียกว่ามันมันปวดร้าวมากค่ะ ก็คือทุกคนที่เวลาเข้ามาให้กำลังใจเรา มันเหมือนกับยาค่ะ มันช่วยพี่ได้เยอะเลย.. " มณฑนัศ บอกกับ วีโอเอ ไทย

แรงสนับสนุนชาวเมือง คือ กำลังใจ

ภาพวาดบนผนังขนาดใหญ่ หรือ mural ที่มองเห็นได้เด่นชัดใจกลางย่านไชน่าทาวน์ ในซานฟรานซิสโก ยืนยันถึงความพยายามของทั้งนายกเทศมนตรี และชาวชุมชนหลากเชื้อชาติในเมืองใหญ่แห่งนี้ที่พร้อมใจกันสนับสนุนและมุ่งหวังให้เรื่องราวการจากไปอันน่าเศร้าของนายวิชา เป็นเครื่องเตือนใจให้สังคมยืนหยัดเพื่อเคียงข้างชาวเอเชียร่วมกัน

ทางซิตี้ (เทศบาลนครซานฟรานฯ) ทำให้ภาพ mural ที่ไชน่าทาวน์ เป็นเครื่องหมายทางประวัติศาสตร์เพื่อเตือนคนต่อไปเนี่ยให้รับรู้ เพื่อยุติความรุนแรงที่เกิดกับชาวเอเชีย คือเมื่อก่อนทุกคนก็คิดว่าไม่ใช่เรื่องของตัวเองใช่ไหมคะแบบไม่ไม่ไม่ใช่เรื่องของครอบครัวตัวเองไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับตัวเองแต่ตอนนี้ทุกอย่างมันเกิดขึ้นกับทุกคน มันเป็นผลกระทบกับทุกคน มีผลกระทบกับครอบครัวตัวเอง มันเป็นต่อส่วนรวมแล้ว..”

การเพิ่มแรงสนับสนุนจากผู้คนหลายเชื้อชาติที่รวมตัวเป็นเครือข่ายยืนหยัดเพื่อชาวเอเชียจากหลายรัฐ ได้รับการสานต่อในวงกว้างมากขึ้น จนกลายเป็นที่มาของจัดงานรณรงค์ยืนหยัดต้านความเกลียดชังชาวเอเชีย ด้วยการรำลึกการถึงจากไปของวิชา รัตนภักดี ชายชราชาวไทย ที่วนมาครบรอบ 1 ปี ในวันที่ 30 มกราคม โดยเป็นการจัดขึ้นพร้อมกันใน 6 นครใหญ่ของสหรัฐฯ คือที่นครซานฟรานซิสโก แอตแลนต้า ชิคาโก ลอสแอนเจลิส นิวยอร์ก และฟิลาเดลเฟีย ภายใต้ชื้่อ Asian Justice Rally คลิกรายละเอียดการจัดงาน https://asianjusticerally.org/

นายวิชา รัตนภักดี ชายเชื้อสายไทยวัย 84 ปี ถูกคนร้ายซึ่งเป็นชายวัยรุ่น วิ่งเข้าไปผลักอย่างรุนแรงจนล้มศรีษะฟาดพื้น ขณะเดินออกกำลังกาย บริเวณย่านที่พัก ในนครซานฟรานซิสโก เมื่อวันที่ 28 มกราคม พุทธศักราช 2564 ก่อนที่นายวิชาซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสจะเสียชีวิตในอีก 2 วันต่อมา โดยตำรวจสามารถจับผู้ต้องหาและนำขึ้นสู่การพิจารณาคดีของศาลนครซานฟรานซิสโก ราว 1 ปีแล้ว แต่คดียังไม่มีความคืบหน้า

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ ของ เปิดใจทายาท "วิชา รัตนภักดี" ครบ 1 ปี ลุกขึ้นสู้ หยุดความรุนแรงคนเอเชีย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook