บุกรวบ 2 ผู้ต้องหาสวมรอย "กล่องสุ่มพิมรี่พาย" หลอกให้โอนเงินผ่าน QR code

บุกรวบ 2 ผู้ต้องหาสวมรอย "กล่องสุ่มพิมรี่พาย" หลอกให้โอนเงินผ่าน QR code

บุกรวบ 2 ผู้ต้องหาสวมรอย "กล่องสุ่มพิมรี่พาย" หลอกให้โอนเงินผ่าน QR code
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รอง ผบช.ภาค 1 แถลงจับกุม 2 ผู้ต้องหาสวมรอยกล่องสุ่มพิมรี่พาย

วันนี้ (2 ก.พ.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ สภ.ปากเกร็ด พล.ต.ต.อุดร ยอมเจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม ผู้บังคับการศูนย์สืบสวนสอบสวนภาค 1 พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผู้บังคับการ ภ.จว.จังหวัดนนทบุรี พ.ต.อ.พงษ์ศักดิ์จักร ปรีชาการุณพงศ์ ผู้กำกับการ สภ.ปากเกร็ด พ.ต.ท.สัมพันธ์ ทิมเจริญ รองผู้กำกับการ สส. สภ.ปากเกร็ด และนายรณณรงค์  แก้วเพ็ชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัว นายปุณณพัฒน์ อายุ 25 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีที่ 73/2565 ลงวันที่ 31 มกราคม 2565 และนางสาวฟรี อายุ 22 ปี สัญชาติไทย-มาเลเซีย ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีที่ 72/2565 ลงวันที่ 31 มกราคม 2565 โดยกล่าวหาว่าทั้งสองคน "ร่วมกันฉ้อโกงแสดงตนเป็นบุคคลอื่นและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนอันเป็นการกระทำต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง"  

โดยจับกุม นายปุณณพัฒน์ ได้ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ ส่วนนางสาวฟรี จับกุมตัวได้ที่บริเวณร้านกาแฟริมถนนพัทยาใต้ สาย 3 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ตรวจยึดของกลางได้ทั้งหมด 3 รายการ ได้แก่

  1. สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารยูโอบี
  2. โทรศัพท์มือถือยี่ห้อแอปเปิ้ล รุ่น iPhone 12
  3. โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ iPad รุ่น mini 5

พ.ต.ท.สัมพันธ์ ทิมเจริญ รองผู้กำกับการ สส. สภ.ปากเกร็ด เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากก่อนถูกจับกุมตัว ผู้เสียหายได้โพสต์ข้อความขอรับเงินคืนเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2565 ใน facebook ชื่อ "พิมรี่พายขายทุกอย่าง" จากนั้นได้มีคนร้ายซึ่งใช้ facebook สวมชื่อของเพจ พิมรี่พาย ติดต่อมายังผู้เสียหายและแอบอ้างว่า ตนเองเป็นแอดมินของเพจดังกล่าว จากนั้นได้ส่งคิวอาร์โค้ดมาให้ผู้เสียหายโดยอ้างว่าเป็นการรับคืนยอดจากบริษัทจำกัดพิมรี่พาย กรณีไม่พอใจสินค้าที่อยู่ในกล่องสุ่ม

ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงสแกนคิวอาร์โค้ดดังกล่าวจำนวน 2 ครั้ง เป็นเหตุให้เงินออกจากบัญชีของผู้เสียหายไปยังบัญชีธนาคารของนางสาวฟรี จากนั้นนางสาวฟรี ได้โอนเงินจำนวนดังกล่าวของผู้เสียหายไปยังบัญชีของนายปุณณภัทร ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่านายปุณณพัฒน์ เคยก่อเหตุหลอกลวงผู้เสียหายมาแล้วหลายราย และมีประวัติต้องโทษทางคดีอาญาเกี่ยวกับทรัพย์อีกจำนวน 3 คดี คือ

  1. ในเขต สภ.พระพรหม จังหวัดนครศรีธรรมราช คดีฉ้อโกงทรัพย์
  2. สภ.ทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช คดีลักทรัพย์ และ
  3. สน.หนองค้างพลู คดีฉ้อโกงประชาชน จึงได้รวบรวมหลักฐานทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองคนไว้ได้ดังกล่าว

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังฝากเตือนถึงผู้ที่มีพฤติการณ์รับจ้างเปิดบัญชีหรือนำบัญชีของตนเองโดยใช้บัญชีเงินฝากของกลุ่มมิจฉาชีพหรือผู้กระทำผิดกฎหมายซึ่งจะต้องรับโทษตามกฎหมายเทียบเท่าผู้กระทำความผิด โดยปัจจุบันพบว่ามีการกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวจำนวนมาก ซึ่งตำรวจภูธรภาค 1 จะดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวโดยใช้มาตรการลงโทษทางกฎหมายในฐานความผิดชั้นสูงสุดและดำเนินคดีในความผิดฐานฟอกเงิน เพื่อเป็นแบบอย่างมิให้กระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวแก่สุจริตชน คนทำมาหากิน และจะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

ขณะที่ นายนัฐวุฒิ ผู้เสียหายกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจโทรไปแจ้งว่าจับคนร้ายได้แล้ว ก็ให้มาชี้ตัวและมาดูว่าจะคืนเงินให้หรืออย่างไร ตนรู้สึกดีใจที่ได้รับข่าวดี เท่าที่ทราบผู้ต้องหาบอกว่าพร้อมที่จะคืนเงิน ส่วนเรื่องคดีต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำตามกฎหมายต่อไป อาจจะต้องให้เขารับโทษเพราะสิ่งที่เขาทำมันเสียหายหลายส่วนไม่ใช่แค่ตัวตน อย่างพิมรี่พายก็เสียหายด้วยเพราะมาใช้ช่องทางนี้หาเงิน ตนได้พูดคุยกับผู้ต้องหานิดหน่อยว่าการกระทำของเขาแบบนี้ทำให้หลายคนเป็นทุกข์ เพราะทุกคนหาเงินมาด้วยน้ำพักน้ำแรง แต่เขาทำแบบนี้ใช้เวลาเพียงสั้นๆ แต่เอาเงินไปใช้ส่วนตัวกับความสุขของเขาโดยไม่แคร์ความรุ้สึกของคนไทยด้วยกัน มันไม่ค่อยแฟร์เท่าไหร่ แต่ตนไม่ได้ถามว่าเอาเงินไปทำอะไร เห็นบอกกับตำรวจว่าเอาเงินไปใช้กินเที่ยวทั่วไป ซื้อเสื้อผ้าใส่ ตนก็จะะเอาเคสนี้ไว้เป็นบทเรียนกับการช้อปปิ้งออนไลน์ต่อไป ฝากถึงนักช้อปออนไลน์จะสั่งซื้ออะไรให้ดูเลขบัญชีอย่างเดียว แต่ถ้ามาเป็นบาร์โค้ดอย่างเดียวไม่แนะนำเลย ถ้าจะโอนก็ให้เข้าบัญชีเราอย่างเดียว

ทางด้าน ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า วันนี้ดีใจและภูมิใจที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด และทางตำรวจภูธรภาค 1 นำกำลังไปจับคนร้ายมาได้ ทำแบบนี้ดีอย่างหนึ่ง เพื่อทำให้เคสอื่นๆ เป็นตัวอย่างบ้าง คดีนี้มีความเชื่อมโยงที่กัมพูชา ทุกคดีที่ตนทำส่วนใหญ่ไม่มีวิ่งไปที่พม่าหรือลาวเลย อยู่แต่แถวนี้ 99% อาจต้องฝากถึงคนที่มีอำนาจเอาเครื่องบินรบไปจับพวกนี้มาให้หมดได้หรือไม่ ไม่ใช่ให้มาหลอกคนไทยแล้วหนีเข้าเขมร เคสแบบนี้ฝากบอกไว้เลยว่าวันนี้อาจจะไม่โดนจับ แต่วันพรุ่งนี้อาจจะโดนจับแน่นอนไม่วันใดก็วันหนึ่ง แล้วไม่ว่าคุณจะเป็นบัญชีม้าอะไรก็ตาม ต่อให้คุณคืนเงินก็ติดคุกอยู่ดี อันนี้คือคำตัดสินของศาลฎีกาใหม่ รับโทษเท่ากับคนที่ฉ้อโกงเลย

สภ.ปากเกร็ด คดีของพิมรี่พายที่ติดต่อตนร่วม 10 รายได้ ไม่นับพื้นที่อื่น แต่ที่อื่นไม่คืบหน้าเท่าที่ปากเกร็ดเลย ไม่รู้ว่าทำไม เราป้องกันไม่ให้คนมาโกงเราไม่ได้ แต่เราจะซื้อของกับใครต้องดูให้ดีๆ ไปทีวีทุกช่องก็ถามทุกช่องว่าป้องกันยังไงไม่ให้ถูกโกง ทำได้ดีที่สุดคือป้องกันตัวเอง เลือกเพจที่น่าเชื่อถือ ตรวจสอบได้ เป็นเพจจริงหรือไม่ มีแอดมินจริงหรือไม่ และบัญชีปลายทางถ้าในกรณีเป็นบริษัทต้องเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือเป็นชื่อของคนที่เราคุยอยู่ เช่น เพจพิมรี่พายก็ต้องชื่อพิมรี่พายไม่ใช่ชื่อคนอื่น

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ ของ บุกรวบ 2 ผู้ต้องหาสวมรอย "กล่องสุ่มพิมรี่พาย" หลอกให้โอนเงินผ่าน QR code

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook