คาร์ม็อบแคนาดา! ประท้วงมาตรการบังคับฉีดวัคซีนโควิด ทำเมืองหลวงเป็นอัมพาต

ชาวแคนาดาหลายพันคนพากันออกมาประท้วงต่อต้านคำสั่งบังคับฉีดวัคซีนโควิดกลางเมืองหลวง

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า รถบรรทุกและยานพาหนะชนิดอื่นๆ จำนวนหลายสิบคันได้ปิดกั้นพื้นที่การจราจรในย่านใจกลางกรุงออตตาวา เมืองหลวงของประเทศแคนาดา เป็นวันที่ 2 หลังประชาชนหลายพันชีวิตพร้อมใจกันออกมาประท้วงต่อต้านนายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีของแคนาดา และคำสั่งบังคับฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (29 ม.ค.)

รถบรรทุกยังคงจอดอยู่บนถนนสายต่างๆ ใกล้กับอาคารรัฐสภาเมื่อวานนี้ (30 ม.ค.) ซึ่งเป็นช่วง 1 วันก่อนที่บรรดาสมาชิกสภานิติบัญญัติจะกลับมาทำงานหลังวันหยุดนักขัตฤกษ์ ขณะที่ผู้ประท้วงหลายร้อยชีวิตตบเท้าออกมาชุมนุมในวันเดียวกัน โดยคนขับรถบรรทุกหลายรายเปิดเผยว่าจะไม่ยุติการประท้วงจนกว่ารัฐบาลจะยกเลิกคำสั่งฉีดวัคซีน

ขณะที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ลงพื้นที่หาเสียงในรัฐเท็กซัสเมื่อวันเสาร์ กล่าวชื่นชมผู้ประท้วงชาวแคนาดาที่ “ต่อต้านคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายอย่างกล้าหาญ” นับเป็นสัญญาณว่า การทำให้โควิด-19 กลายเป็นเรื่องการเมือง ซึ่งส่วนใหญ่พบเห็นในทางตอนใต้ของสหรัฐนั้น ได้แพร่กระจายไปยังฝั่งแคนาดาแล้ว

สำหรับการประท้วงครั้งนี้ แรกเริ่มแล้วเป็นการประท้วงคำสั่งบังคับให้คนขับรถข้ามพรมแดนต้องฉีดวัคซีน แต่ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นการประท้วงต่อต้านรัฐบาลแคนาดา โดยมุ่งเน้นไปยังการต่อต้านการฉีดวัคซีน

ทางฟากฝั่งของนายกฯ ทรูโดและครอบครัวนั้น เมื่อวันเสาร์ต้องเร่งเดินทางออกจากบ้านพักใจกลางกรุงออตตาวาเพื่อความปลอดภัย หลังจากเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ก่อน เขากล่าวว่าการประท้วงดังกล่าวเป็นความเห็นของ “พวกคนส่วนน้อยตกขอบ” มิได้สะท้อนถึงทรรศนะของชาวแคนาดา

ปัจจุบัน คนขับรถบรรทุกข้ามพรมแดนประมาณ 90% และประชากรแคนาดาเกือบ 79% ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบ 2 เข็มแล้ว แต่ขณะนี้ แคนาดาตกอยู่ท่ามกลางการพุ่งขึ้นของยอดผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งทำให้โรงพยาบาลเผชิญสภาวะตึงตัว ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมในประเทศทะลุ 3 ล้านราย โดยตรวจพบผู้ติดเชื้ออย่างน้อย 1 ล้านรายในเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา