จับ สาวแสบ ลวงเหยื่อร่วมเล่นแชร์เสื้อยืด
จับสาวแสบลวงเหยื่อเล่นแชร์เสื้อยืด เมียนายตำรวจใหญ่สูญหลายล้าน
(5ธ.ค.) เวลา 16.00 น. พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ อรัญวัฒน์ ผกก.สน.คลองตัน พ.ต.ต.ชัยพนธ์ เพ็ชรสดศิลป์ สว.สส.สน.คลองตัน และ พ.ต.ต.ธนเทพ เปี่ยมมีสมบูรณ์ สว.สส.กก.สืบสวน บก.น.9 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัว นางอรประภา หรือ "เล็ก" สุรเรืองชัย อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1337/2 ถนนพัฒนาการ แขวงและเขตสวนหลวง กทม.ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง เลขที่ ส.223/2552 ลงวันที่ 1 ก.พ.51 ข้อหาฉ้อโกง โดยจับกุมตัวได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 59/216 หมู่บ้านสินทวี แขวงบางมด เขตจอมทอง กทม.เมื่อช่วงกลางดึก วันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ เปิดเผยว่า การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องมาจาก ก่อนหน้านี้มีผู้เสียหายจำนวนหลายราย เข้ามาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คลองตัน ว่า ถูกหญิงสาววัยกลางคน อ้างตัวว่าชื่อ "เปิ้ล" เจ้าของร้านขายตุ๊กตาชอปเตเต้ บนตึกพัฒนาการไลท์คอมเพล็กส์ ย่านซอยพัฒนาการ 25 เข้ามาตีสนิทและชักชวนให้ร่วมลงทุนทำธุรกิจเสื้อผ้าในลักษณะแชร์เสื้อยืดจนผู้เสียหายทั้งหมดเชื่อใจยอมลงทุนทำธุรกิจด้วย ทำให้ต้องเสียเงินในเบื้องต้นรวมแล้วกว่า 10 ล้านบาท จากนั้นผู้ต้องหาก็เชิดหลบหนีไปและใช้เงินที่หลอกลวงเหยื่อมาได้บางส่วนไปทำศัลยกรรมตกแต่งเปลี่ยนใบหน้า อาทิ ทำจมูก ทำตา และคิ้ว เพื่อไม่ให้มีใครจดจำได้
พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ กล่าวอีกว่า จนกระทั่งวานนี้มีผู้เสียหายรายหนึ่งซึ่งเป็นภรรยาของนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่สังกัด บช.น.พบเห็น นางอรประภา หนีไปเปิดร้านขายตุ๊กตาอยู่ที่หมู่บ้านสินทวี ย่านบางมด เลยประสานให้เจ้าหน้าที่ กก.สืบสวน บก.น.9 เข้าไปตรวจสอบ พบว่า เป็นบุคคลตามหมายจับคดีฉ้อโกง ของ สน.คลองตัน จำนวน 4 คดี จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนเจ้าของคคดีเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งจากการสอบสวนในเบื้องต้นผู้ต้องหายังคงปากแข็งให้การปฏิเสธ
เมื่อผู้เสียหายรายอื่นๆ ทราบข่าวว่า นางอรประภา สาว 18 มงกุฎรายนี้ถูกจับกุมตัวได้แล้ว ก็ชักชวนกันมาดูตัวที่ สน.คลองตัน จำนวนกว่า 10 ราย โดย นางเอ (นามสมมุติ) 1 ในผู้เสียหายซึ่งเป็นภรรยาของนายตำรวจ ให้ข้อมูลว่า ตนรู้จักกับนางอรประภา ที่ร้านขายตุ๊กตา ในหมู่บ้านสินทวี โดยนางอรประภา ได้เข้ามาพูดจาตีสนิท ก่อนชักชวนให้ร่วมทำธุรกิจแชร์เสื้อยืด ซึ่งนางอรประภา อ้างว่ากับตนว่าแค่ลงทุนเพียง 130,000 บาท ก็จะได้ผลตอบแทนสูงถึง 60,000 บาทต่อเดือน เมื่อตนหลงเชื่อจึงไปชักชวนญาติพี่น้องให้ระดมเงินทุนมาร่วมทำธุรกิจนี้ด้วย จนกระทั่งสามารถรวบรวมเงินมาได้สูงถึงจำนวน 4,000,000 บาท ซึ่งในเดือนแรกก็ได้เงินปันผลคืนมาตามจำนวนที่นางอรประภา เคยบอกไว้ แต่สุดท้ายก็ถูกหลอกให้นำเงินดังกล่าวไปลงทุนเพิ่มอีกเรื่อยมา
"จนเวลาผ่านมาเกือบครึ่งปีตนเอะใจที่ยังไม่ได้เงินกำไรเป็นกอบเป็นกำ จึงนำเรื่องไปปรึกษาสามีก่อนประสานให้ตำรวจ กก.สืบสวน บก.น.9 เข้าตรวจสอบประวัติพบว่า นางอรประภา มีหมายจับคดีฉ้อโกง ติดตัวอยู่จำนวนมาก เลยตัดสินใจให้ตำรวจแสดงตัวจับกุมก่อนควบคุมตัวมาส่งให้พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ดำเนินคดีตามกฎหมาย" น.ส.เอ กล่าว
อีกราย นางสมพงษ์ บุญสุข อายุ 42 ปี เจ้าของร้านนวดแผนโบราณ ย่านอ่อนนุช 46 ให้ข้อมูลผู้สื่อข่าวว่า รู้จักกับ น.ส.อรประภา ในฐานะลูกค้าที่มาใช้บริการในร้านเมื่อประมาณ 2-3 ปีที่ผ่านมา ทีแรก น.ส.อรประภา ทำทีเข้าไปเสนอขายตุ๊กตาก่อนจะหว่านล้อมตนว่า ตัวเองมีธุรกิจหลายอย่าง ทั้งเสื้อผ้า และขายข้าวกล่อง จากนั้นก็ชักชวนให้ตนลงทุนทำธุรกิจแชร์ข้าวกล่อง โดยลงทุนเพียงหุ้นละ 2,000,000 บาท แล้วจะได้เงินปันผลทบไปเรื่อยๆ รวมแล้วหลายแสนบาท เมื่อตนหลงเชื่อให้เงินไป เดือนแรกก็ได้เงินปันผลกลับมาแต่ก็ถูกหลอกให้เอาเงินไปลงทุนเพิ่มอีก จนกระทั่งกลางปี 50 น.ส.อรประภา ก็หลบหนีไปไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย ตนจึงตัดสินใจไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่กองปราบปราม และมาทราบอีกทีว่า น.ส.อรประภา ถูกจับกุมตัวได้แล้วจึงรีบมาดูตัวในวันนี้
ด้าน พ.ต.ต.ธนเทพ กล่าวว่า หลังมีผู้เสียหายมาขอความร่วมมือให้ทำการตรวจสอบประวัติ ของ น.ส.อรประภา ผู้ต้องหารายนี้ ซึ่งมีพฤติกรรมหลอกลวงให้เหยื่อหลายรายลงทุนทำธุรกิจแชร์เสื้อผ้าและข้าวกล่อง จึงรีบดำเนินการตามคำร้องขอ พบว่า มีหมายจับคดีฉ้อโกง ในท้องที่ สน.คลองตัน จำนวน 4 คดี และที่กองปราบปราม อีก 3 คดี รวมทั้งหมด 7 คดี เมื่อมั่นใจแล้วว่า เป็นสาว 18 มงกุฎ ตัวจริงจึงวางแผนเข้าจับกุมตัวไว้ก่อนประสานให้ผู้เสียหายรายอื่นๆ เข้ามาดูตัวที่ โดยหลังจากนี้หากผู้ใดสงสัยว่า เคยถูก น.ส.อรประภา หลอกลวงมาก่อนขอให้เดินทางมาอายัดตัวได้ที่ สน.คลองตัน ตลอด 24 ชั่วโมง