“ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ผู้แข็งแกร่งที่สุดในปฐพีบนสังเวียนเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.
Highlight
- “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” นักการเมืองผู้เป็นเจ้าของมีม “ชายผู้แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี” ที่โด่งดังในโลกออนไลน์ แต่เขาระบุว่า ความนิยมในโลกออนไลน์ไม่สะท้อนความนิยมในโลกออฟไลน์ได้
- ชัชชาติเป็นหนึ่งในว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เขาพบว่าแพชชั่นของตัวเองคือการทำให้คนอื่นมีความสุข นั่งทำให้เขากระโดดเข้าสู่สังเวียนเลือกตั้งผู้ว่าฯ เพราะเขาต้องการช่วยแก้ปัญหาชีวิตความเป็นอยู่ให้กับชาวกรุงเทพทุกกลุ่ม
- นโยบายของชัชชาติคือทำให้กรุงเทพเป็นเมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน ดังนั้นปัญหาของทุกคนล้วนเป็นปัญหาสำคัญและต้องได้รับการแก้ไขไปพร้อม ๆ กัน
เชื่อว่าหลายคนคงจะเคยเห็นภาพ “ชายกล้ามใหญ่ สวมเสื้อและกางเกงสีดำ ไม่ใส่รองเท้า ถือถุงกับข้าวเดินเข้ามาในวัด” ผ่านตากันมาบ้างบนโลกออนไลน์ นี่คือภาพที่กลายเป็น “มีม” ด้วยฝีมือชาวเน็ต สร้างเสียงหัวเราะให้กับคนที่ได้พบเห็น และเป็นต้นกำเนิดฉายา “รัฐมนตรีที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี” ของ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” นักการเมืองมากความสามารถและขวัญใจชาวโซเชียล
แม้ช่วงหลายปีที่ผ่านมา ชื่อของชัชชาติจะไม่ถูกกล่าวถึงมากนัก แต่เขาก็ไม่เคยหายไปไหนและยังคงทำงานช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม อดีตรัฐมนตรีผู้แข็งแกร่งที่สุดในปฐพีก็กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง เมื่อเขาตัดสินใจกลับเข้าสู่สังเวียนการเลือกตั้ง ด้วยการประกาศลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น “ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร”
จากรัฐมนตรีโลกลืม สู่ “มีมชัชชาติ”
“ผมว่าสนุกดีนะ จริง ๆ แล้วมันเป็นช่องทางที่ทำให้เรารู้สึกว่า เราก็ไม่ได้แตกต่างจากคนอื่นหรอก ก็แซวได้ ขำได้ สำหรับผมจริง ๆ มันเหมือนโชคช่วย เพราะแต่ก่อนผมจะมีมีม ผมเป็นรัฐมนตรีโลกลืมนะ แต่พอมีมนี้ออกมา กลายเป็นผมก็เปลี่ยนเลย คนรู้จักผมเยอะขึ้น” ชัชชาติเริ่มต้นเล่าเรื่องมีมของตัวเองที่สั่นสะเทือนโลกอินเตอร์เน็ต
“เราก็ออกกำลังกายแบบนี้แหละ เราก็ยังไปใส่บาตรอยู่ เราก็แต่งตัวแบบนี้ไปออกกำลังกาย ผมว่าอันหนึ่งมันไม่เฟค คือถ้าเฟคคงหายไปนานแล้ว แต่บังเอิญเรายังออกกำลังกายอะไรแบบนี้อยู่ ส่วนหนึ่งมันก็คล้าย ๆ ตัวตนของเรา”
ถึงแม้รูปมีมและมุกผู้แข็งแกร่งที่สุดในปฐพีของชัชชาติจะโด่งดังมากในโลกออนไลน์ แต่เขาก็ชี้ว่าความโด่งดังนี้ไม่สามารถสะท้อนกันและกันได้ เนื่องจากมีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจำนวนมากที่ไม่ได้ใช้อินเตอร์เน็ตหรืออยู่กับสื่อออนไลน์
“ก็เหมือนมาร์เก็ตติ้งทั่งไปนั่นแหละ บางส่วนคุณโฆษณาออนไลน์หรือขายออนไลน์ได้ บางส่วนคุณต้องใช้ป้าย บางส่วนคุณต้องใช้สิ่งพิมพ์ ผมว่าโลกออนไลน์อาจจะได้บางส่วน สัก 40% ของคนที่อาจจะเป็นคนรุ่นใหม่ หรือคนที่ยังอยู่กับสื่อ แต่หลายคนที่ทำงานหนักทั้งวัน กลับบ้านไม่มีเวลา ผมว่าก็อาจจะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโลกออนไลน์” ชัชชาติระบุ
ความตั้งใจจะทำให้ทุกคนมีความสุข
“มีคนถามว่า แพชชั่นของผมคืออะไร ทำงานมาตั้งนานผมก็ไม่รู้เลยนะ จนสุดท้ายเราพบว่ามันคือการทำให้คนอื่นมีความสุขขึ้นนิดนึงก็ยังดี ซึ่งผมเชื่อว่าตำแหน่งอย่างผู้ว่าฯ หรือตำแหน่งข้าราชการมีผลเยอะ เพราะเขาเป็นคนเอาทรัพยากรของรัฐกระจายให้คน เพราะฉะนั้นเขาจะมีอำนาจ ในแง่ของทรัพยากร ในแง่ของกฎระเบียบต่าง ๆ ผมจึงคิดว่ามิติของทุกคนถูกแตะต้องด้วยหน้าที่ของผู้ว่าฯ ไม่มากก็น้อย” ชัชชาติตอบคำถามเรื่องการลงสมัครผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร
จุดเริ่มต้นจากการเดินหาเสียงในการเลือกตั้งปี 2562 ทำให้ชัชชาติได้พูดคุยและเรียนรู้เรื่องปัญหาต่าง ๆ ของประชาชนผู้อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ บวกกับความชื่นชอบการลงพื้นที่ทำงานและแก้ไขปัญหามากกว่าการโลดแล่นในพื้นที่ของการเมืองระดับประเทศ จึงทำให้เขาตัดสินใจที่จะลงสมัครผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร เพื่อทำงานแก้ไขปัญหาชีวิตความเป็นอยู่ของคนกรุง
“ผมเชื่อว่าทำได้ดี ทีมงานเราทำได้ดี เราสามารถปรับชีวิตของทุกคนให้ดีขึ้นได้ ผมเชื่อว่ามันมีผลมากและมันจะตรงกับแพชชั่นของเราที่อยากทำ” ชัชชาติกล่าว
ทำความเข้าใจปัญหาของคนทุกกลุ่ม
“นโยบายของเราคืออยากทำให้เมืองกรุงเทพฯ น่าอยู่สำหรับทุกคน เพราะฉะนั้นเราไม่สามารถเจาะเฉพาะคนที่อยู่ออนไลน์ได้ เราต้องพยายามทุกส่วนเลย ว่าคนที่อยู่บ้าน อยู่ชุมชน คนสูงอายุ เด็ก ดังนั้นหัวใจคือต้องเป็นเมืองที่น่าอยู่สำหรับทุกคน ต้องฟังปัญหาจากทุกคน” ชัชชาติชี้
การลงพื้นที่ในกรุงเทพฯ เพื่อพูดคุยกับประชาชนกลุ่มต่าง ๆ ทำให้ชัชชาติเรียนรู้ว่าปัญหาอย่างรถติดและ BTS แพง ไม่ใช่ปัญหาของทุกคน แต่ยังมีปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย สถานเลี้ยงเด็กอ่อน โรงพยาบาล หรือแม้กระทั่งปัญหาการเดินทางระยะสั้น เช่น จากบ้านไปหน้าปากซอย ซึ่งทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็น “ปัญหาคุณภาพชีวิต” ที่แต่ละคนมีโจทย์ที่แตกต่างกัน
“ปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยเป็นเรื่องสำคัญของเมือง หลาย ๆ ประเทศของโลกแก้ไขปัญหาเมืองโดยเริ่มจากที่อยู่อาศัย ถ้ามีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง เขาจะมีความก้าวหน้าในชีวิตมากขึ้น มีความรักเมือง และดูแลเมืองมากขึ้น ในกรุงเทพเองมีหลายชุมชนมากเลยที่ยังขาดความมั่นคงเรื่องที่อยู่อาศัย ก็คือไม่ได้อยู่ในที่ของตัวเอง อยู่ในที่เช่า ถูกไล่ที่ ผมว่ามีเป็นหลักแสนหลังคาเรือน ซึ่งสิ่งนี้เป็นเรื่องที่เราต้องพยายามแก้” ชัชชาติยกตัวอย่าง
“กรุงเทพไม่ได้มีปัญหาสำคัญที่สุด หนึ่ง สอง สาม แต่เป็นปัญหา หนึ่ง สอง สาม ถึงร้อยที่สามารถแก้ได้พร้อม ๆ กัน เพราะมันมีหลายสำนักที่ดูแล เพราะฉะนั้นอย่าไปคิดว่าปัญหาใหญ่สุดคือรถติด เพราะทุกคนมีปัญหาต่างกัน หัวใจคือเราเข้าใจปัญหาของทุกกลุ่ม และพยายามเริ่มแก้ปัญหาพร้อม ๆ กันไป” ชัชชาติย้ำ
ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ ที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี
ปฏิเสธไม่ได้ว่าชัชชาติกำลังเป็นที่นิยมทั้งในโลกออนไลน์และออฟไลน์ แต่คู่แข่งที่เปิดตัวสู้บนสังเวียนเลือกตั้งผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานครก็ล้วนแล้วแต่โปรไฟล์ดีและได้รับความนิยมเช่นเดียวกัน ซึ่งชัชชาติชี้ว่า เขาไม่กังวลและยังมุ่งมั่นที่จะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนต่อไป
“คนมีความตื่นตัวเรื่องการเมือง ซึ่งนี่เป็นเรื่องสำคัญ เพราะยิ่งคนออกมาเลือกตั้ง มันยิ่งเป็นประชาธิปไตยที่เข้มแข็งขึ้น” ชัชชาติกล่าว ก่อนจะทิ้งท้ายว่า “ถ้าจะเลือกผมคืออยากให้ผมไปทำงาน แล้วก็ไว้ใจผม แต่จริง ๆ แล้วไม่ต้องรีบ ให้รอ เพราะยังมีคนจะเปิดตัวอีกเยอะ รอใกล้ ๆ แล้วเลือกผมว่ายังมีอีกหลายพรรคที่เปิดตัว ไม่ต้องรีบ ผมว่าฟังนโยบายให้ครบถ้วน ดูผู้สมัครให้ครบถ้วน แล้วก็ไว้ใจใคร ใครมีคำตอบที่ดี ผมว่าก็เลือกคนนั้น แต่ถ้าไว้ใจผม อยากให้ผมทำงาน ก็เลือกผม”
ภาพโดย: Ditsapong K.