ล้วงหัวใจ "ไมค์ ภิรมย์พร" อดีตเด็กล้างจาน-รปภ. สู่คุณพ่อที่ส่งลูกๆ เรียนจบนอก ตามความฝัน
เป็นหนึ่งในนักร้องที่มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก สำหรับ ไมค์ ภิรมย์พร เจ้าของบทเพลงฮิตระดับตำนาน ยาใจคนจน ซึ่งทำให้ได้รับฉายาจากแฟนๆ ทั่วทั้งประเทศว่า #ขวัญใจคนใช้แรงงาน
โดยล่าสุดเจ้าตัวได้มีโอกาสออกมาเปิดใจในรายการ Z Story Z Holiday ช่องอมรินทร์ทีวี เอชดี ช่อง34 กับสองพิธีกร หมอก้อง สรวิชญ์ และ ลิตา อินท์ชลิตา ในหลายๆ เรื่องทึ่คนยังไม่รู้ถึงความสำเร็จของคนในครอบครัว พร้อมทั้งอัปเดตผลงานเพลงว่าจะได้ฟังกันเมื่อไหร่
หลายคนชื่นชมเรามาก โดยเฉพาะเรื่องที่ส่งเสียลูกสาวจนเรียนจบเมืองนอก ?
"ช่วงแรกที่คนโต กับคนที่สองไป ช่วงนั้นอยู่ระดับไฮสคูล หรือม.3 เรียนที่แคนาดา แต่ว่าตอนนั้นเพิ่งจะเริ่มๆ ทำธุรกิจนี้ เราก็บอกกับเขาว่า ถ้าหนูอยากไปเรียนต่างประเทศ พ่อจะให้ไป แต่พ่อมีทางให้เลือกอยู่ 2 ทาง คือ 1 ไปแล้วถ้าอยู่ได้ ก็อยู่ไปกัดฟันส่งให้ และ 2 ถ้าอยู่ไม่ได้แล้วกลับมา หมดสิทธิ์ที่จะไปอีกแล้ว เพราะพ่อไม่มีเงินขนาดนั้น ที่จะส่งไปบ่อยๆ สุดท้ายสองคนพี่น้องเขาก็ตัดสินใจไป จนตอนนี้ก็ยังไม่กลับมา แต่ก็เคยมาเยี่ยมอยู่ ครั้งสองครั้ง ตั้งแต่เรียนไฮสคูลจนจบมหาวิทยาลัย รวมแล้ว 10 กว่าปี"
ในฐานะพ่อ เราภูมิใจในตัวลูกสาวมากแค่ไหน ?
"ภูมิใจอย่างที่สุดของชีวิต ทุกวันนี้ในขณะที่เขาเรียน เขาก็ทำงานไปด้วย เลี้ยงดูตัวเอง เป็นเด็กเสิร์ฟ ตามร้านอาหาร เขาไม่ได้สร้างความหนักใจให้กับพ่อแม่เลย พวกเขาเป็นเด็กที่ดี อย่างคนเล็กเขาก็เพิ่งตามพี่ๆ เขาไปอยู่ ประมาณ 4-5 เดือนแล้ว"
หลายคนก็คิดถึงผลงานเพลงของเรา ?
"ไม่แน่ครับ อาจจะมีโอกาส แต่จริงๆ บอกกับตัวเองว่า พอเราอายุมากขึ้น เราก็อยากจะเกษียณตัวเอง แต่ทางผู้ใหญ่อย่างแกรมมี่ เขาก็บอกว่า อย่าเพิ่งเลย อย่างน้อยๆ ออกมาให้แฟนๆ ได้หายคิดถึง ปีนึงสักหนึ่งซิงเกิล ตอนนี้กำลังคุย เจรจา ยังไม่ได้เกษียณไปเลยซะทีเดียว ตอนนี้ถ้าอยากติดตามผลงานอื่นๆ อย่างเกษตร หรือเกี่ยวกับเสียงเพลงก็อาจจะเป็นเสียงเพลงในสวนที่จังหวัดอุดรธานี แฟนเพลงสามารถแวะไปที่ร้าน ก็จะมีมินิคอนเสิร์ตบ้าง วางแผนไว้แบบนั้นครับ"
ฉายา ขวัญใจคนใช้แรงงาน ได้มาอย่างไร ?
"ฉายานี้มาจากทางผู้ใหญ่ของแกรมมี่ หรือพี่ตี่ กริช ทอมมัส และอีกส่วนหนึ่งคือ ชีวิตของเราด้วย สมัยก่อนเราลำบากมาก ทั้งทำงานก่อสร้าง เด็กเสิร์ฟ เด็กรับรถ เป็นยาม เด็กล้างแก้ว เด็กห้องน้ำ ชีวิตเราทำมาหมด"
จุดเริ่มต้นของการเป็นนักร้อง
"เราเป็นยาม ก็เลยได้รู้จักพี่ๆ นักดนตรี ที่เขามาเล่นดนตรีกัน เราก็พยายามร้องเพลงให้เขาฟังอยู่เรื่อยๆ หาโอกาสให้ตัวเอง แล้วเขาก็เห็นว่าเราชอบร้องเพลง แล้วช่วงเวลาที่เขาพัก เขาก็จะชอบให้เราร้องเพลงให้ฟัง เราก็ร้องให้ฟังสดๆ จนกระทั่งมีป๋าท่านหนึ่ง ที่รู้จักกับโปรดิวเซอร์ของแกรมมี่ ทำเพลงลูกทุ่งอยู่สมัยนั้น เขาก็เลยพาเราไปฝาก เพราะเห็นว่าเรามีแวว เขาก็มาไปเทสเสียง"
เห็นว่าชีวิตโดนดูถูกมาเยอะ ?
"เป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องเจอแบบนี้ เขาก็บอกว่าเพลงแบบนี้ หน้าตาแบบนี้ไม่ดังหรอก ช่วงแรกๆ แต่เราบอกตัวเองว่า ไม่เป็นไร คำพูดที่เขาพูด ที่แทงใจเรา ถือว่าเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวเอง มีบ้างที่ท้อ แต่พอเรามาคิดว่า ท้อไปมันก็เสียเวลา เราสู้ดีกว่า ต้องมีสักวันที่เป็นของเรา เลือกที่จะสู้ชีวิต ไม่ยอมแพ้ เอาทุกอย่างมาเป็นพลัง จนมาพีคที่สุด ก็คือเพลง ยาใจคนจน สมัยนั้นยังเป็นเทปคาสเซ็ท ก็ประมาณล้านตลับ ชีวิตพลิกผันเลย มีเงินปลดหนี้ให้แม่ ได้สร้างบ้านให้กับพ่อแม่ เพลงนี้ถือว่าเปลื่ยนชีวิตไปเลย และได้เป็นขวัญใจคนใช้แรงงานตั้งแต่นั้นมา"
หลายคนยังมองว่าเป็นศิลปินติดดิน ถึงแม้จะโด่งดัง ?
"เพราะว่าเรามีความคุ้นเคย มีวิถีอยู่กับพ่อแม่ ถึงแม้จุดหนึ่งเราจะประสบความสำเร็จ บางครั้งเราใช้ชีวิตหรู ทานอาหารดีๆ ก็มี ใช้ของแบรนด์เนมก็มี เคยไปซื้อกระเป๋าสตางค์หลุยส์ครั้งหนึ่ง พอซื้อมาก็ยังมานั่งนึกเสียดาย ใช้จนขาดตอนนี้ก็ยังเก็บไว้ ให้รู้ว่าครั้งหนึ่งเราเคยใช้ แต่สุดท้ายแล้ว เราก็มาเปรียบเทียบกับของที่ไม่แพงแต่ใช้ได้เหมือนกัน จุดประสงค์เดียวกัน ก็เลยคิดว่ามันไม่จำเป็น วิถีเราเป็นแบบนี้ กินง่าย อยู่ง่าย เราสบายใจแบบนี้มากกว่า"
ตอนนี้หันมาเอาดีทางด้านธุรกิจจนประสบความสำเร็จ ?
"ก็เริ่มจากปลาร้าครับ คือเรามีความคลุกคลีอยู่กับปลาร้ามาตั้งแต่เด็ก สมัยก่อนพ่อแม่ทำไร่ทำนา ก็จะจับปลาจากทุ่งนามาหมักปลาร้า ก็เลยมีความผูกพันกับปลาร้าอยู่ในสายเลือด ขาดไม่ได้ ส่วนแรงบันดาลใจคือ คุณพ่อ ด้วยความที่คุณพ่อท่านป่วย เป็นมะเร็งท่อน้ำดี ก็คือพยาธิใบไม้ในตับ ที่แฝงตัวอยู่ในปลาที่มาหมักเป็นปลาร้า หรือในปลาส้มก็ดี พอคุณพ่อเสียด้วยโรคนี้ เราก็เลยคิดว่า อยากให้คนไทยได้กินของที่สุก สะอาด เราจึงมาสานต่อความตั้งใจเพราะมีคุณพ่อเป็นแรงบันดาลใจ"
"ซึ่งที่ผ่านมาเรามีการลองผิดลองถูก อย่างเช่น ใช้วิธีการต้ม หม้อนี้สูตรนี้ อีกหม้อก็อีกสูตร ประมาณ 3-4 หม้อ ลองให้หมด หม้อไหนไม่อร่อยก็เททิ้ง แล้วเราก็ได้ไปปรึกษากับ รศ.ดร.เชาว์ ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน อาจารย์เขาก็ได้ให้คำแนะนำ จนสุดท้ายก็ได้สูตรน้ำปลาร้ามาครับ"
สามารถอัปเดตผลงานความเคลื่อนไหว ของเราได้ทางไหนบ้าง ?
"ติดตามได้ทางเพจเฟซบุ๊กครับ หรือถ้าใครผ่านไปอุดรฯ ก็แวะไปหาได้ครับ ผมอยู่ทุกวัน ไม่ได้เจอกันที่คอนเสิร์ต ก็ไปเจอกันที่นาได้ครับ (ยิ้ม)"
ติดตามทุกประเด็นร้อน เพิ่มเติมความแซ่ด กับชื่อรายการใหม่ Z Story Z Holiday วันเวลาเปลี่ยน ชื่อเปลี่ยน แต่ยังคงคอนเซ็ปท์เม้าท์ให้ Z เหมือนเดิม ในรายการ Z Story Z Holiday ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.30 -11.00 น.(เทปใหม่ไม่รีรัน) ทางอมรินทร์ทีวี เอชดี ช่อง 34 หรือรับชมย้อนหลัง youtube : AMARINTV
อัลบั้มภาพ 12 ภาพ