ปืนยิง บ็อบบี้ เคนเนดี จุกระสุนได้ 8 นัด แต่พบกระสุน 13 นัดในที่เกิดเหตุ

ปืนยิง บ็อบบี้ เคนเนดี จุกระสุนได้ 8 นัด แต่พบกระสุน 13 นัดในที่เกิดเหตุ

ปืนยิง บ็อบบี้ เคนเนดี จุกระสุนได้ 8 นัด แต่พบกระสุน 13 นัดในที่เกิดเหตุ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ราวตี 2 กว่า ๆ ของวันที่ 5 มิถุนายน 2511 (เกือบ 54 ปีมาแล้ว) ระหว่างฤดูการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ผู้เขียนนั่งอ่านหนังสืออยู่หน้าจอโทรทัศน์แบบเปิดทีวีใช้เสียงเป็นเพื่อน ก็เกิดการประกาศข่าวด่วนว่าได้เกิดการลอบสังหารนายโรเบิร์ต ฟรานซิส เคนเนดี สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐอเมริกาแห่งมลรัฐนิวยอร์ก หรือที่คนส่วนใหญ่รู้จักในนามว่า "บ็อบบี้ เคนเนดี" หลังจากที่ชนะการเลือกตั้งผู้สมัครรอบแรกในมลรัฐแคลิฟอร์เนียและมลรัฐเซาท์ดาโคตาเพื่อเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต เพื่อลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในเดือนพฤศจิกายนปีนั้นเอง

บ็อบบี้ เคนเนดี ถูกยิงขณะที่เดินผ่านห้องครัวของโรงแรมแอมแบสาดอร์ และเสียชีวิตในโรงพยาบาลกู๊ดซามาริตันในนครลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย อีก 26 ชั่วโมงให้หลัง

บ๊อบบี้ เคนเนดี เป็นน้องชายของนายจอห์น ฟิตซ์เจอรัลด์ เคนเนดี ประธานาธิบดีลำดับที่ 35 แห่งสหรัฐอเมริกา สหรัฐอเมริกาซึ่งก็ถูกลอบสังหารเช่นกันที่มลรัฐเท็กซัสเมื่อปี 2506

จากหลักฐานและพยานบ่งชัดว่านายเซอร์แฮน เซอร์แฮน ผู้อพยพชาวปาเลสไตน์ วัย 24 ปี ได้เข้าไปยิง บ็อบบี้ เคนเนดี ทางด้านหน้าในระยะเผาขนด้วยปืน รีวอลฟ์เวอร์.22 ยี่ห้อไอเวอร์ จอห์นสัน คาร์เดทที่บรรจุกระสุนได้ 8 นัดและถูกยิงจนหมดกระสุน

แต่หลักฐานบ่งว่ากระสุนนัดที่ร้ายแรงที่สุดถูกยิงที่หลังหูขวาด้วยระยะห่างประมาณ 2 นิ้วแบบว่าจ่อยิงจากข้างหลังและปรากฎว่าเนื่องจากเป็นการยิงในระยะกระชั้นชิดในห้องครัวจึงสามารถพบกระสุนที่ฝังอยู่ตามผนังห้องและเพดานตลอดจนที่ฝังอยู่ในร่างกายของเคนเนดี 2 นัดและผู้อื่นอีก 5 คน 5 นัด 

ส่วนนายเซอร์แฮน เซอร์แฮน รับสารภาพว่าเป็นผู้เข้ายิงบ๊อบบี้ เคนเนดีจริงเนื่องจากถูกผู้ติดตามของบ็อบบี้ เคนเนดี ช่วยกันจับตัวได้แบบคาหนังคาเขาแต่ไม่ได้ซัดทอดผู้ใดโดยอ้างว่าขณะที่กระทำการนั้นเขาเมามาก 

ในที่สุดนายเซอร์แฮน เซอร์แฮน ก็ถูกตัดสินลงโทษฐานฆ่านายย็อบบี้ เคนเนดี และมีโทษประหารชีวิต แต่ต่อมาถูกลดโทษเป็นถูกจำคุกตลอดชีวิต

วันที่ 26 พฤศจิกายน 2554 ทนายความของเซอร์แฮนชื่อนายวิลเลียม เอฟ. เพ็บเพอร์ และทนาย ลอรีย์ ดูเศก ได้เปิดแถลงการณ์หลักฐาน 62 หน้ากระดาษต่อศาลสหรัฐฯอ้างว่านายเซอร์แฮน ถูกใส่ความเพราะว่ากระสุนที่ฝังอยู่ในคอของบ็อบบี้ เคนเนดีนั้นเป็นกระสุนคนละชนิดกับกระสุนที่บรรจุอยู่ในปืนรีวอลเวอร์.22 ยี่ห้อไอเวอร์ จอห์นสัน คาร์เดท ของนายเซอร์แฮน โดยจากหลักฐานนี้ก็เพียงพอว่านายเซอร์แฮน ถูกใส่ความ 

ต่อมานายโรเบิร์ต ฟรานซิส เคนเนดี จูเนียร์บุตรชายคนโตของบ๊อบบี้ เคนเนดีได้เข้าพบและซักไซร้นายเซอร์แฮนถึงในคุกและออกมาให้สัมภาษณ์ว่า 

"มีลูกกระสุนมากเกินไปและคงไม่มีใครที่จะสามารถที่ยิงปืน 13 นัดได้จากปืนที่บรรจุกระสุนได้เพียง 8 นัด"

ครับ! นายเซอร์แฮน อายุ 77 ปีได้ยื่นขอการปล่อยตัวโดยมีการคุมประพฤติ (Parole) ครั้งที่ 16 หลังจากติดคุกมาแล้ว 56 ปีโดยการสนับสนุนของนายโรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ และคณะกรรมการคุมประพฤติก็เห็นชอบด้วย

แต่โชคไม่เข้าข้างผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย นายการ์วิน นิวซัม เป็นผู้ยึดถือเอาบ็อบบี้ เคนเนดีเป็นไอดอลทางการเมืองถึงขนาดมีรูปของบ็อบบี้ เคนเนดี แขวนโชว์อยู่ในห้องทำงานปฏิเสธที่จะลงนามการปล่อยตัวโดยมีการคุมประพฤติครั้งนี้เมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมานี้  ทำให้นายเซอร์แฮนคงต้องคอยโอกาสยื่นขอการปล่อยตัวโดยมีการคุมประพฤติอีกเป็นครั้งที่ 17 ต่อไป 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook