ประวัติ "อ๊อฟ" สุรชาติ เทียนทอง ลูกชายป๋าเหนาะ ผู้มาทวงคืนเก้าอี้ ส.ส.จตุจักร-หลักสี่
สุรชาติ เทียนทอง ทวงคืนเก้าอี้ จตุจักร-หลักสี่ หลังแพ้กลางกระแสโดนทุจริตบัตรเลือกตั้ง
ผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. กรุงเทพมหานคร เขต 9 จตุจักร-หลักสี่ อย่างไม่เป็นทางการ นายสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัคร ส.ส. ในนามพรรคเพื่อไทย ได้รับคะแนนเสียงทิ้งห่างคู่แข่งไปกว่า 9,000 คะแนน ซึ่งหลังนับผลคะแนนไปได้กว่า 70% แต่ละพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครลงชิงเก้าอี้ ต่างแถลงยอมรับผลการเลือกตั้ง ยินดีกับนายสุรชาติ และชื่นชมว่าเขาคือแบบอย่างของคนที่ตั้งใจทำงานและไม่เคยทิ้งพื้นที่
นายสุรชาติ เทียนทอง เป็นลูกชายคนที่ 3 ของนายเสนาะ เทียนทอง เจ้าพ่อวังน้ำเย็น และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและสาธารณสุข กับนางจิตรา โตศักดิ์สิทธิ์ ภรรยาคนแรก และมีพี่ชายต่างมารดา คือ นายสรวงศ์ เทียนทอง ผู้อำนวยการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ และอดีต ส.ส. สระแก้ว พรรคเพื่อไทย และเป็นลูกพี่ลูกน้องกับ นายฐานิสร์ เทียนทอง อดีต รมช.มหาดไทยและอุตสาหกรรม และนางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ สังกัดพรรคพลังประชารัฐ
ปัจจุบันอายุ 42 ปี สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านการจัดการบริการด้านการเงิน และ ปริญญาโทสาขาผู้นำองค์กร จากมหาวิทยาลัยจอห์นสัน แอนด์ เวลส์ สหรัฐอเมริกา ก่อนที่จะเข้าสู่สนามการเมืองในนามพรรคประชาราช ของนายเสนาะ เมื่อปี 2550 แต่ไม่ได้เป็น ส.ส. จนย้ายมาสังกัดพรรคเพื่อไทย และชนะการเลือกตั้ง ส.ส. กทม. เขตหลักสี่ ปี 2554 ในนามพรรคเพื่อไทย และพ่ายแพ้ให้กับนายสิระ เจนจาคะ ในการเลือกตั้งปี 2562 ไปด้วยคะแนน 32,115 ต่อ 34,907 คะแนน ตามลำดับ ท่ามกลางข้อพิรุธต่างๆ เช่น บัตรเลือกตั้งล่วงหน้าของเขต 9 จตุจักร-หลักสี่ ถูกส่งไปเขต 1 พระนคร-สัมพันธวงศ์-ป้อมปราบศัตรูพ่าย แต่ตัวเลขผู้มาใช้สิทธิกับบัตรดีและบัตรเสียกลับตรงกัน
เคยดำรงตำแหน่งต่างๆ ทางการเมือง อาทิ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย, อดีตโฆษกคณะกรรมาธิการการสื่อสารและโทรคมนาคมของสภาผู้แทนราษฎร, สมาชิกสภาพัฒนาการเมือง ซึ่งรับตำแหน่งขณะที่เป็น ส.ส. เมื่อปี 2554-2557 แต่หลังจากพ่ายแพ้การเลือกตั้งปี 2562 ก็ไม่เคยเข้าสภาอีกเลย แต่ยังลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนทุกวันไม่ขาดสายตั้งแต่ ปี 2557 หลังรัฐประหาร เนื่องจากนายสุรชาติ ถือว่าคติว่าจะเข้าไปในรัฐสภาก็ต่อเมื่อเป็นผู้แทนราษฎรเท่านั้น
และในการหาเสียงเลือกตั้งซ่อม นายสุรชาติจึงใช้แท็กไลน์ทวงศักดิ์ศรีคืนคนในพื้นที่ “เลือกคนทำงานเพื่อศักดิ์ศรีคนจตุจักร-หลักสี่” และวิธีการเดินหาเสียงด้วยสไตล์การเมืองสะอาดไม่เน้นกระแสโจมตีหรือสร้างความขัดแย้งกับใคร พร้อมนโยบายที่เป็นรูปธรรมคือลดราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีแดงที่เคยได้รับอนุมัติการก่อสร้างสมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ให้เหลือ 15-20 บาทตลอดสาย เพื่อคนจตุจักรและหลักสี่สามารถโดยสารเข้าเมืองไปทำงานได้ด้วยราคาที่ไม่แพงเกินไป
อัลบั้มภาพ 10 ภาพ