"ไพบูลย์" แฉ 7 ส.ส. ไม่เข้าโหวตสักครั้งในเดือน ธ.ค. 64 เหน็บลาออกไปดีกว่า

“ไพบูลย์” แฉ 7 ส.ส. ขาดโหวตในเดือนธันวาคม 2564 ถึง 70 ครั้ง พร้อมเหน็บ ส.ส. ได้รับเงินเดือนเป็นแสนแต่ไม่ยอมทำหน้าที่ ก็ควรลาออกจากตำแหน่ง ดีกว่ามาเรียกร้องให้ยุบสภา

วันนี้ (4 ก.พ.) นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นำเอกสารรายงานผลการติดตามการลงมติของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นรายบุคคลมาแสดง ซึ่งการแสดงตนเพื่อนับองค์ประชุมเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต ซึ่งเป็นวันที่องค์ประชุมไม่ครบ พบว่า พรรคเพื่อไทยมีจำนวน ส.ส. 131 คน แต่มาแสดงตนเพียง 14 คนเท่านั้น คิดเป็นร้อยละ 10.69 ขณะที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล มี 52 คน ร่วมแสดงตนถึง 42 คน คิดเป็นร้อยละ 80.77

ขณะที่ฝั่งรัฐบาลนั้น พรรคพลังประชารัฐมี ส.ส. เข้าร่วมแสดงตนมากที่สุด 83 คน รองลงมาเป็นพรรคภูมิใจไทย 37 คน และพรรคประชาธิปัตย์ 29 คน ตามลำดับ

สำหรับรายงานการลงมติในเดือนธันวาคม 2564 มีการลงมติทั้งสิ้น 70 ครั้ง พบว่า มีสมาชิก 7 คน ที่ไม่เคยลงมติเลยแม้แต่ครั้งเดียว ประกอบด้วย

1. นายชูศักดิ์ แอกทอง พรรคเพื่อไทย
2. นายพาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์ พรรคชาติไทยพัฒนา
3. นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ พรรคเพื่อชาติ
4. นายสุชาติ ตันเจริญ พรรคพลังประชารัฐ
5. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส พรรคเสรีรวมไทย
6. น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ พรรคเพื่อไทย และ
7. นายอนุทิน ชาญวีรกูล พรรคภูมิใจไทย

นอกจากนี้ จากการตรวจสอบพบว่า มีรัฐมนตรีหลายคนที่มาลงมติเพียงครั้งเดียว จาก 70 ครั้งในเดือนธันวาคม ทั้งนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ขณะที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ มาลงมติเพียง 3 ครั้งเท่านั้น

ทั้งนี้ นายไพบูลย์ กล่าวว่า มีสมาชิกหลายคนพยายามอ้างว่า การไม่เข้าร่วมประชุมเป็นการกดดันให้รัฐบาลประกาศยุบสภา ซึ่งถือว่าเป็นความเข้าใจผิดของสมาชิก หาก ส.ส. ไม่อยากประชุม แสดงว่าไม่อยากเป็น ส.ส. ก็ควรลาออก ดีกว่าเรียกร้องให้ยุบสภา

นายไพบูลย์ ระบุอีกด้วยว่า ส.ส. รับเงินเดือน 100,000 กว่าบาท แต่ไม่เข้าร่วมประชุม ไม่ร่วมลงมติ แต่กลับอ้างการเมืองแล้วไม่ทำงาน ซึ่งจะกลายเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับคนรุ่นหลัง โดยยืนยันว่าหากยังมีพฤติกรรมแบบนี้อีก ตนก็จะทำหน้าที่เปิดเผยข้อมูลลักษณะนี้อีกเช่นกัน เพื่อให้ประชาชนเห็นว่าสมาชิกแต่ละคนทำหน้าที่อย่างไร